เข้าระบบ

ชื่อเรียก:

รหัสผ่าน:

จำฉัน



ลืมรหัสผ่าน?

สมัครสมาชิก!

เมนู

   ทุกโพส (aemchan)


« 1 ... 17 18 19 (20)


เพลง "เจ๊ไม่ย่อมเปลี่ยนแกง"
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404

อ่านเนื้อเพลงไปก่อนนะจ๊ะ ยังหาวิธีแปะเพลงไม่ได้เลย...ใครช่วยที

เพลง - เจ๊ ไม่ยอมเปลี่ยนแกง
ศิลปิน - ติ๊ก ขี้รั่ว
-----------------------

น้องยังมีป่อง ท้องยังมีวันแท้ง
ตลาดยังมีข้าวแกง แต่พะแนงจานนี้ไม่ค่อยดี
ถาดนี้ก็กลิ่นเหม็นหึ่ง ถาดนั้นก็ดูจะไม่ล้าง
แต่หากจะให้ทิ้งไป จะให้ไปทำใหม่นั้นไม่มีทาง

เฝ้าเช็คดูถาดแกง ในทุกๆวัน มันวนๆมาเหมือนเดิม
ไก่กระเทียม ก็คุ้นว่าไม่ได้ทำใหม่
แต่ทำไมไม่ยอมทิ้งมันไป วนเอาแกงมาขายเวียน
แช่ตู้เย็นเสร็จก็เอามาอุ่น
กี่วันผ่านไป ยังไง๊ เจ๊ยังทำเหมือนเดิม
เจ๊ ไม่ยอมเปลี่ยนแกง ฮือๆ

เขมรยังมีเปลี่ยน พวกเหงียนยังมีหยุดรบ
พม่าก็เลิกแทงกบ แต่หากจะจบแกงนี้ไม่มีทาง
พะโล้ก็ใกล้จะบูด แกงส้มก็เริ่มจะเหม็น
ผัดผักก็ดูชืดเย็น ใครกินคงได้ไปเห็นยมบาล

เฝ้าเช็คดูถาดแกง ในทุกๆวัน มันก็ยังเป็นเหมือนเดิม
บอกตัวเอง ลืมเจ๊แล้วเดินไปร้านอื่น
แต่ทุกร้านก็ทำเหมือนๆกัน เจอแต่แกงที่ค้างคืน
แช่ตู้เย็นเสร็จก็เอามาอุ่น
กี่วันผ่านไป ยังไง๊ ข้าวแกงก็ค้างคืน
เจ๊ ไม่ยอมเปลี่ยนแกง ฮือๆ

ขายมันอยู่วันนี้ วันพรุ่งนี้ มะรืนนี้
ไม่รู้จะกินได้ไหม ขี้แตกไหม จะตายไหม
เจ๊ไม่ยอมเปลี่ยนแกง


โพสเมื่อ : 29/5/2007 12:13
Transfer the post to other applications Transfer


KONNICHIWA - สวัสดี(ตอนกลางวัน)
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404




สวัสดีค่ะ

แหม...วันนี้มาโพสต์บทเรียนช้าไปหน่อย พอดีอาทิตย์นี้ป้าเอมขยันไปฟิตเนสทุ๊--กวัน

ช่วงเช้าก็เลยยุ่งๆค่ะ กว่าจะส่งลูกๆไปโรงเรียนเสร็จ ออกกำลังกายเพิ่มความสวยเสร็จ เข้าใจกันหน่อยนะคะ...



อะ...จำกันได้มั้ยว่า วันนี้เรายังคงอยู่ในซีรีส์ของคำทักทายในภาษาญี่ปุ่นนะ

เข้าเรื่องกันเลย...มะวานเราทักทายกันถึงประมาณ 10 โมงเช้าใช่มั้ยคะ

ไหน..ว่าไงนะ...

โอ่-ฮา-โย่ โก-ไซ-มัซ

เก่งมากๆๆเลย...ยังจำกันได้นะ

พอเริ่มเข้าช่วงสายๆ เนี่ย คำทักทายก็จะเปลี่ยนเป็นคำที่แสนจะคุ้นหูทุกท่านค่ะ
นั่นก็คือ "คน-นิ-จิ-วะ" นั่นเอง มาดูภาษาญี่ปุ่นกัน

KON-NI-CHI-WA
หมายเหตุ**

ตัวอักษรตัวสุดท้ายในคำเนี่ย จริงๆ มันเป็นตัวอักษรที่ต้องอ่านว่า "ฮะ" (ha) น่ะ

แต่ในกรณีนี้ มันทำหน้าที่ในคำเป็นเหมือนกริยา ก็เลยออกเสียงเป็น "วะ"(wa)

อธิบายแค่นี้ก่อน เดี๋ยวจะลงลึกไปแล้วงงกันไปซะหมด...

