เข้าระบบ

ชื่อเรียก:

รหัสผ่าน:

จำฉัน



ลืมรหัสผ่าน?

สมัครสมาชิก!

เมนู

   ทุกโพส (นักรบมือตบ)


(1) 2 »


เทพธิดาพยากรณ์ อิอิ ลัลลา [23-29 มีนาคม 2552]
มือสมัครเล่น
เป็นสมาชิกเมื่อ:
9/11/2008 22:46
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 30
เทพธิดาพยากรณ์ อิอิ ลัลลา [23-29 มีนาคม 2552]




ราศีเมษ ผู้ที่เกิดระหว่าง 16 เม.ย. - 15 พ.ค.
ชาวเมษในรอบอาทิตย์นี้ การติดต่อประสานงานลับ ไม่เปิดเผย การวางแผนทำงานใหญ่ในวันหน้า การเตรียมการไว้ในขณะนี้ จะมีความก้าวหน้า และจะประสบความสำเร็จไปทีละขั้นตอนอย่างที่หวัง ขอให้ใช้ความอดทนดีๆ ขณะนี้อาจไม่ทันใจ แต่จะมีความคืบหน้า การติดต่อทางการเงินในอนาคตก็จะเดินหน้าดีเช่นกัน แต่เงินเข้าขณะนี้ยังตึงมือ เข้ากระเป๋าซ้าย ออกกระเป๋าขวาอยู่ เรื่องเงินยังต้องประหยัด ระมัดระวังมากหน่อย เป็นจังหวะที่อาจมีการเสียบางอย่าง เพื่อได้รับสิ่งที่มีค่ามากกว่าในอนาคต และดีสำหรับการคาดคะเน วางแผนติดต่อต่างประเทศ หากสนใจทางศาสนา ศาสตร์ลึกลับต่างๆ จะก้าวหน้าเร็วในการปฏิบัติ แต่ไม่ดีสำหรับการเอาตัวไปอยู่หน้าเวที หรือเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันใดๆ จะโดนกล่าวร้าย ใส่ความ โดนคดีความได้ ความรักยังเดินหน้าดีในความเงียบ ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลมีมิตรภาพกันมาก

ราศีพฤษภ ผู้ที่เกิดระหว่าง 16 พ.ค. - 15 มิ.ย.
ชาวพฤษภในรอบอาทิตย์นี้ การงานยังหนักหน่วง ต้องกระโดดเข้าไปลุยด้วยตัวเอง จะได้หุ้นส่วนผู้ร่วมงานที่ดีที่พร้อมช่วยกันในทุกสถานการณ์ การติดต่อประสานงาน การทำข้อตกลงต่างๆ ลงนามในเอกสารจะมีโชคเข้ามาด้วย จะได้เห็นการวิวาทเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงแตกหักในสำนักงาน หรือต้องทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร อาวุธ ของร้อน ของมีคม คนในเครื่องแบบ เกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา แต่คุณจะมีโชคจากสิ่งเหล่านี้ด้วย การเงินถือว่าเดินหน้าจะได้เงินฟลุ้คๆ เงินจากการขายตรง นายหน้า การเจรจาทางการเงิน ทวงเงินดีทุกทาง ส่วนความรักนั้นจะมีคนมาชอบมาติดพันเพราะทึ่งในความสามารถของคุณ ได้ใช้ความสุขุมในการแก้ปัญหา อย่าเชื่อดวง หรือคำทำนายใดๆ มั่นใจในความดีงามถูกต้อง แล้วลุยไปเถอะ ผลสำเร็จและชัยชนะรออยู่

ราศีเมถุน ผู้ที่เกิดระหว่าง 16 มิ.ย. - 15 ก.ค.
ชาวเมถุนในรอบอาทิตย์นี้ ถือว่าเป็นช่วงโดดเด่นในด้านการงาน การสมัครงานใหม่ ก้าวหน้าได้ดังหวัง งานที่ทำอยู่ได้ทั้งกล่องทั้งเงิน การติดต่อประสานงานดีทุกทาง จะได้พบผู้ใหญ่ระดับสูง ผู้บริหารในองค์กรที่ชักชวน ให้เกียรติคุณในการงาน จะได้รับการโปรโมทยกย่อง มีผลงานปรากฏในที่สาธารณะที่ได้รับคำชื่นชมอย่างสูง แข่งขันใดๆ มาวิน ติดต่อคนระดับสูงยากเย็นแค่ไหน ผ่านฉลุยทุกขั้นตอน ปัญหาในเรื่องงานหากคาราคาซังอยู่จะได้รับการแก้ไขให้ลุล่วงไปได้ ดวงเรื่องงานยังดีอยู่อีกเป็นเดือน คุณเองก็จะได้เข้าไปลุยในเรื่องที่ชอบและสติปัญญาจะเปรื่องปราดก้าวหน้าแก้ได้ทุกปัญหา การเงินจะคล่องมือทั้งเข้า-ออก จัดการทางการเงินได้เรียบร้อยทุกอย่าง การเดินทางไกลจะเหนื่อยหน่อย จะมีเรื่องอึดอัดไม่ค่อยพอใจนัก ระวังทะเลาะกับเพื่อนร่วมทางด้วย เพราะใจร้อนทั้งคู่ ส่วนความรักอยู่ในแวดวงคนทำงาน ได้ทำงานกับคนรัก หรือปิ๊งคนจากการทำงานร่วมกัน ที่จะได้ช่วยเหลือกันดีด้วย

ราศีกรกฎ ผู้ที่เกิดระหว่าง 16 ก.ค. - 15 ส.ค.
ชาวกรกฎในรอบอาทิตย์นี้ เป็นจังหวะดีของการเดินทางไกล จะไปแสวงบุญ ไปทำกิจกรรมทางศาสนา ไปตามแหล่งโบราณสถาน ดีทั้งนั้น การงานของคุณก็จะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมเหล่านี้ ไปต่างประเทศ หรือได้ค้นคว้าในศาสตร์ลึกลับ พบเกจิอาจารย์ผู้มีพลังอำนาจจิตสูงๆ ได้ค้นคว้าเรื่องราวที่พิเศษ ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ทำงานพวกนี้จะก้าวหน้าดี แต่คุณเองจะสุขภาพไม่ดี ระวังการป่วยไข้ อ่อนล้าง่ายกว่าปกติ เจอปัญหาจะท้อง่าย ทั้งที่จริงๆ แล้วดวงยังส่งอยู่เยอะ เรื่องความรักจะสบายอารมณ์ จะพบรักจากการเดินทาง ได้พบคนน่าสนใจ น่าทึ่ง เก่ง เป็นตัวของตัวเอง ฉลาดปราดเปรื่องจะประทับใจ และได้คบหากันต่ออีกพักใหญ่ เป็นโอกาสดีของการประสานงานติดต่อทั้งเรื่องส่วนตัวและการงาน การเงินก็ดีเช่นกัน กิจการที่เกี่ยวกับศาสนา ซื้อมาขายไป กิจการเกี่ยวกับต่างประเทศจะทำเงินให้สูง และเรื่องไหนพาเงินมาให้ จะพาโชคทางความรักมาด้วย

ราศีสิงห์ ผู้ที่เกิดระหว่าง 16 ส.ค. - 15 ก.ย.
ชาวสิงห์ในรอบอาทิตย์นี้ มีเกณฑ์ในการเดินทางไกล ไปต่างประเทศ หรือไปตามแหล่งโบราณสถาน แต่ยังต้องระวังเจ็บตัวจากอุบัติเหตุ ของร้อน ของมีคม ตัดเฉือนร่างกายอยู่ด้วย คุณจะใจร้อน โมโหง่ายกว่าปกติ และจะขัดแย้งกับผู้ร่วมงานง่าย ต้องโอนอ่อนผ่อนปรนรับฟังกันมากหน่อย เรื่องเงินยังไม่ค่อยดีนัก จะมีเหตุให้ใช้หนี้ คิดเรื่องหนี้สินมากขึ้น การเจรจาทางการเงินยังช้าและเลื่อนลอย จะมีเหตุให้เงินถูกล้วงออกจากกระเป๋าใช้ซ่อมแซมของ บริจาค ช่วยเหลือคนอื่น จ่ายให้กับอาการเจ็บป่วยเดือดร้อนของญาติ คนใกล้ชิด ตัวคุณเอง ก็จะต้องเข้าไปอุทิศตัวค้ำจุนช่วยคนอื่นมาก งานการใดๆ มักเป็นงานที่คุณต้องทำให้ชาวบ้านโดยไม่ได้ประโยชน์โดยตรงต่อตัวเองในขณะนี้ ขอให้อดทนเพราะระยะยาวจะดีขึ้น เรื่องความรักให้ระวังการวิวาทแรงๆ ระหองระแหงกับคู่ครอง หากห่างกันโดยระยะทางจะแก้เคล็ดไปได้ ต้องใจเย็นมากๆ คู่ครองของคุณเขามีเรื่องไม่สบายใจจะวีนคุณเยอะหน่อย ขอให้อดทนประคับประคองกันไป ไม่งั้นมันจะพังง่ายมาก

