Samsung Galaxy Tab 8.9 โผล่ในงานเปิดตัวที่ประเทศรัสเซียแล้ว โดยไม่ได้มาแค่เดี่ยวๆ แต่มาพร้อม Keyboard dock ที่จะใช้ให้ผู้ใช้สามารถป้อนข้อมูลจำนวนมากได้ง่ายกว่าการใช้คีย์บอร์ดเสมือนบนหน้่าจอ



ยุคสมัยนี้เป็นยุคสมัยของ Post PC Devices หลายๆ ชนิดที่พร้อมจะเสนอตัวมาทำงานแทน PC ที่ครองโลกมานาน และหากผู้ใช้แท็บเล็ตรายใดต้องการใช้งานหนักขนาดนั้น จำต้องหาอุปกรณ์เสริมมาช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานเพิ่มเติม เช่น เมาส์หรือคีย์บอร์ด และแน่นอนว่าผู้ผลิตคงไม่พลาด ปล่อยให้ตลาดนี้ไปเป็นของคนอื่นแน่นอน Samsung จึงผลิตอุปกรณ์เสริมเหล่านี้เตรียมออกมารองรับความต้องการอันหลากหลาย หนึ่งในนั้นก็คือ Keyboard dock ที่นอกจากใช้งานเป็นคีย์บอร์ดให้กับ Samsung Galaxy Tab 8.9 ได้แล้ว มันยังเป็นแท่นวางสำหรับการชาร์จไฟได้ด้วย



แน่นอนว่าอุปกรณ์เสริมสำหรับ Samsung Galaxy Tab คงไม่มีเพียงแค่ Keyboard dock เท่านั้น เชื่อว่าอุปกรณ์ที่จะมีตามมาน่าจะเป็น HDMI dock ที่จะช่วยส่งภาพวีดีโอแบบ HDMI มาออกจอใหญ่ได้ สำหรับ Keyboard dock นี้ โดยรวมแล้วมีรูปลักษณ์ภายนอกเหมือน Keyboard dock ของ Samsung Galaxy Tab 7" เพียงแต่รุ่นนี้ออกแบบมาให้ใช้งานแบบแนวนอน ไม่เหมือนรุ่นเดิมที่ต้องใช้งานในแนวตั้งเท่านั้น (ข้อจำกัดของ connector ที่ตัวแท็บเล็ตเอง)

นอกจาก Keyboard dock ที่นำมาโชว์ตัวกันแล้ว ตัวแท็บเล็ตเองก็มีให้สื่อลองเหมือนกัน ดูตามคลิปได้



เห็นแล้วก็คงต้องหยอดกระปุกรอ คงมีขายในประเทศไทยในไม่ช้านี้

อ้างอิง : slashgear.com

Fujitsu เป็นอีกรายที่เตรียมผลิตแท็บเล็ตหน้าจอ 7" ระบบปฏิบัติการ Android ออกมาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดที่นับวันจะโตขึ้นๆ เรื่อยๆ โดยแท็บเล็ตที่กำลังจะวางตลาดจะมีระบบปฏิบีติการ Android 3.1 (Honeycomb) ระบบปฏิบัติการที่พัฒนามาเพื่อแท็บเล็ตโดยเฉพาะด้วย



หลายคนคิดว่าแท็บเล็ตจอ 7" อาจจะเล็กเกินไป ต่างรอการมาของแท็บเล็ตหน้าจอใหญ่กว่านั้น แต่ตลาดส่วนใหญ่กลับไม่คิดแบบนั้น จากการที่ Samsung ประสบความสำเร็จกับ Samsung Galaxy Tab หน้าจอ 7" อย่างถล่มทลาย และ hTC กำลังจะวางตลาด hTC Flyer แท็บเล็ตหน้าจอ 7" ภายในไม่กี่วันนี้ แน่นอนว่าตลาดแท็บเล็ตหน้าจอ 7" กำลังจะเป็นตลาดทะเลเดือด (red ocean) ในไม่ช้า เพราะนอกจาก Fujitsu ที่ประกาศเปิดตัวแท็บเล็ตจอ 7" นี้แล้ว ยังมี Acer Iconia A100 และ Viewsonic Viewpad7x ที่กำลังจะออกมาอีก สำหรับราคาของแท็บเล็ตจอ 7" ของ Fujitsu นี้จะอยู่ในช่วง $350 - $700 แล้วแต่ออฟชั่นของพื้นที่เก็บข้อมูลและชนิดการเชื่อมต่อ

อ้างอิง : netbooknews.com

หลังจากที่มีข่าวไปก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ก็มีภาพหน้าจอของ hTC Puccini พร้อมสเปคเพิ่มเติมอีก โดยข้อมูลใหม่ยังคงยืนยันว่ามันเป็นแท็บเล็ตหน้าจอ 10.1" และใช้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายแบบ 4G LTE ได้



