ลงไดรเวอร์ ACPI หรือยังครับ

:)

ปัญหาก็คือ ความถนัดของคนมันไม่เหมือนกันน่ะสิครับ

แน่นอนว่าปรับพฤติกรรมน่ะย่อมได้
แต่ถ้าเลือกได้ว่าไม่ต้องปรับ เค้าจะเลือกแบบไหนล่ะครับ
เสียลูกค้ากันมามากต่อมาก ก็เพราะทำตามที่ลูกค้าต้องการไม่ได้

windows สามารถเลือกปรับได้ตามใจชอบ คุณจะใช้ปุ่มไหนก็ได้ ใช้ทั้งสองแบบก็ได้
ไม่มีการบังคับ เป็นการผ่อนปรนให้ user ในระดับหนึ่ง
แน่นอนว่าการใช้ปุ่มนั้น ทำให้เราเสียตัวอักษรที่ควรจะพิมพ์ได้ไปหนึ่งตัว/ภาษา
แต่ user ที่เลือกใช้ เค้าก็ไม่ได้เห็นเดือดร้อนอะไรที่จะพิมพ์ ` ไม่ได้


ผมไม่ค่อยชอบใจนัก ที่คนเขียนโปรแกรมเห็นความสะดวกของตัวเองเป็นที่ตั้ง
แล้วอ้างโน่นอ้างนี่ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเขียนโปรแกรมให้ซับซ้อนขึ้น
โดยที่มองข้ามความสะดวกสบาย รวมถึงความถนัดของคนที่จ่ายเงินค่าโปรแกรมให้เค้าไป

องค์กรผมก็มีโปรแกรมเมอร์แบบนั้น ซึ่งผมก็คงไปบังคับอะไรเค้าไม่ได้
ก็ทำได้แค่เขียนโปรแกรมแบบเดียวกันขึ้นมาใช้เอง โดยมี output เป็นแบบ 100% compatible
เสริมความสะดวกสบาย (ที่ควรมี) ในการใช้งานเข้าไป


ผมคงไม่บังอาจบอกว่าคนที่ห้ามการใช้ Accent Grave ในการเปลี่ยนภาษาอย่างเด็ดขาด
เป็นพวกเอาแต่ใจตัว ไม่มองความสะดวกสบาย ความคุ้นเคยของคนอื่น
แต่ผมไม่เห็นด้วยที่เค้าจะไปบังคับคนอื่น ให้เห็นด้วยตามตัวเอง
โดยปราศจากเหตุผลอันควร

บางคนบอกว่าปุ่มนั้นใช้ในการเขียนโปรแกรม แต่ user สักกี่คน ที่เขียนโปรแกรมเองได้
บางคนบอกว่าปุ่มนั้นสามารถเอามาพิมพ์ได้ตั้งหลายตัว แต่มีกี่คนเชียว ที่แคร์เรื่องนั้น


ที่เขียนมาทั้งหมด ก็อยากให้เข้าใจแนวคิดของผมที่ไม่ค่อยเห็นด้วยนัก
ที่ Dell รุ่นนี้จะตัดปุ่มออกไปตั้งมากมาย (มากกว่า function key กับ ~ แน่ๆ ครับ)

ส่วนเรื่องที่ ~ ไม่มีประโยชน์เมื่อใช้มากกว่า 2 ภาษา
อันนี้ผมว่าไม่จริงนะ มันใช้ในการ switch ภาษา
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นปุ่มอะไร มันก็คือการ Switch ภาษาอยู่ดี
เพียงแต่เรากำหนดให้เป็นปุ่มไหนเท่านั้นเอง

:)

ป.ล. อีกอย่างหนึ่ง ผมใช้ปุ่ม ~ พิมพ์เครื่องหมาย % ตอนที่แป้นพิมพ์เป็นภาษาไทยครับ

จากรูป cpu-z ตรงที่แจ้งค่า fsb ของแรม

แท็บ SPD มันจะระบุสเปคของแรมที่เราใช้
โดยดึงค่ามาจากชิพควบคุมบนแผงแรมครับ
ซึ่งเป็นเพียงสเปคครับ ว่าทำงานที่ความเร็วสูงสุดเท่าไหร่
และหากทำงานที่ความเร็วที่ต่างกัน จะมีค่า latency เท่าไหร่