ราศีกันย์ ผู้ที่เกิดระหว่าง 16 ก.ย. - 15 ต.ค.
ชาวกันย์ในรอบอาทิตย์นี้ จะมีผลงานโดดเด่น ปรากฏ มีชื่อเสียงในที่สาธารณะ คำพูดจะได้รับการรับฟัง เชื่อถือ จะได้ขึ้นเวทีแสดงความคิดเห็นแสดงความสามารถ การแข่งขัน การสอบ การศึกษา งานวิชาการดีทั้งนั้น จะมีเรื่องฟลุ้คๆ เซอร์ไพรส์ให้ประหลาดใจ ชื่นใจ และเป็นเรื่องดี การประสานงานต่างๆ ดีมาก จะได้อยู่ท่ามกลางผู้ใหญ่ คนมีเกียรติ และคุณจะเป็นแกนนำเป็นตัวหลักในการประสานหลายๆ ฝ่ายด้วย จะมีหุ้นส่วนที่ดี เก่ง ฉลาดเฉลียวมาร่วมงาน และมาอย่างกำกวม คือชื่นชมคุณเป็นพิเศษ จะมีคนมาปลื้มมารัก ทำให้คุณหวั่นไหว และเข้ามาอย่างจริงใจ จะช่วยเหลือร่วมงานคุณได้อย่างดีในอนาคต แต่คุณสุขภาพไม่ดี ป่วยง่าย เหนื่อยง่าย ท้อใจง่าย ต้องพยายามทำใจให้มีชีวิตชีวาหน่อยเพราะดวงอยู่ในช่วงดีเชียวล่ะ อาจจะมีปัญหาข้อขัดแย้งกับเพื่อน เดินทางใกล้จะมีเหตุขลุกขลักไม่เรียบร้อยนัก ส่วนเรื่องเงินเข้า-ออกคล่อง เจรจาการเงินดีทุกอย่าง ได้หุ้นส่วนที่ดี ทำเงินให้เพียบเลย

ราศีตุลย์ ผู้ที่เกิดระหว่าง 16 ต.ค. - 15 พ.ย.
ชาวตุลย์ในรอบอาทิตย์นี้ ยังต้องรอบคอบระมัดระวังในการติดต่อประสานงานหลายๆ ด้านไว้ด้วย เพราะอาจเกิดปัญหาตามมา จะมีเหตุให้ทะเลาะวิวาทกับผู้คน การพูด การเขียน การลงนามในเอกสาร การทำข้อตกลงต่างๆ ต้องรอบคอบถึงที่สุด เพราะจะเสียเปรียบได้ และจะมีปัญหาทางคดีความติดตามมาง่าย ต้องใช้ความบริสุทธิ์ยุติธรรม ซื่อตรงไว้มากๆ รอบคอบมากๆ จะคุ้มครองตัวเองได้ คุณอาจถูกกล่าวหา ใส่ร้ายให้เสียใจ ถูกลบหลู่เกียรติ ถูกโกง ขอให้สงบ ตั้งสติดีๆ เพราะเดี๋ยวทุกอย่างจะผ่านไปแล้ว ธรรมะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังคุ้มครองคุณแน่นหนาอยู่ มีคดีความข้อโต้แย้งใดๆ ในขณะนี้ ต้องค่อยๆ ต่อสู้ไป อีกไม่นานจะเรียบร้อย และจะจัดการได้ การเงินยังตึงมือ ดูดีๆ ว่าเงินที่เข้ามีที่มาถูกต้องแค่ไหน อย่าซี้ซั้วรับ จะยุ่งเยอะ เป็นช่วงที่ลูกน้อง ลูกหลาน จะมีเหตุขัดแย้งกัน มีเหตุให้คุณต้องเสียเงินให้ปัญหายุติ อาจฮึ่มฮั่มกับคู่ตัวเองด้วยเรื่องของลูกๆ หลานๆ คนใต้บังคับบัญชา ส่วนเรื่องรัก ยังไม่ดีนัก อยู่ใกล้กัดกันแหลก ถ้าห่างโดยระยะทางจะแก้เคล็ดไปได้

ราศีพิจิก ผู้ที่เกิดระหว่าง 16 พ.ย. - 15 ธ.ค.
ชาวพิจิกในรอบอาทิตย์นี้ จะมีเหตุเคลื่อนไหวเรื่องการงานที่มีผลดีอย่างยิ่งกับคุณ จะได้รับการโปรโมท ได้รับตำแหน่งใหม่ ได้รับมอบหมายงานสำคัญให้คุณไปจัดการ ประสานงาน ลุย บุกเบิก ซึ่งทำให้คุณได้ชื่อเสียงความสำเร็จอย่างสูง และคุณก็จะมีความสุขมากด้วย สมัครงานใหม่ลุยได้ จะได้ทั้งกล่องทั้งเงิน การแข่งขันใดๆ การศึกษามีดีทั้งนั้น คนมีลูกหลาน บริวาร จะได้รับความภูมิใจจากความสำเร็จของลูกๆ หลานๆ ชนิดหน้าบานเป็นจานเชิง การเงินเดินหน้าดี การประสานงานทางการเงินดีทุกอย่าง แต่จะมีเหตุให้ซ่อมบ้าน ซ่อมรถ มีข้อขัดแย้งกับญาติผู้ใหญ่หรือคนแถวบ้าน ญาติๆ อาจบาดเจ็บ เจออุบัติเหตุได้ เกณฑ์นี้ยังอยู่อีกพักใหญ่ เรื่องรักก็สดใสสดชื่น ไม่ว่าโสดหรือไม่โสดจะมีคนมารักมาปลื้ม เนื้อหอมมั่กๆ และสัมพันธภาพก็เดินหน้า หมาหยอกไก่ไปอย่างรื่นรมย์ซะด้วย

ราศีธนู ผู้ที่เกิดระหว่าง 16 ธ.ค. - 15 ม.ค.
ชาวธนูในรอบอาทิตย์นี้ ต้องไปยุ่งเกี่ยวพันกับธุระของพวกญาติๆ เยอะหน่อย พบปะชุมนุมรวมญาติกันบ่อยๆ ลากยาวไปจนถึงช่วงสงกรานต์เลย และจะมีเหตุให้ทำข้อตกลงทางด้านเอกสารในเรื่องอสังหาริมทรัพย์ ยานพาหนะ หรือเอกสารที่ญาติๆ หรือผู้ใหญ่มาขอให้คุณมีส่วนจัดการให้เรียบร้อย การประสานงานนั้นดีทุกทาง ทำไปเถอะ ต่อไปจะได้ผลตอบแทนในอนาคตเยอะ การเงินถือว่าเดินหน้าดี เจรจาขอเงินกู้เงินจากผู้ใหญ่ จากเครือญาติสำเร็จดังปรารถนา เงินเก่าเงินค้างจะทวงอะไรใคร หรือจะใช้หนี้ดีทั้งนั้น มีโอกาสได้ของดีของสวยของงามเข้าบ้านด้วย การงานนั้นก้าวหน้าเพราะผู้ใหญ่สนับสนุน ติดต่อขอทุนใดๆ จะได้ดังหวัง เรื่องรักก็สดใส ถ้าโสดผู้ใหญ่จะแนะนำคนดีมาให้ ที่มีคู่แล้วจะมีความสุขอบอุ่นใจ ท่ามกลางสังคญาติทั้งสองฝ่าย