ข้อมูลเพิ่มเติมของ hTC Puccini คือหน้าจอ 10.1" ของมันแสดงผลที่ความละเอียด 1280 x 800 พิกเซลอย่างที่สื่อได้คาดเดาไว้ก่อนแล้ว โดยชิพประมวลผลจะเป็นชิพ Qualcomm MSM8660 แบบ dual core ทำงานที่ความถี่ 1.5 GHz และมีชื่อรุ่นเต็มๆ ว่า hTC PucciniLite ระบบปฏิบัติการจากเครื่องตัวอย่างเป็น Android 3.0.1 แต่เชื่อว่าจะได้รับการอัพเกรดเป็น Android 3.1 เมื่อวางขาย ระบบเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายนอกจาก WiFi แล้วก็มี 4G LTE ด้วย (ไม่มีประโยชน์กับบ้านเรา) และแน่นอนว่าส่วนติดต่อผู้ใช้ย่อมต้องเป็น Sense UI โดยจะเป็นรุ่นที่พัฒนาสำหรับแท็บเล็ตโดยเฉพาะ และเชื่อว่ามันจะสนับสนุน digital pen สำหรับการจดโน้ตและวาดภาพแบบเทพๆ เหมือนอย่างรุ่น hTC Flyer ด้วย

อ้างอิง : liliputing.com

ตอนที่ Acer วางตลาด Acer Aspire One Happy รุ่นแรก บอกตรงๆ ว่าไม่รู้ว่า Acer จะเน้นตลาดนี้มากมายขนาดนี้ คิดว่าคงจะวางตลาดสำหรับกลุ่มตลาดเล็กๆ เท่านั้น แต่ด้วยสีสันที่สะดุด (สุดๆ) ของมัน ทำให้มันดูมีเอกลักษณ์กว่าเน็ตบุ๊คอื่นๆ ที่มักมีสเปคเดียวกัน



Acer Aspire One Happy 2 นี้ยังคงอิงสเปคต่างๆ ของเน็ตบุ๊คมาตรฐานทั่วไป คือมีหน้าจอ 10.1" แสดงผลที่ความละเอียด 1024 x 600 พิกเซล มีปุ่มคีย์บอร์ใหญ่เกือบเท่าขนาดมาตรฐาน การเชื่อมต่อไร้สายมีทั้ง WiFi 802.11 b/g/n และ Bluetooth โดยจะมีรุ่นที่ใส่ซิม 3G ให้เผื่อเลือกด้วย



สิ่งที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจากรุ่นก่อนคือ Aspire One Happy 2 นี้จะใช้ซีพียู Intel Atom N570 1.66 GHz ที่ทำงานแบบ dual core โดยมีชิพประมวลผลกราฟฟิค Intel GMA 3150 และหน่วยความจำภายใน 1 GB เท่าเดิม อย่างไรก็ตาม ด้วยการอัพเกรดซีพียูให้แรงขึ้นนี้ ประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมย่อมดีขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผลทั่วไปหรือการประมวลผลกราฟฟิค



กล้องเว็บแคมที่อยู่เหนือจอมีความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล โดย Acer ได้แถมโปรแกรม Acer Video Conference Manager สำหรับใช้อำนวยความสะดวกในการใช้งานให้ด้วย



การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตพื้นฐานนอกจากทาง Ethernet LAN แล้วก็มี WiFi 802.11 b/g/n และ Bluetooth 3.0 HS+/ Bluetooth 2.0 +EDR และในบางรุ่นจะมีระบบ WWAN สำหรับใส่ซิมการ์ด 3G ด้วย


เอกลักษณ์ของ Acer Aspire One Happy ไม่ได้อยู่ที่สเปคเทพ แต่เป็นสีสันที่สดใส แข็งแรง เอ้ย หวานแหวว โดยในรุ่นใหม่นี้จะมีสี Pink peach, Lemon yellow, Orange, Papaya และ Blue curacao ทุกสีล้วนเป็นโทนสีสดๆ แรงๆ เหมาะสำหรับวัยแรกรุ่นมากๆ



ระบบปฏิบัติการที่ให้มามีทั้ง Windows 7 Starter และ Android แบบ Instant On และแน่นอนว่าคงมีแบบเครื่องเปล่า ไม่มีระบบปฏิบัติการขายด้วย



แบตเตอรี่มีสองแบบคือ 6 เซลล์ 48 Whr ใช้งานได้นาน 8 ชั่วโมงและแบบ 3 เซลล์ 24.4 Whr ใช้งานได้ 4 ชั่วโมง