เอ้า...คำนี้หมูมาก ออกเสียงดังๆ กันเลยนะคะ นึง ส่อง ซ่ำ

คน-นิ-จิ-วะ

ดีมากค่---า...


คนญี่ปุ่นจะทักทายว่า "คน-นิ-จิ-วะ" ตั้งแต่สายๆ จนซักประมาณ 5-6 โมง
หลังจากนั้น จะเป็นคำว่าอะไร...ต้องติดตามต่อพรุ่งนี้อีกแย้ววว

โอเค เนื่องจากคำนี้เป็นคำพื้นฐานมากๆ ป้าเอมก็ต้องพยายามนึกมุขมาแถมให้ฮากัน

คิดไปคิดมาก็หาไม่ค่อยเจอนะ แต่มีอยู่อันนึงที่ป้าเอมเคยไปเจอในห้องแช็ทของวัยรุ่นญี่ปุ่น

ด้วยความที่เราคอยอัพเดทข้อมูลที่ญี่ปุ่นอยู่เรื่อยๆ ก็เลยกระชากวัยแวะไปเยี่ยม

นั่งสังเกตการณ์ดูเด็กๆ เค้าแช็ทกันซักพัก ก็สงสัยมา---กเลยว่า ทำไมมีอยู่คำนึงโผล่มาตลอด

ทุกครั้งที่มีคนเข้ามาใหม่ในห้อง คือว่าคำมันเป็นอย่างนี้นะ

จำลองสถานการณ์...(พอดีมีเรื่องให้จำลองน่ะ)
นึกภาพว่าเรากะลังอยู่ในห้องแช็ท...

aemchan just logged in.
ไอ้มดแดงV6: คน ---->(เขียนเป็นตัวญี่ปุ่นนะ)
เซเล่อร์มูน: คนซามูไรพ่อลูกอ่อน: คน
อุลตร้าแมนเซเว่น: คน

ป้าเอมดูไปดูมา ก็เลยเก๊ทในที่สุดว่า อ๋อ...เด็กๆ กะลังทักทายเซย์ไฮ กับสมาชิกใหม่ที่เข้ามางัย
เหมือนกับเด็กวัยรุ่นบ้านเราก็คงจะทักว่า "ดี" กันใช่มะ

"คน" มันก็ย่อมาจาก "คน-นิ-จิ-วะ" นี่เอง...เก๋มากค่ะ
อันที่จริง คนญี่ปุ่นเนี่ยนะ เค้าก็มีโรคอยู่อย่างนึงที่ป้าเอมขอตั้งว่า "โรคลูกอีช่างย่อ"

(มะวานยังย่อ โอ่-ฮา-โย่ โก-ไซ-มัซ เหลือแค่ โอ๊--ซ ได้เลยนิ)

อย่างคำที่ยาวๆเนี่ย ก็จะพยายามย่อให้เหลือแค่ 4 พยางค์ ไม่เข้าใจเหมียนกัลล์ว่าทำไมต้องเป็น 4 พยางค์...

ชื่อดาราทั้งหลาย ถ้าไม่ตั้งชื่อเล่นให้ใหม่ ก็จะย่อเลยค่ะ

เช่น ดาราหนุ่มหล่อวง SMAP ที่ดังที่สุดคนนึงในวง ชื่อ Kimura Takuya

เค้าก็จะย่อเหลือแค่ 4 พยางค์ คือ Ki-mu-Ta-ku เป็นไงล่ะ... ส่วนใหญ่ก็จะเอาสองพยางค์แรกของแต่ละคำมาใช้นะ

อะ...ลองซ้อมอ่านกันอีกทีค่ะ นึง ส่อง ซ่ำ

คน-นิ-จิ-วะ

แจ๋วมากค่ะ...

แหม เรียนกันไปแล้วสองคำ ป้าเอมก็แอบหวังไว้เล็กๆว่า จะมีใครได้เอาไปใช้ประโยชน์รึป่าวน้--อ
เห็นมีใครคนนึงที่ว่า กำลังจะไปจีบสาวญี่ปุ่นใช่มะ คงพอจะได้ใช้บ้างนะคะ ฮิฮิ

เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ...