ราศีมังกร ผู้ที่เกิดระหว่าง 16 ม.ค. - 15 ก.พ.
ชาวมังกรในรอบอาทิตย์นี้ เป็นช่วงที่จะได้ใช้เวลาสมาคมกับเพื่อนฝูง พบปะกับคนมากหน้า อาการประมาณได้รับแขกซะบ้านแตกสาแหรกขาดไปเลย จะมีเหตุให้เดินทางระยะใกล้ สั้นๆ เข้ามาเป็นระยะ ญาติๆ ผู้ใหญ่ จะไปต่างประเทศ ไปตามแหล่งโบราณสถานต่างๆ ไปวัด ไปปฏิบัติธรรม และคุณคงต้องไปเกี่ยวพันในเรื่องเงินๆ ทองๆ กับท่านด้วยกิจการพวกนี้ไม่มากก็น้อย เป็นช่วงจะได้เครื่องไฟฟ้า ของร้อน ของมีคมเข้าบ้าน และจะมีเงินเข้า-ออกปรูดปราด แต่ก็ยังดีที่ถือว่ามีเงินใช้คล่องมือ และการประสานงานทางการเงินยังไปได้ดี เรื่องทางการศึกษา งานวิชาการต่างๆ ยังมุ่งหวังความสำเร็จได้ การงานจะได้ทำงานร่วมกับเพื่อน ได้ร่วมกันทำอะไรสักอย่างที่ก้าวหน้าไปได้คล่องแคล่วดี เรื่องรักก็สนุกสบาย มีโชคทางความรัก คนอยู่เหงาๆ จะนั่งเซ็งทำไม เพื่อนกันนั้นแหละกำลังปลื้มคุณอยู่ หรืออาจเป็นคนที่พี่น้องใกล้ชิดแนะนำมาให้ จะคบหากันได้สบายอารมณ์ด้วย

ราศีกุมภ์ ผู้ที่เกิดระหว่าง 16 ก.พ. - 15 มี.ค.
ชาวกุมภ์ในรอบอาทิตย์นี้ เป็นจังหวะที่มีโชคทางการเงินเข้ามาเยอะ จะได้เงินก้อนใหญ่ เงินเก่าเงินค้าง จะทยอยเข้ามา ทวงเงิน ประสานงานทางการเงิน เตรียมหาเงินในอนาคตไว้ได้เลย สำเร็จทั้งนั้น หุ้นส่วนการทำงาน คนรัก คู่ครองจะพาโชคเกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ มาเข้ากระเป๋าคุณด้วย มีโอกาสได้รับของฝาก ของกำนัล งานศิลปะ เครื่องประดับ ซื้อหาของเหล่านี้ช่วงนี้จะได้ของดีกิ๊บเก๋ แต่ต้องระวังอุบัติเหตุ เจ็บตัวจากของร้อน ของมีคม การผ่าตัด มักเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากการทำงาน หรืออะไรที่หักๆ พังๆ ในบ้าน ใจจะร้อนกว่าปกติ ต้องสงบระงับไว้ให้ดี ไม่งั้นเห็นช้างเท่าหมูได้ง่ายๆ จะเข้าไปทำงานที่เหนื่อยสุดๆ ยากสุดๆ ทำความเครียดให้สูง แต่จะสำเร็จดังหมาย จะได้ช่วยเพื่อนในงานลับๆ ไม่เปิดเผย และจะทำได้เรียบร้อย เรื่องรักก็ไปได้ดี คนที่รักกันจะมีสัมพันธภาพที่หวานชื่น ซาบซึ้งในมิตรภาพ และคนรักก็พาสิ่งดีๆ หลายอย่างเข้ามาในชีวิตคุณ

ราศีมีน ผู้ที่เกิดระหว่าง 16 มี.ค. - 15 เม.ย.
ชาวมีนในรอบอาทิตย์นี้ เป็นจังหวะที่โดดเด่น ประสบความสำเร็จสูง การแข่งขันใดๆ การสอบเรียนต่อ งานทางวิชาการ จะได้รับการชื่นชมยกย่อง คุณจะอยู่แถวหน้า บนเวทีที่สปอตไลท์ฉายจับ การเจรจา การนำเสนอความคิดเห็นจะได้รับการยอมรับมาก อยากต่อรองเรียกร้องอะไรใครลุยไปเหอะ ได้ดังหวังทั้งนั้น และเป็นช่วงมีเสน่ห์ มีคนมาปลื้ม มารักมาชอบ ไม่ใช่คนเดียวซะด้วย จะได้ใกล้ชิดคนรัก มีประสบการณ์ชื่นบานระหว่างกัน ได้เข้าใจกันมากขึ้น ได้พบโอกาสบอกรัก ฝากรัก เป็นช่วงจะได้วัตถุมงคล ของฝากจากต่างประเทศ เงินจากหน่วยงานหรือคนต่างชาติ ได้ของแปลกๆ ที่มีพลังอานุภาพในตัวมันเอง แต่คุณจะเหนื่อยง่าย ป่วยง่าย อ่อนล้าง่ายกว่าปกติ และอาจเจออุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ จากความประมาทให้เจ็บตัว

โพสเมื่อ : 24/3/2009 15:25
Transfer the post to other applications Transfer


( ^_^)//U*U(^_^ ) "กางเกงในมือ 2"
มือสมัครเล่น
เป็นสมาชิกเมื่อ:
9/11/2008 22:46
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 30
- ธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตอนนี้คือ ขายกางเกงในผู้หญิงมือสอง
- ปกติจะขายอยู่ตัวละ 200 บาท (ต้องห้ามซักนะ ถ้าซักไม่มีคนซื้อ)
- ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย
- แต่ถ้าเอาตัวที่คนขายใส่ คิด 500 (ถอดให้เลย)
-ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงที่จตุจักร (เพื่อนไอ้น้องบิ๋มมันขาย)

-แต่มีอยู่วันหนึ่ง มีลูกค้าผู้ชายคนหนึ่ง ทำทีเป็นหยิบดูของด้วยท่าทางเขินนิด ๆ
-พอเห็นคนน้อย ๆ ก็เอ่ยปากกับหญิงคนขายว่า "น้อง ๆ พี่ขอซื้อตัวที่น้องใส่ น้องขายไหมครับ"
-คนขายตอบทันทีว่า "ขายค่ะ...แต่ตัวละ 500 นะ ถ้าเอา เดี๋ยวถอดให้เดี๋ยวนี้เลย"
-คนซื้อบอกว่า ผมให้ 2000 เลย แต่มีข้อแม้ว่า ต้องให้ผมถอดเองกับมือ
-คนขายคิดนิดนึง "โอเคค่ะ พี่มาหลังร้านเลย"
-พอไปถึง คนขายก็ถกกระโปรงขึ้น แล้วพูดว่า "เอาเลยค่ะ ถอดเองตามสบายเลย"
-ชายคนซื้อก็ค่อย ๆ ถอดกางเกงในลงมาอย่างช้า ๆ จนถึงเข่า จากนั้นเขาก็รีบดึงกางเกงในขึ้นไป
ใส่เหมือนเดิมทันที
-สาวคนขายก็เลยถามว่า "อ้าว...ทำไมพี่ไม่ถอดออกไปเลยล่ะคะ"




-ชายลูกค้าตอบว่า "ไม่มีตังค์" ( ^_^)//U*U(^_^ )

โพสเมื่อ : 20/3/2009 14:37
Transfer the post to other applications Transfer


ภาคต่อ "เคล็ดเสริมดวง" ใครอยาก โชคดีพลาดไม่ได้เด็ดขาด...
มือสมัครเล่น
เป็นสมาชิกเมื่อ:
9/11/2008 22:46
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 30
****เหรียญนำโชค ****


เมื่อเจอเงินตกอยู่ตามทางเดิน แม้จะเป็นเพียงเหรียญบาทก็ให้เก็บเอาไว้ ให้ถือเสมือน

เป็นเหรียญนำโชค การเดินผ่านเลยไป เพราะเห็นว่าเป็นเพียงเหรียญบาท เหรียญสลึงนั้น ถือเป็นการ

ดูถูกเงินทอง ไม่เห็นคุณค่าของเงิน คนเฒ่าคนแก่เชื่อกันว่ามันจะทำให้คุณอับโชคทั้งวัน หรือในช่วง 3 -

7 วันนั้น


*****แหวนเสริมดวง *******


เลือกสวมแหวนที่ถูกโฉลกกับเดือนเกิด หรือวันเกิดเพื่อเสริมโชคดีให้ชีวิต


ถ้าอยากเสริมดวงการเงิน - ควรสวมแหวนทอง แหวนเงิน แหวนหยกและแหวนหัว

พลอยสีที่ถูโฉลก


ถ้าอยากเสริมดวงความรัก - ให้สวมแหวนรูปหัวใจ รูปดาว เลือกแหวนเพชรหรือ

เทอร์ควอยส์ก็ได้


ส่วนแหวนลูกปัดและหินสีต่างๆ - จะช่วยเสริมดวงเสน่ห์


การสวมแหวน


สวมแหวนนิ้วกลางขวา - เสริมดวงการเงินและบารมี


สวมแหวนนิ้วนาง นิ้วก้อย - เสริมเสน่ห์ และเสริมดวงความรัก


*****ทำบุญโลงศพ *******


ไปที่มูลนิธิใกล้บ้าน ทำบุญบริจาคเงิน ร่วมกันซื้อโลงศพให้ศพอนาถาที่ไร้ญาติ การทำบุญโลง