ปุ่มคีย์บอร์ดของเน็ตบุ๊ค Acer Aspire One ทุกรุ่นในปัจจุบันมีปุ่มที่ใหญ่ พิมพ์ได้สะดวก แถมมีทัชแพดแบบมัลติทัชขนาดใหญ่มาให้ด้วย และแน่นอนว่านอกจากมีรุ่นที่ใช้ซีพียู Intel Atom N570 แล้ว ในตลาดบางประเทศจะมีวางขายรุ่นที่ใช้ซีพียู Intel Atom N475 1.66 GHz แบบ single core โดยฮาร์ดดิสก์ที่ให้มาน่าจะเป็น 250 GB แทนที่จะเป็น 320 GB ที่มีในรุ่นซีพียู dual core

เชื่อว่าอีกไม่นาน เราคงได้เห็น Acer Aspire One Happy 2 นี้วางขายในบ้านเรา ใครที่ยังต้องการใช้งานเน็ตบุ๊คอยู่ รุ่นนี้ก็ถือว่าน่าสนใจ ราคาน่าจะไม่แพงอย่างแท็บเล็ตที่เป็นตลาดขาขึ้นอยู่แน่นอน

อ้างอิง : notebookitalia.it

แม้ hTC จะเข้าตลาดแท็บเล็ตค่อนข้างช้ามากหากเทียบกับศักยภาพของบริษัท และเมื่อเปิดตัวแท็บเล็ตของตนเองช้ากว่าคู่แข่ง hTC จึงต้องสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ของตนเองโดยการออกแบบให้ hTC Flyer รองรับการใช้งานปากกา capacitive pen สำหรับจดโน้ตและวาดภาพได้เสมือนใช้ปากกาหรือดินสอจริงๆ



hTC Flyer เป็นแท็บเล็ตอีกหนึ่งรุ่นที่ไม่ได้ใช้ซีพียู Nvidia Tegra 2 แบบ dual core ยอดนิยม แต่กลับใช้ซีพียูของ Qualcomm ทำงานที่ความถี่ 1.5 GHz แบบ single core แทน อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นซีพียูแบบ single core แต่มันก็ถูกชดเชยด้วยความถี่ที่สูงกว่า การทำงานก็จะรวดเร็วไม่แพ้กัน สามารถเล่นไฟล์วีดีโอแบบ HD ได้ (แต่ไม่มีพอร์ท HDMI สำหรับต่อออกจอนอก) ระบบปฏิบัติการเป็น Android 2.4 (Gingerbread) แต่จะมีรุ่น 3.0 (Honeycomb) ให้อัพเดทในอนาคตแน่ๆ มีกล้องด้านหน้าความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซลและด้านหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายวีดีโอแบบ HD ได้ หน้าจอมีขนาด 7" แสดงผลที่ความละเอียด 1024 x 600 พิกเซล โดยระบบสามารถแยกความแตกต่างระหว่างนิ้วที่แตะและปากกา capacitive pen ได้ เวลาจดโน้ตก็ไม่ต้องห่วงว่ามือที่เผลอไปแตะถูกหน้าจอ ระบบจะคิดว่าเป็นการสั่งงานอะไร



hTC Flyer มีวางขายทั้งรุ่นที่มีเฉพาะ WiFi และรุ่น WiFi + 3G ให้เลือกตามความต้องการ แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh น้ำหนัก 415 กรัม

อ้างอิง : carrypad.com

ยุคสมัยนี้ หากผู้ผลิตอุปกรณ์ไอทีใหญ่ๆ รายไหนไม่ผลิตแท็บเล็ต ก็คงถือว่าตกยุค ไม่อินเทรนด์และต้องปล่อยให้ผู้ผลิตคู่แข่งเอาส่วนแบ่งตลาดที่ตนเองควรได้รับไปแทน BlackBerry PlayBook เป็นอีกหนึ่งรุ่นของแท็บเล็ตที่น่าสนใจ



BlacBerry PlayBook เป็นแท็บเล็ตหน้าจอ 7" ที่ไม่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android แต่ใช้ระบบปฏิบัติการที่พัฒนาเองชื่อ QNX ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้ใช้ร่วมกับโทรศัพท์สมาร์ทโฟน BlackBerry รุ่นต่างๆ ได้อยางลงตัว แม้จะมีหน้าจอใหญ่เพียง 7" แต่ความละเอียดการแสดงผลมีถึง 1024 x 600 พิกเซล จึงไม่ต้องว่าจะต้องเลื่อนหน้่าจอซ้ายขวาเพื่อดูหน้าเว็บต่างๆ ซีพียูภายในเป็นซีพียูของ Texes Instument (TI) ทำงานที่ความถี่ 1 GHz มีหน่วยความจำภายใน 1 GB สามารถเล่นไฟล์วีดีโอแบบ HD และส่งภาพออกไปจอใหญ่ได้ทางพอร์ท micro HDMI มีกล้องด้านหน้า 3 ล้านพิกเซล กล้องด้านหลัง 5 ล้านพิกเซลที่สามารถถ่ายวีดีโอ HD ที่ความละเอียดแบบ 1080p ได้ด้วย มีพอร์ท micro USB สำหรับเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ มาดูคลิปแกะกล่องกันว่าภายในกล่องมีอะไรให้มาบ้าง