ป.ล. อย่าลืมทบทวนคำศัพท์บทก่อนๆด้วยนะคะ


โพสเมื่อ : 29/5/2007 11:12

แก้ไขโดย aemchan เมื่อเวลา 7/7/2007 17:24:16
แก้ไขโดย kiat เมื่อเวลา 8/7/2007 21:53:09
Transfer the post to other applications Transfer


OHAYO GOZAIMAS - สวัสดี(ตอนเช้า)
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404




สวัสดีค่ะ

พบกันอีกแล้วนะคะ วันนี้ตัดสินใจว่าจะเริ่มสลับสอนคำที่เป็นสาระมั่งละ

แต่ถ้าใครไม่เห็นด้วย กรุณาแจ้งด่วนนะคะ 555

เอาล่ะ อาทิตย์นี้ จะเป็นซีรี่ส์ของ "คำทักทาย" ทั้งหลายในภาษาญี่ปุ่นค่ะ

บางคนอาจจะพอทราบบ้างแล้ว แต่ป้าเอมก็อยากจะสอน มีอะไรมะ...

แต่ที่แน่ๆ ที่รู้ๆกันน่ะ ออกเสียงได้ครบกันทุกคำทุกพยางค์อ๊ะป่ะ

บางคนอาจคิดว่า ไม่ใช่ภาษาแม่เรา อันที่จริง มันก็ไม่จำเป็นจะต้องลึกซึ้งกันขนาดนั้นก็ได้

แต่ขอบอกไว้เลยค่ะว่า หนึ่งในกฎเหล็กในการเรียนรู้ภาษา ของป้าเอมนั้น

จะต้องออกเสียงให้ถูกต้องตามเจ้าของภาษาค่ะ ส่วนสำเนียงหรือจริตจกร้านนั้น เป็นความสามารถเฉพาะตัวนะ

อะ...เห็นมะว่า ป้าเอมซีเรียสก็เป็นนะ 555 มาเริ่มกันเลยดีกว่า

วันนี้ จะเป็นคำทักทายแบบเบสิ๊ค..เบสิค คือการทักทายกันในแต่ละช่วงของวันค่ะ
หลักๆ เราก็มี เช้า-สาย-บ่าย-เย็น ใช่มั้ยคะ ญี่ปุ่นเค้าก็มีเหมือนกัน แต่จะเป็น เช้า-กลางวัน-เย็น ค่ะ

อ้อ ซีรีส์คำทักทายนี้ ป้าเอมคิดว่าจะจำลองสถานการณ์ได้ไม่สะใจเท่าไหร่ ก็เลยพักไว้ชั่วคราวนะคะ

วันแรกนี้ เราจะเรียนคำทักทาย "ตอนเช้า" กันก่อนนะคะ

คำว่า "สวัสดีตอนเช้า" หรือพูดเพราะๆในภาษาไทยว่า "อรุณสวัสดิ์" เนี่ย

ในภาษาญี่ปุ่นก็คือ "โอ่-ฮา-โย่ โก-ไซ-มัซ " ค่ะ มาดูตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นกันนะคะ


O-HA-YO GO-ZAI-MAS(u)
หมายเหตุ**
-ในคำท้ายเนี่ย จริงๆ มาจากคำสองพยางค์ คือ มะ-สุ แล้วส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นก็จะอ่านรวบเป็นคำเดียว กลายเป็น "มัส"

ซ.โซ่ ตัวท้ายนี่ ออกแบบเสียง S ที่เป็นพหูพจน์ในภาษาอังกฤษได้เลยนะ

แต่จริงๆ อ่านได้สองอย่างเลย คือถ้าเป็นทางการหรือสุภาพมากๆก็จะออกเสียงครบสองคำค่ะ

- เสียงคำว่า "ไซ" เนี่ย เป็นเสียง Z นะคะ เพราะฉะนั้น ต้องทำเสียง "ซื่อ---"แบบมีVibrationสั่นที่ลิ้นด้วยค่ะ

จะเพอร์เฟ็คมากเลย

ลองออกเสียงพร้อมๆกันนะคะ นึง ส่อง ซ่ำ


โอ่-ฮา-โย่ โก-ไซ-มัซ อ้าวๆ...ลิ้นพันกัน คุณครูฟังไม่รู้เรื่องเลย ไม่ต้องรีบ ค่อยๆ อ่านอีกทีซิคะ


โอ่-ฮา-โย่ โก-ไซ-มัซ
พอใช้ได้ค่ะ...

คำนี้ ออกจะยาวไปซักนิด เพราะป้าเอมสอนรูปการกล่าวคำทักทายแบบสุภาพเต็มรูปแบบไงคะ
ถ้าจะให้ง่ายขึ้นและเป็นกันเอง เราก็พูดแค่ "โอ่-ฮา-โย่" ก็พอแล้วค่ะ
พอพูดสั้นแบบนี้ มันก็จะแปลเป็นไทยได้ว่า "สวัสดี" ที่กล่าวกันในตอนเช้านี่แล่ะ