ศพจะช่วยเสริมดวงชะตาให้กล้าแข็ง เหมาะสำหรับช่วงดวงอ่อน และมีทุกข์มีเคราะห์


******พระพรหมศักดิ์สิทธิ์ ******


หาโอกาสไปกราบไหว้พระพรหมสักครั้ง ถ้าอยู่ที่กรุงเทพ ก็ไปไหว้ที่หัวมุมสี่แยกราชประสงค์

โรงแรมเอราวัณก็ได้ หรือที่ศาลพระพรหมแห่งใดก็ได้ทั้งนั้น พระพรหมเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ที่กล่าวขวัญกัน

มากว่า บนบานอธิษฐานขออะไรมักได้ดังปรารถนา ด้วยว่าท่านเป็นเทพแห่งความสำเร็จนั่นเอง


*******หิ้งพระ******


หิ้งพระ หรือหิ้งบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเทพต่างๆ หรือ ร. 5, ในหลวงของ

เรา เมื่อตั้งหิ้งบูชาแล้วจะต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ หมั่นเป ลี่ ยนดอกไม้ พวงมาลัย

ถวายน้ำสะอาด ถ้าปล่อยให้หิ้งสกปรก มีแต่ฝุ่นจับเต็มไปหมด บ้านนั้นจะมีแต่ความเสื่อมถอย โชคลาภหด

หาย ยากที่จะเจริญรุ่งเรือง


*******ไข่ และ ส้ม ******


ในบ้านเรือนควรมีไข่ และมีส้มไว้ในตะกร้าเสมออย่าให้ขาด เพื่อเรียกความสมบูรณ์พูนสุข

เข้าบ้าน ทำให้ชีวิตอยู่ดีมีสุขตลอดไป ไข่และส้มเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความโชคดี

โพสเมื่อ : 20/3/2009 13:32
Transfer the post to other applications Transfer


เทคนิค​เพื่อให้​ได้ตรวจ​กับแพทย์ดีๆ ...​.
มือสมัครเล่น
เป็นสมาชิกเมื่อ:
9/11/2008 22:46
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 30
เทคนิค​เพื่อให้​ได้ตรวจ​กับแพทย์ดีๆ ...​.

เทคนิค​เพื่อให้​ได้ตรวจ​กับแพทย์ดีๆ
สวัสดีปีใหม่ครับ ชาวโทรโข่งทุกท่าน
วันนี้มีเทคนิคดีๆ มาฝาก

เคยไหมครับ ​ที่เวลาเข้า​ไปตรวจ​กับแพทย์ เจอแพทย์ตวาดใส่ พูดห้วนๆ ถามคำตอบคำ
เหมือนไม่ใส่ใจเรา บางครั้งตรวจแบบขอ​ไปที บางคนแล้ว​หนักโดนไล่ตะเพิดออกมา
​ที่โดนหมอด่าก็ไม่ใช่น้อย ถามอะไร​ก็ไม่เคย​จะ​ได้คำตอบ ​และอีก ฯลฯ
ซึ่งผมเชื่อว่า แพทย์ดีๆ มีมากกว่าแพทย์​ที่ไม่ดี
แต่บางครั้งแพทย์ดีๆ ก็กลายแพทย์​ที่ไม่ดี​ได้ หากถูกอารมณ์เข้าครอบงำ
ดังนั้น​วันนี้ ผมจึงขอนำเสนอ​เทคนิคดีๆ
​เพื่อให้ทุกท่าน​ได้รับการตรวจจากแพทย์​เป็น​ไปอย่างราบรื่น อาจ​จะหลายข้อสักหน่อย​ แต่คาดว่าน่ามีประโยชน์ค่อนบ้างครับ
ให้​เป็นของขวัญปีใหม่ปี 2552 แล้ว​กันนะครับ

เทคนิค​เพื่อให้​ได้ตรวจ​กับแพทย์ดีๆ ข้อ​ที่

1. หากท่านเข้า​ไปตรวจ​กับแพทย์​ที่แผนกผู้ป่วยนอก ​แม้ท่าน​จะรอนานหงุดหงิด หรือไม่พอใจอะไร​อยู่​ก่อน (เช่น พยาบาลจัดคิวให้ผิด รอตรวจช้า หาประวัติไม่เจอ ฯลฯ) ขอให้ท่านโยนมันทิ้ง​ไป ทำใจให้สงบ แล้ว​เข้าตรวจด้วยอารมณ์​ที่ดี​และ​เป็นกลาง บางท่านเข้า​ไปถึง​เมื่อเจอแพทย์ ประโยคแรก​ที่พูด​กับหมอก็​คือ “รอตั้งนานกว่า​จะ​ได้ตรวจ!” นั่นอาจทำให้สัมพันธภา​พระหว่างผู้ป่วย​กับแพทย์จบลงตั้ง แต่ยังไม่​ได้ตรวจ! เพราะแพทย์บางท่านอาจ​จะหงุดหงิดขึ้น​มาทันที ​ทั้งนี้ผู้ป่วยอาจไม่ทราบว่า แพทย์ท่านอาจ​จะตรวจตลอด ห้องน้ำก็ยังไม่​ได้เข้า ข้าวกลางวันก็ไม่​ได้กิน แพทย์อาจคิดว่า ไม่ใช่​ความผิดของตน​ที่คนไข้รอนานกว่า​จะ​ได้ตรวจ เพราะคนไข้เยอะ เพราะบางราย​ต้องตรวจละเอียด บางราย​ต้องทำหัตถการ ​เป็นต้น ทำให้ไม่​สามารถตรวจให้เร็วถูกใจคนไข้​ได้ (ตรวจเร็วก็ว่า ตรวจไม่ละเอียดอีก)

ดังนั้น​การถูกคนไข้ระบาย​ความอัดอั้นใส่ตั้ง แต่ยังไม่​ได้ตรวจ จึงอาจทำให้แพทย์ท่านหงุดหงิด โกรธ หรือน้อยใจ จนทำให้ระบายอารมณ์​ที่อัดอั้นใส่แก่คนไข้คืน​ได้เช่นกัน บางท่านอาจ​จะหยุดตรวจ​ไปเสียดื้อๆ บางท่านอาจ​จะตรวจแบบลวกๆ ให้ผ่าน​ไปที บางท่านตวาดกลับใส่คนไข้ ​เป็นต้น

การแก้ไข หากท่านอยาก​ได้​ความมีไมตรีจิตต่อกัน​ที่ดี อย่าพยายามระบายใส่แพทย์ ​เมื่อเข้า​ไปถึง ประโยค​ที่ควรพูด​เพื่อสร้างสัมพันภาพ​ที่ดีต่อกันก็​คือ “สวัสดีค่ะ /สวัสดีครับ ” ท่าน​จะยกมือไหว้แพทย์หรือไม่ก็​ได้ครับ แล้ว​ แต่ท่าน แต่​ถ้าไหว้ก่อนกรณี​ที่เห็นว่า แพทย์อาวุโสกว่า (หรือ​แม้ว่า แพทย์ท่าน​จะอายุน้อยกว่า) ย่อมสร้างสัมพันธภาพ​ที่ดีมากขึ้น​ หากแพทย์ไม่​ได้ไหว้ตอบขอท่านอย่าถือสา ให้คิดว่า แพทย์ท่านอาจ​กำลังยุ่ง จดนู่นจดนี่อยู่​ แต่​โดยมารยาทแล้ว​ คน​ที่ควรยกมือไหว้ก่อนควร​จะ​เป็นแพทย์เสียด้วยซ้ำ แต่หากคนไข้ไหว้ก่อน แพทย์ก็ควรรับไหว้ทุกราย ตามวัฒนธรรมประเพณี​และแสดงถึงไมตรีจิต​ที่มีต่อกัน หลังจากทักทายดังกล่าวแล้ว​ หากอยาก​จะพูด​เพื่อเริ่มสนทนา ​เพื่อสร้างบรรยากาศ​ที่ดี อาจ​ใช้ประโยค​ที่แสดงถึง​ความห่วงใย ​เป็นห่วงหรือให้​กำลังใจ เช่น “สวัสดีครับ คุณหมอ, คนไข้เยอะเชียว เหนื่อยแย่เลย​นะครับ ” ​เป็นต้น