แม้มันจะไม่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android แต่ด้วยการออกแบบระบบปฏิบัติการที่ชาญฉลาด ทำให้มันสามารถใช้งานโปรแกรมต่างๆ ที่ออกแบบมาสำหรับระบบปฏฺิบัติการ Android 2.3 ลงไปได้ดี และแน่นอนว่ามันสนับสนุนการใช้งาน Adobe Flash และ Adobe Air ด้วย ราคาของมันคือ $499 สำหรับรุ่น 16 GB $599 สำหรับรุ่น 32 GB และ $699 สำหรับรุ่น 64 GB เป็นแท็บเล็ต WiFi only ไม่มีช่องใสซิมการ์ด 3G

อ้างอิง : netbooknews.com

ThinkPad อึด ทน ถึก ภายนอกดูคลาสสิค (หลายคนบอกดีไซน์ไม่ได้เรื่อง) ไม่ตกยุคต่างๆ เพราะไม่เคยตามแฟชั่น

จากที่ได้อ่านข่าว ตอนแรกเหมือนจะปิด แต่ไปๆ มาๆ ก็ตัดสินใจทำต่อ (ไม่รู้เป็นแผนการตลาดหรือเปล่า)

หลังจากที่ Google เปิดตัว Android 3.1 ไปในงาน Google I/O ไม่นาน ก็ปล่อยอัพเดทมันให้กับแท็บเล็ต Motorola Xoom ได้ใช้ก่อนใคร มีการปรับปรุงประสิทธิภาพและความสะดวกในการใช้งานเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญ สามารเสียบอุปกรณ์ USB เช่น เมาส์หรือคีย์บอร์ดใช้งานได้เลย



ขอสรุปคร่าวๆ เกี่ยวกับสิ่งใหม่ๆ ที่มีใน Android 3.1 ไว้ดังนี้

• ช่อง recent apps จะใหม่ขึ้น สามารถเลื่อนดูแอพที่ทำงานค้างอยู่ได้มากขึ้น แถมเป็นแบบ live thumbnail ด้วย
• สามารถใช้เมาส์และคีย์บอร์ดแบบ USB และ Bluetooth ได้
• ใช้งาน game controller ได้บางชนิด เช่น ของ Playstation 3 และของ XBox
• สามารถปรับขนาดของ widget ได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน
• การสนับสนุน USB สามารถตั้งค่าให้ระบบเรียกใช้งานโปรแกรมที่เกี่ยวข้องได้ทันที หากไม่มีโปรแกรมอะไรมาจัดการ ระบบจะส่ง web address เพื่อติดตั้งโปรแกรมนั้นๆ ให้
• โปรแกรม browser สนับสนุน hardware-accelerated rendering สำหรับ plug-in ส่งผลให้ Adobe Flash ทำงานได้ดีขึ้น ใช้พลังานน้อยลง แถมยังสนับสนุน CSS ใหม่ๆ ด้วย
• สามารถบันทึกหน้าเว็บต่างๆ ไว้อ่านแบบ off-line ได้ ปุ่ม quick control ได้รับการออกแบบใหม่ก็ใช้งานได้ดีกว่าเดิม
• มี Picture Transfer Protocol (PTP) สำหรับการเชื่อมต่อกับกล้องดิจิตอลสำหรับดึงภาพได้ง่ายๆ
• โปรแกรม calendar ได้รับการปรับปรุงบางส่วนให้ใหญ่ขึ้นเพื่อง่ายต่อการอ่านและการใช้นิ้วแตะใช้งาน
• โปรแกรม email ได้รับการปรับปรุงให้ส่งข้อความทั้งแบบข้อความตัวอักษรธรรมดาและแบบจัดฟอร์แมต ไม่ต้องห่วงว่าฝ่ายรับจะอ่านไม่ได้อีกต่อไป
• มีการปรับแต่งระบบปลีกย่อยอื่นๆ ให้ทำงานดีขึ้นและเร็วขึ้น

มาดูเป็นคลิปวีดีโอกันบ้าง



ดูจากคลิปแล้ว นอกจากการเพิ่มเติมสิ่งใหม่ๆ เข้ามา ความเร็วการตอบสนองก็ดูจะเร็วขึั้นด้วย น่าใช้ขึ้นอีกเป็นกอง