"ตอนเช้า" ในที่นี้ คนญี่ปุ่นเค้าก็จะมีช่วงเวลาที่พูดคำนี้กันด้วยนะ

คือ ตั้งแต่ตื่นนอน(ยกเว้นคนตื่นนอนเที่ยง) จนถึงประมาณ 10 โมง ก็ยังพูดได้ค่ะ

หลังจากนั้น จะเปลี่ยนเป็นอีกคำแล้ว ซึ่งเราจะเรียนกันต่อไปในวันพรุ่งนี้นะ (อดใจรอหน่อยน่---า)

แถมให้นิดว่า ผู้ชายญี่ปุ่นเนี่ย ป้าเอมไม่รู้ว่าเค้าขี้เกียจหรือลิ้นแข็ง เพราะคำว่า โอ่-ฮา-โย่ โก-ไซ-มัส นี่นะ
พ่อคุณทั้งหลายไม่ออกเสียงครบหรอก เค้าจะย่อเหลือ 2 พยางค์เอง งงล่ะสิ เรื่องจริงนะ ไม่ได้ อุ๊-โสะ (จำกันได้ป่าว)

เค้าจะออกแค่ "โอ๊--ซ" (O--S) เป็นไง เด็ดมะ ไม่รู้ย่อยังไงถึงได้สั้นจุ๊ดได้ขนาดนั้น 555
ถ้าเพื่อนๆ มีโอกาสได้เข้าไปในบรรยากาศของบริษัทฯที่ญี่ปุ่น ช่วงเช้าๆ ตอนเข้างานนะ

ก็จะได้ยินคำว่า "โอ๊--ส" กันให้ระงมเลยทีเดียวเชียว แต่ย้ำว่า ผู้หญิงเค้าไม่พูดกันนะจ๊ะ

อย่าทำ...อย่าทำ (ยกเว้นเป็นทอมบอย)

อะ...ทวนกันอีกที ช้าๆก็ได้ค่ะ อย่ามั่วนะคะ นึง ส่อง ซ่ำ


โอ่-ฮา-โย่ โก-ไซ-มัซ


เก่งมากเลยค่ะ...

อย่าลืม ฝึกออกเสียงบ่อยๆ นะคะ จะได้เก่งๆค่ะ


โพสเมื่อ : 29/5/2007 10:58

แก้ไขโดย aemchan เมื่อเวลา 7/7/2007 17:26:41
แก้ไขโดย kiat เมื่อเวลา 8/7/2007 21:54:41
Transfer the post to other applications Transfer


U-SO - โกหก
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404




สวัสดีค่ะ

สงสัยวันนี้จะไม่ค่อยมีใครอยากลุกจากที่นอนใช่มั้ยล่ะ อย่ามัวนอนคุดคู้อยู่เลย มาเพลิดเพลินกับบทเรียนภาษาญี่ปุ่นกันเถอะ

อะ...วันนี้ เราจะเรียนคำว่าอะไรกันดีน้อ--- วันอาทิตย์ทั้งที ป้าเอมเลยรู้สึกอยากจะสอนคำสบายๆหน่อยน่ะ เริ่มกันเลย...

จำลองสถานการณ์...
สองนางแบบ โยโย่ และ เอ่เอ๊ กำลังเม้าท์กันอย่างสนุกปาก

โยโย่ : เนี่ยนะ เอ่เอ๊ หนังสือพิมพ์เค้าใส่ร้ายพวกเราล่ะว่า ไปขโมยหมูปิ้งข้าวเหนียวกินแถวอาร์ซีเอ

เอ่เอ๊ : "อุ๊-โซ่--"(ทอดเสียงยาวเล็กน้อย พร้อมเอามือไหนก็ได้ป้องปากน่ารัก) เธอไปเห็นที่ไหนมา พวกเราไม่ยอมหรอกนะ ฮึ...

วันนี้ ขอแนะนำคำว่า "อุ๊-โสะ" (U-SO)
ลองออกเสียงพร้อมๆกันนะคะ นึง ส่อง ซ่ำ
อุ๊-โสะ
ดีมากค่ะ...


คำนี้ ก็แปลไทยว่า "โกหกน่ะ!" หรือ "โม้!" หรือ "ไม่จริงน่ะ!" แล้วแต่ระดับความไม่อยากจะเชื่อของผู้ฟัง

จริงแล้วๆ รากศัพท์ของคำว่า "อุ๊-โสะ" เนี่ย แปลตรงๆได้ว่า "การโกหก" ค่ะ เป็นคำนาม

ถ้าบอกว่า "พูดโกหก" จะมีกรียามาใช้ร่วม กลายเป็น "อุ๊-โสะ โอ๊ะ สึ-คุ"