2. แพทย์บางคน​จะพยายามซักประวัติ​เพื่อให้​ได้มา ซึ่งคำตอบของโรค ดังนั้น​อาจ​จะไม่พึงพอใจ หากเจอคนไข้​ที่มาถึงแล้ว​ชอบระบายก่อน​ที่​จะ​ได้ซักประวัติ เช่น “สวัสดีค่ะ คุณหมอ ดิชั้น​เป็นอะไร​ไม่รู้ ปวดหัว​ทั้งวัน ปวดตรงขมับ จี๊ดๆ บางทีก็หนาวๆ ร้อนๆ ​จะว่า เครียดก็ไม่​ได้เครียด แต่ว่า ทานอะไร​ไม่ค่อย​ได้เลย​ นี่น้ำหนักลดลง​ไปตั้ง 2 กิโล แล้ว​เวลากินข้าวเนี่ยชอบปวดตรงลิ้นปี่ แน่นหน้าอก คลื่นไส้ แล้ว​ใจมัน​จะไม่ค่อยดี หวิวๆ บางทีก็ ...​ ฯลฯ” ​โดย​ที่ไม่มีการหยุดเว้นวรรคให้แพทย์​ได้ซักถามประวัติ เพราะบางทีประเด็น​ที่คนไข้เล่า ไม่​ได้ตรงจุด​ที่แพทย์​ต้องการทราบ​เพื่อให้​ได้มา ซึ่งการวินิจฉัย

ดังนั้น​คนไข้ประเภทนี้อาจ​จะทำให้แพทย์หงุดหงิดขึ้น​มา​ได้ในทันที เพราะอาจทำให้เสียเวลาตรวจคนไข้รายอื่น (​แม้ว่า ​โดยหลักการแพทย์ควร​จะ​ได้รับฟังทุกปัญหาของคนไข้ แต่บางครั้งในแผนกผู้ป่วยนอก​ที่คนไข้รอตรวจเยอะๆ เราก็คงไม่อาจทำ​ได้เต็ม​ที่​ทั้งหมด” การแก้ไข​คือ ควรบอกประเด็นสำคัญของการมาตรวจครั้งนี้ หรือแจ้งอาการสำคัญ​ที่มาตรวจ เช่น “สวัสดีค่ะ คุณหมอ วันนี้มาตรวจด้วยเรื่อง​อาการปวดศีรษะค่ะ ” หลังจากนั้น​แพทย์อาจ​จะให้ท่านเล่ารายละเอียดว่า อาการ​เป็นอย่างไร ท่านจึงค่อยๆ เล่า หรือแพทย์อาจซักถาม​เป็นประโยคปิด ​เพื่อให้​ได้คำตอบ​ที่รวดเร็ว​และตรงประเด็น เช่น มีปวดร้าว​ไปท้ายทอยหรือไม่ มีอาการปวดมากตอนทำอะไร​ ​เป็นต้น ​โดยหากท่าน​ต้องการ​จะบอกกล่าวอะไร​เพิ่มเติมนอกเหนือจาก​ที่แพทย์ถาม อาจ​จะ​ใช้ว่า “ขอโทษนะคะ คุณหมอ ดิฉันยังมีอาการ...​.ด้วยค่ะ ” ​เป็นต้น

3. บางครั้งคนไข้มาตรวจด้วยเรื่อง​อาการเดิม​ที่ไม่ดีขึ้น​ อย่าพยายามระบายเรื่อง​ราว​ที่ผ่านมาให้แพทย์ท่านรับทราบก่อน​ที่​จะ​ ได้รับการซักประวัติ หรือการตรวจ เช่น “สวัสดีค่ะ คุณหมอ ยา​ที่คุณหมอให้​ไปทานทานแล้ว​ไม่ดีขึ้น​เลย​ คลื่นไส้เวียนหัวตลอด รักษามาตั้งหลายครั้งก็เหมือนเดิม” ท่านอาจ​ต้องพิจารณาก่อนว่า แพทย์​ที่ท่านเข้าตรวจนั้น​​คือแพทย์คนเดิม​ที่เคยตรวจท่านหรือไม่ เพราะหากไม่ใช่ การพูดเช่นนี้อาจทำให้แพทย์คนนี้หงุดหงิดขึ้น​มา​ได้ แพทย์อาจคิดว่า ยา​ที่คนไข้​ได้​ไปคราว​ที่แล้ว​ไม่ใช่ยา​ที่ตนเองสั่งเสียหน่อย​ ทำไม​ต้องมารับผิดชอบ​กับสิ่ง​ที่คนไข้มาบอกว่าเรารักษาไม่ดีด้วย ​ทั้งๆ ​ที่ตนเองไม่ใช่คน​ที่เคยรักษาคนไข้มาก่อน ​ต้องมาทนนั่งฟังคำบ่น​ที่ไม่​ได้เกิดจากตนเองกระทำ

หรือ ​แม้ แต่​เป็นแพทย์ท่านเดิม​ที่ท่านเคยตรวจหรือรับยา​กับ​เขามาก่อน การพูดเชิงตำหนิติติงตั้ง แต่เข้ามานั่ง ก็ไม่ใช่สิ่ง​ที่​จะสร้างสัมพันธไมตรี จริงอยู่​​ที่อาการของท่านไม่ดีขึ้น​ แต่อาจเกิดจากหลายๆ ปัจจัย ไม่จำ​เป็นว่า ​จะ​ต้องเกิดจากการ​ที่แพทย์รักษาไม่ดี เช่น ปวดท้องตลอดไม่ทุเลา แต่ท่านยังคงทานสุราประจำ , เบาหวานขึ้น​ยาก็ทานตลอด แต่ควบคุมอาหาร​ได้ไม่ดี , ปวดหัวตลอด ทานยา​ไปแล้ว​ก็ไม่หาย (แต่ยัง​สามารถปรับยาให้แรงขึ้น​​ได้อีก ขอเวลาหน่อย​) ...​.. ​เป็นต้น ดังนั้น​ขอให้ท่าน​ได้เปิดโอกาสให้แพทย์ท่านซักประวัติ ตรวจร่างกาย หาสาเหตุว่า เพราะอะไร​จึงไม่ดีขึ้น​ก่อนครับ

4. ในการพูดคุยกัน อย่าพยายาม​ใช้ประโยค​ที่ส่อถึง​ความกังวลมากจนเกินเหตุ ให้เชื่อมั่นในการวินิจฉัยหรือการรักษาของแพทย์ ยกตัวอย่างเช่น คนไข้มาตรวจด้วยเรื่อง​ก้อน​ที่หน้าอกบริเวณกระดูกหน้าอก แพทย์บอกว่าปกติดี ไม่ใช่ก้อนอันตราย ไม่ใช่ก้อนมะเร็ง ​เป็นแค่กระดูกไหปลาร้า​ส่วนหัวมันนูนขึ้น​จนคลำ​ได้เท่านั้น​เอง คนไข้ก็บอกว่า “อ้าว แล้ว​ทำไมอีกข้างไม่มีก้อนนูนขึ้น​มา” แพทย์บอกมันไม่จำ​เป็น​ต้องนูน​ทั้ง 2 ข้าง “ไม่อันตรายแน่นะคะ ไม่ใช่มะเร็งแน่นะคะ เพราะน้องสาวดิฉัน​เป็นมะเร็งกระดูกอยู่​ แม่ก็​เป็นมะเร็งเต้านม” “ดิฉันขอตรวจเลือดดูว่า ​เป็นมะเร็งกระดูกหรือเปล่า ดิฉันขอเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ดูว่า ข้างในมีมะเร็งรึเปล่า” “หมอไม่เจาะก้อน​ไปตรวจหามะเร็งหรือคะ ” ​เป็นต้น

5. ​เมื่อแพทย์ท่านแนะนำแล้ว​ว่า อะไร​ดีไม่ดี อะไร​ควรทำหรือไม่ควรทำ ท่านอาจรับฟังแล้ว​ลองปฏิบัติตามดูก่อน ไม่ควร​เอาตนเอง​ไปเปรียบ​กับคนไข้รายอื่น เพราะคนไข้ แต่ละรายไม่เหมือนกัน แนวทางการหาสาเหตุแนวทางการรักษาอาจไม่เหมือนกัน เช่น คนไข้กินยาฆ่าตัวตายมา ญาติกังวลว่า ทำไมแพทย์ไม่ยอมล้างท้อง ลูกสาวตนเคยกินยามาก็เห็นแพทย์ล้างท้องให้ แล้ว​ก็ปลอดภัย อาจ เพราะยา​ที่ทานครั้งนี้อาจ​เป็นกลุ่มกรดด่าง​ที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง ​เป็นข้อห้ามในการล้างท้อง ​เป็นต้น