อ้างอิง : netbooknews.com

อากาศกรุงเทพแปรปรวนดีจริงๆ เดี๋ยวร้อนจัดๆ เดี๋ยวเปียกจัดๆ ตกลงนี่มันฤดูร้อนหรือเปล่านะ

เที่ยวนี้เยอะเลย

แม้ในงาน Google I/O ทาง Google จะพูดถึงบริการให้เช่าใช้บริการแบบครบวงจรของ ChromeBook ที่เป็นทั้งค่าเช่าเครื่องและค่าใช้งานบริการ Google Service แต่สำหรับคนที่ต้องการซื้อขาด ทาง Acer และ Samsung ก็เตีรียม ChromeBook ไว้ให้แล้วเหมือนกัน



สำหรับ Samsung นั้นจะเป็นโน้ตบุ็คหน้าจอ 12.1" แสดงผลที่ความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล มีโน้ตบุ๊คตระกูล Series 5 ใช้ชิพแพลทฟอร์ม Intel Atom Pine Trail N570 1.66 GHz dual core มีพื้นที่เก็บข้อมูลเป็น SSD ความจุ 16 GB เท่านั้น (ใครคิดจะซื้อไปติดตั้ง Windows 7 คงต้องคิดหนัก) การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายมีทั้ง WiFi และ 3G (world mode)



ดูภายนอกทั่วไปก็เหมือนโน้ตบุ็คธรรมดาๆ ด้านบนของหน้าจอมีกล้องความละเอียด 1 ล้านพิกเซลและไมโครโฟนแบบตัดเสียง มีพอร์ท USB 2.0 จำนวน 2 ช่อง มีช่องเสียบ 4-in-1 card อีกช่อง หากต้องการส่งภาพออกหน้าจอใหญ่ก็มีพอร์ท mini VGA ให้ด้วย



และเนื่องจากว่าเป็นโน้ตบุ๊คหน้าจอใหญ่ถึง 12.1" จึงไม่ต้องห่วงเรื่องขนาดของคีย์บอร์ด เพราะมีขนาดมาตรฐาน แถมทัชแพดยังใหญ่เป็นพิเศษอีกด้วย แบตเตอรี่ก็คงได้นานถึง 8.5 ชั่วโมง น้ำหนักก็ไม่หนักมากคือ 1.48 กก. เท่านั้น สำหรับราคา หากเป็นรุ่น WiFi จะขายอยู่ที่ $429 และรุ่น WiFi+3G ขายอยู่ที่ $499 ระบบปฏิบัติการแน่นอนต้องเป็น Chrome OS เท่านั้น



นอกจาก Samsung Series 5 แล้ว ก็ยังมี Acer ChromeBook อีกรุ่น โดยโน้ตบุ๊คของ Acer นี้จะมีขนาดหน้าจอเล็กกว่าคือ 11.6" ความละเอียดการแสดงผลยังไม่ระบุ แต่น่าจะเป็น 1366 x 768 พิกเซลเหมือนกับโน้ตบุ๊คหน้่าจอ 11.6" รุ่นอื่นๆ ของ Acer โดย Acer ChromeBook นี้ก็ใช้ชิพแพลทฟอร์ม Intel Atom แบบ Dual core เหมือนกัน แต่ยังไม่บอกรายละเอียดว่าใช้รุ่นไหน



กล้องเว็บแคมก็บอกเพียงแค่เป็นกล้องแบบ HD ยังไม่ทราบความละเอียด การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้ิสายมีทั้ง WiFi และ 3G (world mode) เหมือนกัน คีย์บอร์ดก็มีขนาดมาตรฐาน ทัชแพดก็ใหญ่มากๆ มีพอร์ท USB 2.0 จำนวน 2 ช่องและช่องเสียบ 4-in-1 card เหมือนกัน แต่พอร์ทต่อจอภาพเป็น HDMI ใช้งานได้นาน 6.5 ชั่วโมง น้ำหนัก 1.34 กก. สำหรับราคาตอนนี้มีแต่ราคาของรุ่น WiFi คือ $349 ส่วนรุ่น WiFi+3G จะประกาศภายหลัง

ทั้งสองรุ่นนี้จะมีภายที่ Amazon และ BestBuy ในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ แต่หากใครจะซื้อมาติดตั้ง Windows 7 ต้องคิดให้ดีๆ เพราะนอกจาก SSD ที่มีความจุน้อยแล้ว ปุ่มคีย์บอร์ดหลายๆ ปุ่มก็ไม่เหมือนกับคีย์บอร์ดทั่วไป จะมีปุ่มที่อำนวยความสะดวกสำหรับการใช้งานบริการของ Google มาแทนที่บางปุ่มที่เคยใช้