เวลาเราจะว่าใครบางคนว่า "คนขี้โกหก" เราก็จะบอกว่า "อุ๊-โสะ-สึ-คิ"
= LIAR นั่นเอง

อันนี้ ไม่ได้สอนให้ไปด่าใคร แต่ถ้าใครไม่อยากถูกด่า ก็กรุณาอย่าทำ

ป้าเอมแค่อยากจะแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ในการใช้คำว่า "อุ๊-โสะ" ในหลายๆรูปแบบเท่านั้นแล่ะค่ะ

ทีนี้ เห็นกันมะว่า น้องเอ่เอ๊ เค้าอุทานคำว่า "อุ๊-โสะ"ว่า "อุ๊-โซ่---" แถมยังมีการทอดเสียงยาว แล้วเอามือป้องปากด้วย ก็จะอธิบายเพิ่มเติมว่า ท่าที่น้องเอ่เอ๊ทำน่ะ มักจะเป็นท่าบังคับของสาวๆญี่ปุ่นกัน
คือ เท่าที่ป้าเอมสังเกตุมาเนี่ย ถ้าเป็นผู้ชายอุทานคำว่า "อุ๊-โสะ" มันก็จะออกเสียงอย่างนี้เป๊ะ และห้วนๆ ไม่ทอดเสียง



แต่ถ้าเป็นสาวๆพูดล่ะก็ เค้าก็จะมีจริตจกร้านขึ้นมาโดยอัตโนมัติเลย ก็เลยเกิดการทอดเสียงยาวตอนท้าย และมีท่ามือป้องปากประกอบ ถ้าเอาแบบ full version คือแบบอาโนเนะสุดๆเนี่ย จะเริ่มจากทำตาโต(คล้ายๆแอ๊บแบ๊ว) ยกมือขึ้น ทำฝ่ามือป่องเล็กน้อย เอาป้องปาก แล้วก็ต้องปรับระดับเสียงขิ้นอีกประมาณสองคีย์ เปล่งเสียงออกมาว่า ""อุ๊-โซ่---" อย่าลืมทอดเสียงยาว พร้อมกันนั้น ให้ทำท่างอตัวนิดๆเอนไปทางด้านหลังค่ะ อู๊ย...ถ้าทำได้ครบนะคะ ไปเปลี่ยนสัญชาติได้เลยค่ะ

เอ้า ออกเสียงดูอีกครั้งนะคะ นึง ส่อง ซ่ำ
อุ๊-โสะ
เก่งมากค่ะ...

(ไม่ว่ากันถ้าสาวๆจะฝึกพร้อมท่าทางประกอบ)

โอเคค่ะ คงจะเพลิดเพลินกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ได้บ้างนะคะ
พักผ่อนกันให้สบายใจน้----า


โพสเมื่อ : 29/5/2007 10:57

แก้ไขโดย aemchan เมื่อเวลา 7/7/2007 17:19:55
แก้ไขโดย kiat เมื่อเวลา 8/7/2007 21:48:25
Transfer the post to other applications Transfer


SUMIMASEN - ขอโทษค่ะ/ครับ
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404




สวัสดีค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ วันเสาร์แล้ว หลายคนคงดีใจที่ได้พักผ่อนเต็มที่ซักที


เอาล่ะ
ได้รู้จักกับภาษาญี่ปุ่นกันไปแล้ว 2 คำ เริ่มจะคุ้นเคยกันรึยังคะเนี่ย...
ไม่พูดพล่ามทำเพลง ป้าเอมจะเข้าเรื่องเลย วันนี้ เป็นศัพท์ภาษาญี่ปุ่นที่น่าจะเป็นประโยชน์

เพราะเป็นคำพูดที่ใช้กันเป็นเรื่องเป็นราวเลย ในชีวิตประจำวัน ก่อนจะทำอะไร ก็จะเริ่มด้วยคำนี้

จำลองสถานการณ์...
สาวไฮโซนามว่า"แอ๊บแบ๊ว"เดินเข้ามาในร้านขายของชำ

แอ๊บแบ๊ว : "สุ-มิ-มา-เซ็ง" มียาดมตราโป๊ยเซียนขายมิเคอะ

คนขาย : ไม่มี มีแต่ยาดมตราเจ้าคุณ เอาป่ะ...

อะ...วันนี้ป้าเอมภูมิใจเสนอคำว่า "สุ-มิ-มา-เซ็ง" (SU-MI-MA-SEN)


(หมายเหตู: ในภาษาญี่ปุ่นเนี่ย จะมีรูปการออกเสียงเฉพาะตัวอยู่บ้าง อย่างคำนี้นะ

สังเกตุว่า ถ้าเขียนคำอ่านภาษาอังกฤษ พยางค์สุดท้ายจะเขียนว่า SEN ซึ่งเป็น แม่กน

แต่ป้าเอมเขียนคำอ่านภาษาไทยว่า"เซ็ง" ซึ่งเป็น แม่กงใช่มะ

ก็คือว่า คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่เค้าจะอ่านคำที่ลงท้ายด้วย -n เป็นเสียง แม่กง นะ

โดยเฉพาะคำที่อยู่ท้ายประโยคนี่ จะได้ยินเป็นเสียง แม่กง ซะส่วนมากเลย

เช่น NOBITA-KUN=โนบิตะคุง RAMEN=ราเม็ง ฯลฯ)

อ่านพร้อมๆกัน 1 รอบนะคะ นึง ส่อง ซ่ำ
สุ-มิ-มา-เซ็ง

เสียงเบาไปนะคะ เอาใหม่

สุ-มิ-มา-เซ็งดีมากค่ะ...