6. ไม่ควร​ใช้ประโยค​ที่มีแนวโน้มเชิงหาเรื่อง​แพทย์ เช่น “แล้ว​ตกลงดิฉัน​เป็นอะไร​กันแน่” อาจ​ต้องทำ​ความเข้าใจ ตาม แต่ละธรรมชาติของโรค โรคบางโรคกว่า​จะรู้ว่า ​เป็นอะไร​​ใช้เวลานาน ​ต้องรอผลชิ้นเนื้อ ผลเพาะเชื้อ ​เป็นอาทิตย์​เป็นเดือน อาจลำบาก​ที่​จะให้แพทย์ฟันธงว่า คนไข้​เป็นอะไร​ เพราะข้อมูลในมือแพทย์อาจยังไม่เพียงพอ​ที่​จะสรุป​ได้ ยัง​ต้องรอทำสิ่งอื่นต่อ​ไปก่อน หาก​ต้องการถาม ควรเลี่ยง​ไป​ใช้ประโยคว่า “ขอโทษนะคะ คุณหมอ เบื้องต้นคุณหมอสันนิษฐานว่า ดิฉันป่วย​เป็นอะไร​คะ ” ​จะดีกว่า

7. ​เมื่อแพทย์ท่านซักประวัติ ท่านอาจ​ต้องให้​ความร่วมมือบ้าง บางครั้ง​แม้ท่าน​จะทราบว่า ประโยคเหล่านี้เคยถามแล้ว​ ก็ตาม เช่น หมอถามคนไข้ว่า “แพ้ยาอะไร​ไหมครับ ” ท่านไม่ควรตอบว่า “ในประวัติก็มีแล้ว​นี่นา” ท่านควร​จะบอกซ้ำตอบอีก การ​ที่แพทย์ถาม​เพื่อดูว่า ประวัติ​ที่ลงไว้​กับ​ที่คนไข้ทราบว่า แพ้อยู่​นั้น​ตรงกันหรือไม่ หรือ​เพื่อดูว่า คนไข้ทราบหรือไม่ว่า ตนเองแพ้ยาชื่อว่า อะไร​ ​ถ้าไม่ทราบ​จะ​ได้แจ้งให้ทราบ การตอบเช่นนั้น​ ไม่สร้างสัมพันธภาพเท่าไรนัก

8. ระหว่างตรวจ​กับแพทย์ ​เป็น​ไป​ได้ควรปิดโทรศัพท์มือถือ เพราะ​จะขัดจังหวะการซักถามประวัติ หรือ บางครั้งขณะทำหัตถการบางอย่าง ​ถ้าท่านไม่อยู่​นิ่งๆ หรือท่าน​กำลังคุยโทรศัพท์ หรือปล่อยให้เสียงโทรศัพท์ดังตลอดเวลา แพทย์​จะเสียสมาธิ หงุดหงิด หรืออาจเกิดอันตรายขึ้น​​ได้ แต่​ถ้าไม่ปิดหากมีผู้โทรเข้าท่านควรขออนุญาตรับแล้ว​บอกว่าท่าน​ จะโทรกลับภายหลัง​กำลังตรวจ​กับแพทย์อยู่​ ไม่ควรคุยธุระ​ไป ให้แพทย์ตรวจ​ไปพลาง หรือคุยธุระจนเสร็จแล้ว​ค่อยให้แพทย์ตรวจหรือซักถามต่อ พึงระลึกเสมอว่า มีคนไข้รอตรวจอีกหลายคน

9. ​ถ้าท่านมีธุระ​ส่วนตัว​กับแพทย์ อย่า​ได้นำมาพูดคุยกันระหว่าง​ที่แพทย์ตรวจอยู่​​ที่แผนก ควรหาเวลาว่างนัดหมาย​เป็นการ​ส่วนตัว เพราะ​จะทำให้คนไข้รายอื่นรอนานขึ้น​ ​และแพทย์อาจ​จะหงุดหงิด ตำหนิ ​ที่ท่านไม่รู้จักกาลเทศะ ​เอาเวลางาน​กับเรื่อง​​ส่วนตัวมาปนกัน

10. ไม่ควร​ใช้ประโยคเชิงบังคับหรือออกคำสั่งแก่แพทย์ เพราะแพทย์บางท่าน​จะไม่ชอบการมีคนมาสั่งให้ทำนู่นนี่ เช่น คนไข้อุบัติเหตุรถล้มไม่สลบตั้ง แต่​เมื่อ 5 วันก่อน วันนี้มีอาการปวดหัว ญาติพามาหาหมอ แล้ว​พูดว่า “หมอ เอ็กซเรย์กะโหลกหน่อย​ ดูซิข้างในหัว​เป็นอะไร​มากรึเปล่า ปวดหัวเรื่อยเลย​” การส่งทำหัตถการใดๆ อยู่​​ที่ดุลยพินิจของแพทย์ ว่ามีข้อบ่งชี้หรือไม่ จำ​เป็นหรือไม่จำ​เป็น ทำแล้ว​​ได้ประโยชน์หรือไม่ เสียค่า​ใช้จ่าย​โดยใช่เหตุหรือไม่ ดีหรือเสียมากกว่ากัน ​เป็นต้น ​ถ้าท่านมี​ความกังวล​และอยากเอ็กซเรย์ ควรเล่าประวัติ​และรอแพทย์ตรวจร่างกายเสร็จก่อน แล้ว​​ใช้ประโยค​ที่ว่า “คุณหมอคะ จำ​เป็น​ต้องเอ็กซเรย์กะโหลกไหมคะ ” หรือ “​ถ้า​จะเอ็กซเรย์กะโหลก​จะมีประโยชน์ไหมคะ ” หรือ “ในคนไข้รายนี้ การเอ็กซเรย์กะโหลก​จะช่วยอะไร​​ได้บ้างไหมคะ ” ​จะนุ่มนวลกว่าครับ

วันนี้นำมา 10 ข้อก่อนครับ ยังมีอีกหลายข้อครับ
นำมาจากประสบการณ์​ทั้งจากตนเอง​และจากการสังเกตแพทย์คนอื่นๆ ครับ

../ แพทย์ก้อมีหัวใจ

โพสเมื่อ : 16/3/2009 16:05
Transfer the post to other applications Transfer


"เคล็ดเสริมดวง" ใครอยาก โชคดีพลาดไม่ได้เด็ดขาด...
มือสมัครเล่น
เป็นสมาชิกเมื่อ:
9/11/2008 22:46
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 30
"ความเชื่อ" มีอยู่ในตัวคนเราทุกคน บ้างก็เชื่อว่าผีมีจริง วิญญาณมีจริง เชื่อเรื่องดวง เรื่องเคล็ด และก็เชื่อเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย
แล้วแต่ตัวบุคคลว่าผูกพันหรือคุ้นเคยกับสิ่งไหนมามากกว่า เอาล่ะ เข้าเรื่องเลยดีกว่า วันนี้เรามีเรื่องดีๆ มาฝากคนที่เชื่อเรื่อง
"เคล็ดเสริมดวง" ใครอยาก โชคดีพลาดไม่ได้เด็ดขาด...
(เป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ)

***กระเป๋าสตางค***

เปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ใบใหม่เสมอในวันขึ้นปีใหม่ ใส่เงินจำนวน 900
หรือ 9,000 ในกระเป๋าไว้สักวัน หนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ เพื่อเอาเคล็ดเอาฤกษ์
เพื่อให้กระเป๋าใบนั้นเป็นกระเป๋าที่ดี เรียกเงินเรียกทอง เข้ากระเป๋าได้มาก
มา ควรนำเงินมาใส่ก ระเป๋าเอาไว้ก่อน มีเก็บมากกว่าจะต้องควักออกไป
และทุกครั้งที่รับเงินสดเข้ามา ควรนำเงินมาใส่กระเป๋าเอาไว้ก่อน
บางคนอาจจะยังคงปล่อยเงินไว้ในซองแล้วก็นำไปฝากธนาคาร
ซึ่งถ้าจะเอาเคล็ดเรียกโชคกันจริงๆ ตามความเชื่อของคนเฒ่าคนแก่
ก็ควรเอาเงินเก็บใส่กระเป๋าสตางค์ไว้ก่อน