อ้างอิง : netbooknews.com

ตอนที่ Google ประกาศพัฒนา Google ChromeOS บอกตรงๆ ว่างงมาก เนื่องจาก Google เองก็มีระบบปฏิบัติการ Android ที่มีอัตราการเติบโตสูงอยู่แล้ว จะมาพัฒนาระบบปฏิบัติการที่ต้องพึ่งพาการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลาทำไม แล้ววันนี้ก็ถึงบางอ้อจนได้



ในงาน Google I/O วันที่สอง Google ประกาศว่าจะมีบริการให้เช่า ChromeBook สำหรับองค์กรธุรกิจเดือนละ $28 และสำหรับองค์กรการศึกษา $20 โดยไม่ใช่เพียงแค่ให้เครื่องไปใช้และก็จบแค่นั้น แต่ราคานี้จริงๆ มันเป็นค่าบริการการใช้งานและบำรุงรักษาซอฟท์แวร์ต่างๆ ด้วย โดยในเครื่องจะมีโปรแกรม Gmail, Google Calendar และ Google Docs ให้ใช้งานแบบออฟไลน์ได้ด้วย แถมระบบปฏิบัติการ ChromeOS ใหม่จะมี File Manager ให้เปิดไฟล์ต่างๆ "ในเครือ่ง" ได้อีก มันไม่ใช่เพียงแค่ฮาร์ดแวร์ที่มีระบบปฏิบัติการที่ต้องพึ่งพาการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลาเท่านั้น แต่มันมาพร้อมกับบริการต่างๆ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องการอัพเดทซอฟท์แวร์ ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการ ซอฟท์แวร์ใช้งาน หรือแม้กระทั่งตัวเครื่องเอง Google จัดการให้หมด เมื่อมีเครื่องรุ่นใหม่ออกมา ก็แค่นำเครื่องเก่าไปเปลี่ยน (โมเดลธุรกิจคล้ายกล่อง set-top box ที่ผู้ใช่ไม่ได้เป็นเจ้าของ)

และนอกจากการทำงานแล้ว ChromeBook ยังมาพร้อมบริการ Netflix และ Hulu สำหรับเช่าหนังดูได้อีก (บริการในสหรัฐฯ เมืองไทยหมดสิทธิ์) สำหรับองค์กรธุรกิจแล้ว ค่าบำรุงรักษาทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ถือเป็นภาระหนักพอสมควร หาก Google มีซอฟท์แวร์หรือบริการที่ตอบสนองความต้องการได้ดี เชื่อว่าโมเดลธุรกิจนี้รุ่งแน่ๆ



อ้างอิง : engadget.com

แท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android 3.0 (Honeycomb) เปิดตัวออกมามากมายหลายรุ่น แต่ไม่มีรุ่นไหนเลยที่มีหน้าจอ 7" ส่วนใหญ่จะเป็น 10.1" มากกว่า แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี Viewsonic Viewpad 7x น่าจะเป็นรุ่นแรกในโลกก็ว่าได้




แม้ hTC จะให้คำมั่นสัญญาว่า hTC Flyer จะได้รับอัพเดทเป็นระบบปฏิบัติการ Android 3.x ในอนาคต แต่ในปัจจุบันก็ยังไม่มีแท็บเล็ตหน้าจอ 7" รุ่นไหนมีมีระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นนี้ และในที่สุด Viewsonic ก็เตรียมเปิดตัว Viewsonci Viewpad 7x ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 3.x ในงาน Computex 2011 ที่จัดขึ้นที่ไต้หวันปลายเดือนนี้ และแน่นอนว่า หากเปิดตัวออกมาจริงๆ มันจะเป็นแท็บเล็ตจอ 7" รุ่นแรกในโลกที่ใช้ระบบปฏิบัติการสำหรับแท็บเล็ตโดยเฉพาะ



สเปคของ Viewsonic Viewpad7x ก็ไม่ได้โลดโผนอะไร คือใช้ชิพแพลทฟอร์ม Nvidia Tegra 2 ที่ทำงานแบบ dual core มีกล้องด้านหน้าและด้านหลังครบ มีพอร์ท HDMI สำหรับส่งภาพเคลื่อนไหวแบบ HD ออกจอใหญ่ด้วย การเชื่อมต่อนอกจาก WiFi แล้ว แน่นอนว่ามี 3G แบบ HSPA+ ด้วย แถมยังมีระบบ DLNA สำหรับส่งภาพและเสียงไปอุปกรณ์ที่รองรับผ่านทาง WiFi ด้วย

ยังไม่ทราบว่าผลิตภัณฑ์จริง ระบบปฏิบัติการจะเป็นรุ่น 3.0 หรือ 3.1 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวานในงาน Google I/O