คำว่า "สุ-มิ-มา-เซ็ง" มีการใช้ในสองกรณีใหญ่ค่ะ ดังตัวอย่างสถานการณ์จำลองข้างบน...





ในกรณีแรก แปลว่า "ขอโทษค่ะ/ครับ" นั่นเองค่ะ ถ้าจะเทียบกับภาษาปะกิด ก็คือ "EXCUSE ME"
คงเข้าใจกันใช่มะคะ คือเราจะพูดคำนี้เวลาจะทำอะไรซักอย่าง ซึ่งแน่นอน ต้องพูดกับใครซักคน คงไม่มีใคร สุ-มิ-มา-เซ็ง กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่จะถามอะไร เวลาจะขออะไร เวลาจะทำอะไร ประมาณว่าเป็นคำขึ้นต้นที่แสดงความสุภาพก่อนจะทำอะไรซักอย่างไง...

โอกาสที่ป้าเอมเห็นใช้บ่อยๆคือ เวลาจะเรียกคนขายในร้านค้า/ร้านอาหาร เพื่อถาม/ขออะไรบางอย่าง

ก็เหมือนกับภาษาไทยเด๊ะเลยนะ เช่น สมมติเราเข้าไปในร้านขายของ แล้วไม่เห็นคนขาย หาแล้วก็ไม่เจอ

เราก็จะเรียกหาว่า "ขอโทษค่---า" เพื่อจะให้คนขายปรากฎตัวไง

เหมือนกัน ภาษาญี่ปุ่นก็จะพูดว่า "สุ-มิ-มา-เซ็---ง" (คือจะ"เซ็ง"นานหน่อย 555)

ส่วนในกรณีที่สอง ก็จะแปลว่า "ขอโทษค่ะ/ครับ" เช่นกัน แต่จะกลายเป็น "SORRY"แล้วค่ะ
อันนี้ก็ชัดเจนนะคะว่าเป็นการกล่าวขอโทษตรงๆ เช่น ขอโทษที่มาช้า ขอโทษที่ไม่ได้ติอต่อมา ฯลฯ

พอมองเห็นความแตกต่างจากกรณีแรกแล้วนะคะ

ถามว่า...แล้วจะใช้ให้ถูกต้องยังไง ก็ตอบตามใจป้าเอมว่า ใช้ยังไงก็ได้ ขอให้ถูกความหมายและสถานการณ์ก็พอค่ะ
ไม่ได้ซีเรียส เพราะยังไงๆคำนี้คนญี่ปุ่นฟังแล้วก็เข้าใจอยู่แล้วค่ะ



ทบทวนกันอีกรอบนะคะ นึง ส่อง ซ่ำ
สุ-มิ-มา-เซ็ง
เก่งมากค่ะ...

ง่ายมั้ยคะ คำศัพท์วันนี้ ป้าเอมคิดว่า น่าจะเป็นคำนึงที่เพื่อนๆหยิบเอาไปใช้ได้เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น
แต่ระวังหน่อยนึงนะ เพราะคนญี่ปุ่นมีโรคอยู่โรคนึงเหมือนกันเกือบทุกคน คือ...

ถ้ามีต่างชาติพูดภาษาเดียวกับเค้าแล้วนะ เค้าก็จะรู้สึกหายห่วง แล้วก็จะพ่นภาษาญี่ปุ่นกลับมาเป็นชุดเลย

ถึงตอนนั้น พวกเราๆก็คงจะอึ้งกิมกี่แน่ๆ ในกรณีนี้ หากไม่รู้จะทำยังไงต่อ ป้าเอมแถมให้อีกคำ...

"ซา-โย-นา-ระ" แล้วรีบหนีไปเลยค่ะ ฮิฮิ

ทิ้งท้ายไวขำๆ คำอ่านภาษาไทยคำนี้ ป้าเอมเขียนเองแล้วก็ฮาเอง
เพราะป้าเอมชื่อจริงว่า "สุมิตรา"ไง พอเขียนคำอ่านเสร็จ อ่านแล้วก็พาลนึกไปว่า...