***พระสิวลี***

หาโอกาสไปกราบไหว้พระสีวลีที่วัดใดก็ได้ในท้องที่ที่อาศัย
พระสีวลีเป็นเอตทัคคาโชคลาภ ท่านเป็น 1 ใน 80 ศิษย์เอกของพระพุทธเจ้า
เมื่อไปกราบไหว้ขอพรจากพระสีวลี ชีวิตจะมีโชคดีขึ้น
และมีความราบรื่นก้าวหน้า มีเงินมีทองเพิ่มพูนมากขึ้น

***ยักษ์และราหู***

ไม่ควรมีรูปภาพ หรือรูปปั้นยักษ์และราหูประดับตกแต่งในบ้าน
เพราะจะทำให้คนในบ้านทะเลาะเบาะแว้งกัน มีแต่เรื่องร้อนๆ
ขาดโชคขาดลาภ พลังของวิญญาณ อย่านำโปสเตอร์, รูปภาพ
หนังผี, คนบาดเจ็บจากนิตยสารที่มีแต่ความน่ากลัวมาติดผนังบ้าน
หรือรูปคนตาย มาติดประดับไว้ที่ห้อง
(ยกเว้นภาพถ่ายบุคคลในครอบครัวที่เสียชีวิตไปแล้ว)
หลีกเลี่ยงภาพน่ากลัว หรือดูดุร้าย
เพราะล้วนเป็นแหล่งเรียกคลื่นพลังงานที่ไม่เป็นมงคล
จะทำให้โชคลาภหดหาย คนในบ้านจะมีแต่เรื่องร้ายๆ เกิดขึ้น เกิดอุบัติเหตุ
การนำภาพมาติดผนังประดับบ้านควรเลือกภาพที่ดูสวยงาม

***เตียงนอน***

อย่าตั้งเตียงนอนโดยเอาหัวเตียงหันไปชนกับผนังห้องน้ำ
เพราะจะทำให้เสื่อมโชคอับโชค
อย่าตั้งเตียงนอนโดยหันปลายเตียงเล็งตรงกับประตูทางเข้าพอดี
เพราะจะทำให้ฝันร้ายและอับโชค

***สุนัข แมวจรจัด***

แบ่งอาหารและน้ำให้แก่สุนัข หรือแมวจรจัดที่หิวโหยบ้าง ในวันฝนตกก็อนุญาต
ให้สัตว์จรจัด เข้ามาหลบฝนในชายคาบ้าน
การทำบุญทำทานกับสัตว์นั้นให้อานิสงส์ผลบุญแก่ตัว เราได้อย่างมหาศาล

***ห้องครัว***

ดูแลปัดกวาดเช็ดถูและจัดข้าวของเครื่องใช้ในครัวให้สะอา ดอยู่เสมอ
อย่าปล่อยให้ครัว สกปรก เพราะครัวเป็นขุมพลังของบ้าน
บ้านที่ปล่อยให้ครัวสกปรกจะอับโชค เงินทองหามาได้ก็ต้องจ่ายออกไป
เจริญรุ่งเรืองช้านัก

***ผ้าเช็ดหน้า***

อย่าให้ของขวัญคนรัก หรือเพื่อนสนิทเป็นผ้าเช็ดหน้า เพราะถือว่าเป็นลางไม่ดี
ถือเป็นของ ขวัญอับโชค มอบให้กันแล้วจะมีเรื่องต้องพลัดพรากจากกัน
หรือมีเรื่องต้องเมินหมางห่างเหินกันไป

***กระจก***

ขัดถูกระจกในบ้านให้สะอาดใสอยู่เสมอ ถ้าปล่อยให้กระจกขุ่นมัวเป็นประจำ
ดวงชะตาของคนในบ้านจะหม่นหมองทำอะไรไม่ขึ้น

***วันบริสุทธิ์
วันที่ควรงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์กับคู่รัก คือวันโกน วันพระ วันเกิด
และวันเข้าพรรษาตามธรรมเนียมโบราณนิยมปฏิบัติกันเช่นนี้ เพื่อให้เทวดาคุ้มครองรักษาตลอดไป

ยังมีอีกไว้เจอกัน รอบ 2 จ้า

โพสเมื่อ : 16/3/2009 15:37
Transfer the post to other applications Transfer


โบราณอุบาย คืออะไร
มือสมัครเล่น
เป็นสมาชิกเมื่อ:
9/11/2008 22:46
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 30
ในสมัยก่อนหรือแม้แต่ในปัจจุบัน เชื่อว่าหลายคนคงเคยถูก ปู่ ย่า ตา ยาย หรือ พ่อ แม่ สั่งสอนห้ามทำโน่นทำนี่ ด้วยเหตุผลที่อธิบายได้ยาก และบางครั้งดูราวไร้เหตุผล แต่เราลูกๆหลานๆ ก็มักยอมปฏิบัติตาม แม้ในใจอาจะคัดค้านหรือนึกสงสัยอยู่บ้าง แต่ก็น่าแปลกที่ว่าสิ่งที่คนโบราณบอกต่อกันมาเพื่อดูแล ตักเตือน และสั่งสอนลูกๆหลานๆด้วยห่วงใย เหล่านี้ หลายสิ่งหลายอย่างก็ช่วยให้เกิดความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างไม่น่าเชื่อ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น เหตุผลก็คือ สิ่งที่ห้ามเหล่านี้ล้วนเป็น “โบราณอุบาย” อันหมายถึงวิธีอันแยบยลที่มีมาช้านาน ในการตักเตือนหรือขู่ให้กลัว กับสิ่งที่จะเกิดขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุหรืออันตรายกับบุคคล ซึ่งมักขึ้นด้วยคำว่า “ห้าม” หรือ “อย่า” โดยมีเจตนาหรือจุดมุ่งหมายแฝงอยู่ในข้อห้ามนั้นๆ
บรรพบุรุษของเราได้ใช้ภูมิปัญญาแฝงไว้ในโบราณอุบายแต่ละเรื่อง โดยกำหนดอุบายไว้ในข้อห้ามคำสอนสำหรับบุคคลทุกวัยและทุกเพศ สำหรับวัยเด็กมักมีอุบายแฝงไว้มากกว่าวัยอื่น อีกทั้งมีความเกี่ยวข้องกับ เพศหญิงมากกว่าเพศชาย ทั้งนี้เนื่องจากเด็กและเพศหญิงเป็นบุคคลที่ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่มากกว่าวัยและเพศอื่น
ปัจจุบันนี้ โบราณอุบายเป็นเพียงข้อห้ามคำสอนสืบต่อกันมา บางเรื่องก็ยังสามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้ เช่น อุบายเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม การวางตัว การเป็นกุลสตรี แต่บางเรื่องก็ไม่สามารถนำมาใช้ได้ในยุคปัจจุบัน เพราะความเจริญทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ก้าวหน้าไปอย่างมาก ประกอบกับบริบทและปัจจัยต่าง ๆ ได้เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต
อย่างไรก็ดี โบราณอุบายหลายเรื่องก็ได้มีการสืบทอดจนเกิดเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีในภูมิภาคต่างๆ ของไทยอย่างน่าสนใจ ดังนั้น สวช. จึงขอนำตัวอย่างมาถ่ายทอดเพื่อให้เห็นคุณค่าและภูมิปัญญาของบรรพบุรุษของเรา อันจะนำมาซึ่งความเข้าใจในรากฐานความคิด ตลอดจนวิถีชีวิต วัฒนธรรมของคนที่แตกต่างกันแต่สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขต่อไป


“ภูมิปัญญาแฝงในโบราณอุบาย”