อ้างอิง : pocketlint.com

เมื่อวาน Google ได้จัดงาน Google I/O ขึ้น โดยได้แสดง Keynote มากมายเกี่ยวกับวิสัยทัศน์และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของ Google และตบท้ายด้วยการแจก Samsung Galaxy Tab 10.1 รุ่นใหม่สุดให้กับผู้ร่วมงานทุกคน แถมไม่ใช่รุ่นปกติด้วย แต่มันเป็นรุ่น Limited Edition ที่ทาง Samsung ผลิตให้เพื่องานนี้โดยเฉพาะ



ของหายากแบบนี้ คงหาดูไม่ได้ง่ายๆ คนที่ไม่ได้ไปร่วมงานคงต้องไปไล่หาซื้อเอาตาม ebay เห็นว่ามีขายกันแล้ว ราคาสูงถึง $1,000 ใครอยากสะสมของหายากก็ไปหาซื้อกันตามสะดวก ตอนนี้มาดูกันก่อนว่า Samsung Galaxy Tab 10.1 Limited Edition นี้สวยงามแค่ไหนกัน



แค่กล่องก็บ่งบอกแล้วว่าเป็นรุ่น Limited Edition งานนี้แค่กล่องก็อาจมีราคา



อีกมุมหนึ่งก็มีโลโก้ของงาน Google I/O เป็นเครืองยืนยันว่าเป็นของหายากอีก



สำหรับตัวเครื่อง ด้านหน้าก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากรุ่น 10.1 ปกติ



รุ่น 10.1 นี้มีจุดเด่นที่ความบาง มันเป็นแท็บเล็ตที่บางทีสุดในโลกอยู่ในปัจจุบัน (8.6 มม.)



บางขนาดช่องเสียบสายหูฟังยังกินพื้นที่ส่วนโค้งมนของสันเครื่อง



แม้จะบาง แต่ปุ่มต่างๆ ที่จำเป็นก็ยังอยู่ครบ



ตรงนี้น่าจะเป็นช่องลำโพง



ตามสไตล์ Samsung ที่จะมีช่องต่อ connector ของตัวเอง ไม่ยอมใช้พอร์ท micro USB บ้านๆ



ส่วนที่ทำให้รุ่น Limited Edition แปลกกว่ารุ่นปกติก็คือฝาหลังที่ไม่ใช่โทนสีเข้ม



นอกจากจะไม่ใช่โทนสีเข้มแล้ว มันยังมีลวดลายหุ่นกระป๋อง Android ยืนเรียงรายเต็มไปหมด



ดูกันชัดๆ อีกมุม ด้านหลังมีกองทัพหุ่นกระป๋องอยู่เพียบ ด้านบนมีกล้องพร้อมไฟแฟลช และหากสังเกตดีๆ จะเห็นช่องเสียบหูฟังที่ล้นมาด้านหลังเนื่องจากความบางของเครื่องด้วย



ใครอยากได้บ้าง ยกมือขึ้น !

อ้างอิง : engadget.com

ไม่เห็นบอกเป็นรุ่นไหน ถ้าเป็นรุ่น A110 / A150 ในเว็บ acer ก็น่าจะมีนะ แต่ถ้ารุ่นอื่น ลองหาในเว็บของผู้ผลิตการ์ด WiFi ดูหากในเว็บ acer ไม่มี

ใช่ว่า hTC จะมีแค่ hTC Flyer หน้าจอ 7" ออกมาแข่งขันในตลาดแท็บเล็ตที่กำลังร้อนระอุอยู่รุ่นเดียว แต่มีข่าวเล็ดลอดออกมาว่า hTC กำลังซุ่มผลิตแท็บเล็ตหน้าจอ 10.1" แถมใช้ระบบปฏิบัติการ Android 3.0 (Honeycomb) ที่ออกแบบมาสำหรับแท็บเล็ตโดยเฉพาะด้วย งานนี้สาวก hTC คงได้ควักกระเป๋ากันอีกแน่



แท็บเล็ตจอ 10.1" ใหม่นี้มีชื่อว่า hTC Puccini โดยในปัจจุบันนี้ ยังไม่มีรายละเอียดของมัน มีเพียงข้อมูลเล็กน้อยและภาพหลุดออกมาเท่านั้น จากภาพจะเห็นว่ามันเป็นแท็บเล็ตไม่มีปุ่ม ซึ่งสอดคล้องกับระบบปฏิบัติการ Android 3.0 ที่ออกแบบมาให้ใช้ปุ่มเสมือนบนหน้าจอแทน ระบบเชื่อมต่อไร้สายจะอิงกับ AT&T ซึ่งน่าจะเป็นระบบ 4G LTE ด้วย และเชือว่า hTC Puccini นี้จะรองรับ hTC Scribe capactive pen อันเลื่องชื่อด้วย หากมีปากกาที่ใช้กับ hTC Flyer มาก่อนแล้ว ก็สามารถนำมาใช้กับรุ่นนี้ได้