คล้ายๆ "สุมิตรามาแล้วเซ็ง" เลยง่ะ ขำขำนะ ขำขำ อย่าเซ็งกันเลยน่า...นะ

เจอกันใหม่พรุ่งนี้ค่ะ


โพสเมื่อ : 29/5/2007 10:56

แก้ไขโดย aemchan เมื่อเวลา 7/7/2007 17:28:17
แก้ไขโดย kiat เมื่อเวลา 8/7/2007 21:53:42
Transfer the post to other applications Transfer


HEE- (อ่านว่า "เห-" ) เหรอ...
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404

สวัสดีค่ะ

พบกันอีกแล้ว วันนี้ป้าเอมจะมานำเสนอคำๆหนึ่งที่เป็นคำอุทานแสดงความรู้สึกของชาวญี่ปุ่นค่ะ
คำๆนี้ เป็นอีกคำหนึ่งที่ติดปากชาวญี่ปุ่นมากซะจน มีคนเอาไปทำรายการวาไรตี้เลยทีเดียว

รายการนี้ดังระเบิดเถิดเทิงอยู่หลายปีเลยนะ ป้าเอมยังมีหนังสือรวมเล่มในแต่ละตอนด้วยล่ะ

เดี๋ยวเรื่องรายการว่ากันทีหลัง มาดูคำกันก่อน...

จำลองสถานการณ์...
จุง โคชิกะ: นี่ๆ ทาเคชิคุง ตัวเคยรู้มะว่าที่ประเทศไทยนะ เวลาไปโรงหนังนะก่อนจะดูหนังต้องยืนฟังเพลงก่อนทุกคนเลย (พูดในฐานะชาวญี่ปุ่นที่ไม่รู้จักเมืองไทย)

ทาเคชิคุง: เห---- (ลากเสียงยาว) เราไม่เคยรู้เลยตัวเอง

อะ...คำศัพท์วันนี้ก็คือคำว่า "เห---" (ให้เพื่อนๆลากเสียงยาวประมาณสอง-สามวิ พร้อมแผ่วเสียงลงเล็กน้อย)



อ่านพร้อมๆกัน 1 รอบนะคะ นึง ส่อง ซ่ำ เห---

(Hee~)

ดีมากค่ะ...

คำนี้ แปลเป็นไทยง่ายๆว่า "เหรอ----"
เวลาพูด ก็อาจจะต้องทำตาโตแบบสงสัยนิดๆ ...แต่ไม่ใช่ทำหน้าแอ๊บแบ๊วนะคะ

เป็นการแสดงอารมณ์ว่า เรื่องแบบนี้ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน แล้วก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะมีจริง ไม่ถึงขั้นไม่น่าเชื่อ

แต่ประมาณว่า เป็นเรื่องใหม่สำหรับตัวเรา เราก็เชื่อแต่แอบติดใจเล็กๆ เข้าใจกันมะเนี่ย...

บางทีเรื่องที่มาพูดก็เล็กน้อยหอยสังข์มาก แต่ชาวญี่ปุ่นก็ติดปากพูดกัน อะไรอะไรก็ "เห---"เข้าไว้ก่อนไง

กลับไปที่รายการวาไรตี้โชว์ที่พูดถึง ป้าเอมไม่เคยดูแต่ตามกระแสสุดฤทธิ์ รายการนี้มีชื่อว่า "TRIVIA no IZUMI" ค่ะ
คือว่า เค้าจะเอาเรื่องราวแปลกๆ(ในสายตาคนญี่ปุ่น)ของทุกประเทศมานำเสนอทุกอาทิตย์

ซึ่งเรื่องเหล่านี้เน้นว่า เป็นเรื่องที่ไม่มีประโยชน์เลย แบบไร้สาระน่ะ

โดยเรื่องที่คัดเลือกมา 5 เรื่องจะมาจากเรื่องที่ผู้ชมส่งกันเข้ามาน่ะแล่ะ

ดูเสร็จแล้ว ก็จะให้คะแนนกัน มีหน่วยเป็น "เห--" คะแนนเต็ม 100 เห-- แข่งกันจะได้กี่เห--

เค้าจะมีเครื่องกดคะแนน สังเกตุดูจะเห็นว่าปุ่มกดเป็นรูปสมองด้วย

พอกดแล้วทีจะมีไฟสว่างและมีเสียงร้องออกมาว่า "เห--"ด้วย

ฮิตถึงขั้นเอาเครื่องกดคะแนนมาเป็นพวงกุญแจเลยล่ะ แต่ตอนนี้รายการนี้จบไปแล้ว ความนิยมก็สร่างซาไปตามกาลเวลา

(สู้รายการ"ชิงร้อยชิงล้าน ช่า ช่า ช่า"ของเราไม่ได้เนอะ)






ยกตัวอย่างเรื่องของพี่ไทยเรื่องนึง ได้ไปออกด้วย คือ...