ส่วนการทำงานจริงของมัน ว่าขณะนั้นๆ ทำงานที่ความเร็วเท่าไหร่ ต้องดูที่หน้า Memory ครับ

:)


เพิ่มเติม - เพิ่งเห็นความเห็นของคุณ pong มองข้ามไปได้ไงหว่าเรา 5555

แนบ ไฟล์:

---

  testeee.JPG (0.00 KB)

ทำไมแต่ละรุ่น ต้องกั๊กโน่น กั๊กนี่ไว้ด้วยหว่า


อันนี้ก็ดีไปซะทุกอย่าง ยกเว้นแป้นพิมพ์ที่ไร้ Function Keys

แล้วถ้ามองไม่ผิด ปุ่ม ~ ก็โดนอัปเปหิไปด้วยกัน
โดยมี Esc เข้ามาจับจองที่แทน


:)

ขยันลดสเปคเอาใจลูกค้าเก่าหรือเปล่าเนี่ย - -"

:)

ไม่เป็นไร ยังไงขนาดภายนอกมันก็เท่าเดิม

น่าจะโมเอาตัว 5400 ไปใส่เคสของ 4400 ได้อยู่แล้ว


:)

ถ้าเป็น umpc รุ่นปกติของ Kohjinsha ก็แพงเอาเรื่องล่ะครับ (999$ ขึ้นไป)
ส่วนรุ่น E8 ที่จะเอามาชนกับ EeePC ก็ประมาณ 600$ (สองหมื่นบาทเศษ)


:)

ลองทำตามตรงนี้นะครับ
http://www.thaicyberpoint.com/ford/blog/id/160/

ต้องใช้แผ่นติดตั้ง windows xp ประกอบด้วย
และหากไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาเกาหลี ญี่ปุ่น ก็ไม่ต้อง Install files for East Asian languages ให้เปลืองพื้นที่นะครับ

:)

ไม่เห็นเข้ามาในเมืองไทยนะครับ

เป็นยี่ห้อของญี่ปุ่น คุณภาพสูงทีเดียว


แต่แน่นอนว่า ราคาก็แบบ UMPC แท้ๆ ล่ะครับ


:)

อ้างถึง:

EeePC900 ต้องลบโปรแกรม AsTray ที่อยู่ใน C:\Program Files\Asus\EeePC ACPI ออกก่อนครับ
เพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้
โดยคลิกขวาที่ไอคอนของมัน (รูปจอภาพสีดำกรอบขาว ที่แช่เมาส์ไว้แล้วจะมีข้อความ AsTray Plus ขึ้นมา)
แล้วเลือก Exit

หลังจากนั้นลบไฟล์ AsTray.exe, AsTray.ini, DrvPatch.dll ออกไป

แล้วลงไดรเวอร์ ACPI ใหม่อีกครั้ง


ส่วนตัว SmartPAD ต้องลงไดรเวอร์ซ้ำ
โดยคงต้องใช้รุ่นล่าสุดจากเว็บ ASUS ครับ


:)

ดีครับ เป็นการช่วยให้ลูกค้าทำงานได้สะดวกขึ้น

แต่จะฟรีตลอด หรือคิดตังค์ยังไงนี่สิ


:)

ดีเลยครับ



นี่ถ้าได้ dip switch สีฟ้าด้วยนะ เข้าชุดกันสุดๆ


:)

ถ้าระหว่างสองตัวนี้ ผมเลือก MSI ครับ

:)

Mini ตัวนี้มีแต่ตัวโอเอสกับ ไดรเวอร์ของ 701 ครับ

ซอฟท์แวร์ตัวอื่นต้องไปลงเพิ่มเอาเอง

:)

โกสตัวนี้ทำไว้สำหรับ 701 ครับ
รุ่นอื่นต้องลงไดรเวอร์เพิ่มเองนะครับ

ดังนั้นคัดลอกไดรเวอร์ลง flashdrive ไว้ก็จะสะดวกในการติดตั้งด้วยครับ

:)

ต้องลงไดรเวอร์ acpi ก่อนด้วยครับ


:)

ท่าทางจะแรงจริงๆ ครับ

เล่น turionx2 + การ์ดจอ ati
แถมระบบเชื่อมต่อมีทั้ง WiFi, Bluetooth แถมยังมี 3G มาในตัว