ชื่อ Puccini น่าจะตั้งมาจากชื่อ Giacomo Puccini ผู้ประพันธ์ Madamme Butterfly และ La Boheme และน่าจะสื่อว่า hTC Puccini อาจมีทีเด็ดในเรื่องดนตรีก็ได้

อ้างอิง : pocketnow.com

มันคงจะไม่แปลกอะไร หากแท็บเล็ตหน้าจอสัมผัส capacitive จะใช้ปากกา capactive stylus ได้ แต่สำหรับ hTC Flyer นั้น มันพิเศษตรงที่มันใช้ได้แบบไม่หงุดหงิดใจ จะใช้ปากกาหรือใช้นิ้ว ระบบก็แยกออกไม่มีปัญหา



ปกติแล้ว หากใช้ปากกา capacitive stylus ขีดๆ เขียนๆ หรือวาดภาพบนหน้าจอสัมผัสแบบ capacitive สิ่งที่น่าหงุดหงิดใจ คือเราต้องยกมือให้ไม่ให้โดนหน้าจอ มิฉะนั้น หน้าจอจะตอบสนองกับการแตะนั้น หากวาดภาพอยู่ ก็จะทำให้เป็นการวาดอะไรมั่วๆ ตรงจุดที่มือไปแตะโดน แต่สำหรับ hTC Flyer แล้ว ระบบสามารถแยกแยะได้ว่า เมื่อใดหน้าจอจะตอบสนองกับปากกา เมื่อใดระบบจะตอบสนองกับการแตะด้วยนิ้ว ลองมาดูเขาวาดภาพบนจอของ hTC Flyer กันว่าเขาทำได้ดีและง่ายขนาดไหน



อย่างไรก็ตาม ของดีย่อมไม่ถูก ปากกาสไตลัสของ hTC Flyer ถูกวางขายแยกในราคาถึง $80 ราคาโหดร้ายมาก !

อ้างอิง : blogeee.net

เดี๋ยวนี้โฆษณาทีวีของหลายๆ รายไม่ได้มุ่งเน้นอธิบายว่าผลิตภํณฑ์ของตนเองดีอย่างไร มีสเปคอะไร ไม่เน้นให้เห็นรูปลักษณ์ของมันแบบละเอียด แต่จะเน้นถึงคุณภาพชีวิต ความสะดวกสบายหรือความสุขที่ได้ใช้มันมากกว่า โฆษณาของ Acer Iconia Tab A500 ก็ใช้กลยุทธนี้เหมือนกัน



Acer Iconia Tab A500 เป็นแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android 3.0 (Honeycomb) ขนาดหน้าจอ 10.1" แสดงผลที่ความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล ใช้ชิพแพลทฟอร์ม Nvidia Tegra 2 ความถี่ 1 GHz ทำงานแบบ dual core มีหน่วยความจำ 1 GB และพื้นที่เก็บข้อมูลอีก 16/32 GB มีกล้องด้านหลัง 5 ล้านพิกเซลและกล้องด้านหน้าอีก 2 ล้านพิกเซล ระบบเชื่อมต่อไร้สายมีทั้ง WiFi 802.11 b/g/n และ Bluetooth แถมยังมีพอร์ม USB 2.0 เพื่ออำนวยความสะดวกในการโอนถ่ายข้อมูลหรือใช้อุปกรณ์เสริมราคาถูกๆ ได้ด้วย



โฆษณานี้ไม่ได้บอกด้วยซ้ำว่า Acer Iconia Tab A500 ที่อยู่ในโฆษณามันคืออะไร เพียงแค่ให้เห็นว่ามันพร้อมจะเป็นอุปกรณ์สร้างสรรความสุขให้กับเจ้าของได้ทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นบนเตียงนอน บนเครื่องบิน ในห้องน้ำ ในงานปาร์ตี้ ในร้านตัดผมหรือแม้กระที่งตอนขี่จักรยานอยู่ ดูแล้วให้อารมณ์อยากได้มาเป็นเจ้าของมาก

แท็บเล็ต Acer Iconia Tab A500 มีวางขายในประเทศไทยแล้ว ราคาไม่ถูกนัก แต่ก็ถูกกว่าแท็บเล็ตแบรนด์อเมริกาอย่าง Motoroal Xoom และ BlackBerry PlayBook มาก ใครอยากใช้แท็บเล็ตหน้าจอใหญ่ๆ ความละเอียดสูงๆ แบตเตอรี่ใช้งานได้ 10 ชั่วโมง Acer Iconia Tab A500 ถือว่าน่าสนใจ

อ้างอิง : netbooknews.com

ถ้าขนาดเข้า bios ไม่ได้ แถม usb ก็มีปัญหา ควรเอาเข้าศูนย์บริการดูเลยดีกว่าครับ