ตุ๊กตา"โรนัลด์" ของร้านแมคโดนัลที่ยืนอยู่หน้าร้าน และทำท่ายกมือไหว้สวัสดีลูกค้า (นึกกันออกมะ)

อันนี้ รู้สึกว่าจะได้เกิน 90 เห-- เลยล่ะ คือคนญี่ปุ่นจะงงมากว่าทำไมคุณโรนัลด์สวัสดีเป็น ฮ่าๆๆ

อะ...ออกเสียงกันดูอีกทีนะคะ นึง ส่อง ซ่ำ เห---
เก่งมากเลยค่ะ


อย่าลืมใส่หน้าตาและน้ำเสียงสงสัยเข้าไปด้วยนะคะ จะได้อารมณ์มากเลย


ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.fujitv.co.jp/b_hp/trivia/


โพสเมื่อ : 29/5/2007 10:55

แก้ไขโดย aemchan เมื่อเวลา 7/7/2007 17:26:27
แก้ไขโดย kiat เมื่อเวลา 8/7/2007 21:55:21
Transfer the post to other applications Transfer


IRASSHAIMASE - ยินดีต้อนรับ
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404




สวัสดีค่ะ

เพื่อนๆคงเคยไปร้านอาหารญี่ปุ่นกันใช่มะ เวลาเข้าไปในร้านปุ๊ป เราก็จะได้ยินเสียงตะโกนดังโหวกเหวก ส่งเสียงต่อกันเป็นสาย ประหนึ่งเลียนแบบเสียง echo ฟังกันไปรู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่ง แต่ที่แน่ๆ หนวกหู


อะ...ทีนี้ เราก็มาตั้งใจฟังกันนิดนึงว่า คำศัพท์ที่พนักงานเค้าร้องตะโกนกันน่ะ มันคืออะไรแล้วแปลว่าอะไร...
จำลองสถานการณ์...

ประตูร้านซูชิเปิดอัตโนมัติ

"อิรัชชัยมาเซะ------" (พนักงานทั้งร้านตอบรับกันเป็นทอดๆ)(หมายเหตุ: ตัวสะกดคำอ่านภาษาไทยของป้าเอม อาจจะดูแปลกตา แต่รับรองว่า ถ้าอ่านออกเสียงตามนี้เป๊ะนะ ญี่ปุ่นจะชมเปาะเลยว่า สำเนียงดีมาก)


เอาล่ะ คำนี้นะ หน้าตาของตัวอักษรญี่ปุ่นเป็นแบบนี้








อิ - รัช - ชัย - มา - เซะ(i-rasshai-ma-se)


อ่านพร้อมๆกัน 1 รอบนะคะ นึง ส่อง ซ่ำ

อิ - รัช - ชัย - มา - เซะ
ดีมากค่ะ...

มาถึงความหมาย คำนี้แปลว่า "ยินดีต้อนรับ" นั่นเอง
อ๋อ มิน่าล่ะ เค้าถึงพูดกันตอนที่เราเข้าไปในร้านไง เข้าใจกันแล้วยัง

คำนี้ เท่าที่ป้าเอมเจอมา สถานการณ์ที่ใช้บ่อยที่สุดก็น่าจะเป็นตามร้านค้า ร้านอาหาร นี่แล่ะ

ประมาณว่า รับแขกไง ค่อนข้างจะเป็นทางการหน่อยน่ะ ส่วนในสถานการณ์อื่น

เช่น เชิญเข้าบ้าน อะไรแบบนั้น ไว้จะไปสอนในโอกาสต่อไป ไม่มีกำหนดค่ะ ฮิฮิ

กันลืม... ซ้อมอ่านกันอีกทีค่ะ นึง ส่อง ซ่ำ

อิ - รัช - ชัย - มา - เซะ
เก่งมากค่ะ...

ป้าเอมขอฝากไว้ว่า ไม่ว่าเราจะเรียนภาษาไหนๆในโลกก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องฝึกฝนค่ะ หมั่นอ่านออกเสียงให้คล่องจะได้ไม่ลืม พูดออกมาดังๆ ให้สมองเราบันทึกเสียงกลับเข้าไปอีกที จะช่วยทำให้หน่วยความจำเราแข็งแรงขึ้น นะคะ

อันนี้เป็นเคล็ดลับของป้าเอมเองค่ะ


โพสเมื่อ : 29/5/2007 10:55

แก้ไขโดย aemchan เมื่อเวลา 7/7/2007 17:27:39
แก้ไขโดย kiat เมื่อเวลา 8/7/2007 21:54:10
Transfer the post to other applications Transfer