แต่ไม่เห็นช่องเสียบสาย lan อาจจะอยู่อีกด้านนึงก็ได้


เสียตรงแบตหมดเร็วไปหน่อย คงเพราะอุปกรณ์ภายในเพียบนี่แหล่ะครับ
เพราะซีพียูคงปรับความเร็วลงมาได้อยู่แล้ว โดยเฉพาะตอนต่อเน็ต หรือทำงานทั่วๆ ไป
กดลงมาต่ำสุด ก็น่าจะเหลือๆ

อีกเรื่องที่น่าสนใจคือเรื่องความร้อน
ถึงแม้ turion จะเป็น cpu mobile แต่ด้วยการที่ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก
การระบายความร้อนอาจไม่ดีเท่าโน้ตบุ้คตัวใหญ่
ถ้าเราอัดสปีดเต็มสูบ ก็เป็นไปได้ว่าคงร้อนเอาเรื่อง


แป้นพิมพ์ใหญ่ใช้ได้ เมาส์ใช้เป็นแบบจับความเคลื่อนไหวของนิ้วเลยมีพื้นที่ว่างให้แป้นพิมพ์ได้อีก


อีกอย่างหนึ่ง อ่านจากป้ายด้านหลังแล้ว
เค้าว่าเป็น "Premium Mini Notebook"
ราคาคงไม่น้อยเหมือนกันล่ะครับ

:)

ลองเวอร์ชั่นเก่าๆ ดูครับ

ไปอ่านใน EeeUser แล้วเค้าให้ลองรุ่น 7.4 ลงไป
http://www.filehippo.com/download_itunes/

ได้ผลยังไงบอกกันด้วยนะครับ (ผมไม่ได้ใช้ iTunes ครับ)


เพิ่มเติมครับ-
อ่านต่อแล้วพบว่า iTunes รุ่นใหม่ๆ ต้องการความสามารถในการจัดการ SmartCard ด้วย
ซึ่ง Windows ตัวตัดมักจะตัดมันออกไป

ทางแก้อย่างง่ายคือคัดลอกไฟล์ sccbase.dll sccsccp.dll slbcsp.dll slbiop.dll
รวมทั้ง wmasf.dll & wmidx.dll ไปไว้ที่ windows\system32


:)

อ้างถึง:

แล้วคุณเข้มไม่เอาเฉพาะ XPMINI ที่ลง Driver 900 เสร็จแล้ว
โกสเก็บไว้เองสักชุดล่ะครับ เผื่อต่อไปจะได้ไม่ต้องพกไดรเวอร์อีก
(แล้วก็เผื่อแบ่งเพื่อนๆ ด้วยไงครับ)



ส่วนเรื่อง usb ไม่โผล่ตอนบูต ผมยังไม่เคยเจอนะครับ
เพราะไม่ว่าจะเป็น usb flashdrive, card reader (แบบต่อข้างนอก)
sd card reader ที่มากับเครื่อง หรือแม้แต่สายแปลง ก็สามารถเลือกให้บูตได้ทั้งหมด
โดยแค่กด Esc ตอนเห็นโลโก้เท่านั้นเอง


เครื่องของผมเป็น 701 นะครับ แต่คิดว่าระบบไบออสไม่น่าต่างจาก 900 มากนัก

:)

ลองเซฟหน้าจอขนาด 640x480, 800x600, 900x540, 1000x600
แล้วใช้โปรแกรมย่อให้เหลือ 800x480

ก็จะทราบว่าตัวอักษรจะต้องเบลอแน่นอนครับ
เพราะมีการย่อนั่นเอง

สิ่งที่เราต้องจำไว้อย่างนึงก็คือ จอ LCD นั้นมีความละเอียดเดียว
(Native Resolution) ดังนั้นหากเราตั้งค่าความละเอียดไม่เท่ากับความละเอียด native
ไม่ว่าจะมากกว่าหรือน้อยกว่าภาพจะเบลอ เพราะมีการย่อ-ขยายภาพครับ

AsTray+ ตัวนี้ ออกแบบมาเพื่อช่วยในการแสดงผลกับบางโปรแกรม
ที่เราสามารถยอมรับความเบลอของตัวอักษรได้
เช่น เกม เพราะภาพที่ย่อ กับ ตัวหนังสือที่ย่อ เราจะตีความหมายต่างกัน
เราสามารถยอมรับภาพที่ย่อได้ (เช่น ภาพบน desktop)
แต่เราอาจไม่สามารถอ่านตัวอักษรที่ย่อมากๆ ได้

:)