บรรพบุรุษของเราใช้ภูมิปัญญาแฝงไว้ในโบราณอุบายแต่ละเรื่อง ด้วยข้ออ้างในหลากหลายลักษณะ เช่น การอ้างผีสางเทวดา สิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติ อันตราย และความไม่เป็นสิริมงคลต่อชีวิต เป็นต้น อีกทั้งยังกำหนดอุบายไว้ในข้อห้ามคำสอนตามความเหมาะสมกับวัยและเพศของบุคคลไว้อย่างลุ่มลึก แนบเนียน และเหมาะสม เช่น วัยเด็กจะอ้างผีเพื่อให้เกิดความกลัว วัยผู้ใหญ่โบราณอุบายจะปรับเปลี่ยนไปเป็นเรื่องคุณธรรม ความกตัญญู ความรับผิดชอบ และมีความเกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพ ส่วนผู้หญิงที่อยู่ในวัยสาวนั้นก็จะมีโบราณอุบายเกี่ยวกับเรื่องเพศ การวางตัวเป็นกุลสตรี เป็นต้น
อ.ประคอง นิมมานเหมินท์ ได้ให้คำจำกัดความ “ภูมิปัญญา” ว่าหมายถึง ความรู้หรือระบบความรู้ ที่มนุษย์ค้นพบหรือคิดค้นขึ้น เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมั่นคงปลอดภัย มีความสะดวกสบาย สุขสงบและบันเทิงใจ โดยภูมิปัญญาจะมีอยู่ในทุกเรื่อง เช่น ภูมิปัญญาในการสร้างที่อยู่อาศัย การทำมาหากิน การผลิตและการถนอมอาหาร การดูแลรักษาสุขภาพอนามัย การสร้างสรรค์งานศิลปะ ตลอดจนภูมิปัญญาในการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความมั่นคงปลอดภัยของครอบครัวและสังคม เป็นต้น
สำหรับโบราณอุบายที่จะนำมาเล่าเป็นตัวอย่างนั้น มาจากงานวิจัย เรื่อง “การศึกษาโบราณอุบายจากคอลัมน์ภูมิปัญญาชาวบ้านในนิตยสารแม่บ้าน” ของ นางพรนิภา บัวพิมพ์ โดยทุนอุดหนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) ซึ่งได้กล่าวถึงโบราณอุบายใน ๕ ลักษณะ ดังนี้ ๑. โบราณอุบายที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันอันตราย ๒. โบราณอุบายที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้มีความสำรวมระวัง ๓. โบราณอุบายที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อความสะอาดและสุขอนามัย ๔. โบราณอุบายที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และ ๕. โบราณอุบายที่มีจุดมุ่งหมายประเภทเบ็ดเตล็ด ทั้งหมดล้วนเป็นข้อห้ามที่บางเรื่องเรายังได้ยินปู่ ย่า ตา ยาย ห้ามกันมาจนถึงปัจจุบัน บางเรื่องก็ไม่เคยได้ยิน หรือคุ้นหูเลย แต่ในทุกเรื่องนั้นล้วนแฝงคำสอนไว้อย่างแนบเนียน

โพสเมื่อ : 5/2/2009 13:12
Transfer the post to other applications Transfer


โบราณอุบาย ภูมิปัญญาชาวบ้าน ตอน “อย่าด่า อย่าตีพ่อตีแม่ ปากจะเท่ารูเข็ม มือจะโตเท่าใบลาน”
มือสมัครเล่น
เป็นสมาชิกเมื่อ:
9/11/2008 22:46
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 30
คนไทยในสมัยก่อนส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม โดยจะมีพ่อซึ่งเป็นผู้นำของครอบครัว จะต้องตื่นแต่เช้ามืด จูงควายไปทุ่ง เพื่อทำไร่ไถนา หาผัก จับปลามาเป็นอาหาร ถ้าลูกยังเล็กแม่ก็จะอยู่บ้านเลี้ยงลูกไปก่อน แต่ถ้าลูกอายุได้สักขวบสองขวบแล้ว ก็จะปล่อยให้อยู่กับปู่ ย่า ตา ยาย แม่ก็จะหาบกระบุง ตะกร้า ปิ่นโต ตามไปช่วยพ่อทำงานด้วย และจะกลับบ้านใกล้ย่ำค่ำ เมื่อกลับถึงบ้านแม่ก็จะเข้าครัวทำกับข้าว หากมีลูกโตพอจะช่วยงานได้แล้วก็จะหุงข้าวไว้รอแม่หลังจากกลับมาจากโรงเรียน ส่วนพ่อก็จะดูแลจัดการควายให้เรียบร้อยด้วยการพาไปอาบน้ำ เอาเข้าคอก สุมไฟไล่ยุง เหลือบ ริ้น ไร หลังจากเสร็จภารกิจแล้วจึงจะไปอาบน้ำ พอดีกับแม่จัดสำรับอาหารเสร็จ ทุกคนก็จะมารับประทานอาหารร่วมกัน
ชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างเรียบง่าย ลูกหลานในสมัยก่อนจึงมักได้รับการอบรมเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิดจาก พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย คำสั่งสอนหนึ่งที่ได้ยินอยู่เสมอจนปัจจุบันก็คือ อย่าด่า อย่าทุบตีพ่อแม่ จะบาปกรรมและเมื่อตายไปจะกลายเป็นเปรต ตัวสูงเท่าต้นตาล ปากเท่ารูเข็ม และ มือโตเท่าใบลาน...
เปรต กล่าวกันว่าเป็นผีจำพวกหนึ่ง มีรูปร่างสูงโย่งเท่าต้นตาล ผมยาวหยิกหยอย คอยาว ผอมโซ กล่าวกันว่าคนที่ชอบด่าพ่อแม่จะเป็นเปรตที่มีปากเท่ารูเข็ม กินอะไรไม่ได้ ใช้แต่ปากดูดน้ำๆ จึงไม่อิ่มและร้องหิวโหยดังวี้ดๆ ตลอดเวลาในตอนกลางคืน ส่วนพวกที่ชอบทุบตีพ่อแม่ ก็จะเป็นเปรตที่มีมือใหญ่โตเท่าใบลาน ยกมือไม่คอยขึ้นเพราะหนักมาก
ต้นลานเป็นไม้ยืนต้น ตระกูลเดียวกับปาล์ม ใบจะเป็นครีบขนาดใหญ่กว้างราว 1.20 เมตร นำมาใช้เป็น
ส่วนประกอบของเครื่องจักสาน เช่น งอบ ปลาตะเพียน พัด เป็นต้น
การนำเรื่องปากเท่ารูเข็ม และ มือโตเท่าใบลาน มาเป็นอุบายในการสั่งสอนให้เคารพและกตัญญูต่อ
ผู้มีพระคุณโดยเฉพาะพ่อแม่ เนื่องจากพ่อแม่เป็นผู้ที่มีบุญคุณใหญ่หลวง ลูกหลานจึงควรมีความเคารพกตัญญู
และไม่ทำร้ายพ่อแม่ คนโบราณจึงออกอุบายว่า ถ้าตีพ่อแม่มือจะโตเท่าใบลาน เพื่อให้คนในสังคมยุคนั้นเกิด
ความกลัว ตระหนักและละเว้นไม่ประพฤติปฏิบัติสิ่งที่ไม่ดีไม่งามไม่เหมาะสม

ในตอนต่อไป จะยกตัวอย่างโบราณอุบายที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันอันตรายต่อร่างกาย ในเรื่อง “ห้ามลับมีดกลางคืน เมียจะมีชู้” โปรดติดตามครับถ้าไม่เบื่อซะก่อน

โพสเมื่อ : 5/2/2009 12:51
Transfer the post to other applications Transfer


โบราณอุบาย ภูมิปัญญาชาวบ้าน ตอน “ห้ามตากผ้าข้ามคืน กระสือจะเช็ดปาก”
มือสมัครเล่น
เป็นสมาชิกเมื่อ:
9/11/2008 22:46
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 30
เด็กๆ ไม่ว่าในยุคไหนสมัยไหน ก็มักจะชอบฟัง นิทาน เรื่องเล่า ด้วยเหตุนี้นิทานหรือเรื่องเล่าต่างๆ จึงมักจะแฝงข้อคิดที่ผู้ใหญ่ต้องการสอนเด็กไว้ในเรื่องด้วยเสมอ ไม่ยกเว้นแม้แต่นิทานที่เกี่ยวกับผีที่หลายๆคนชอบ แม้จะกลัว แต่ก็อยากฟัง สำหรับเรื่องผีที่คนฟังกี่ครั้งก็ไม่เบื่อน่าจะได้แก่เรื่อง ผีกระสือ
กระสือ เป็นผีชนิดหนึ่งที่ถือว่าเข้าสิงในตัวผู้หญิง ชอบกินของโสโครก (ราชบัณฑิต 2542 : 58) กระสือจะออกหากินเวลากลางคืน มีลักษณะเป็นดวงไฟมีแสงสีเขียวสว่างวาบๆ ลอยไปเฉพาะส่วนหัว ผมยาว กับตับไตไส้พุงเป็นพวง เชื่อกันว่า กระสือชอบกินของสด สกปรก เช่น เศษหัวปลา ไส้ปลาตามน้ำครำแถวในครัว อุจจาระ บางครั้งบ้านใครคลอดลูก ผีกระสือก็จะมาคอยกินน้ำเลือด รกเด็ก เผลอๆอาจจะล้วงกินตับไตไส้พุงเด็กอ่อน เด็กก็จะตาย ดังนั้น พวกผู้ใหญ่จึงมักหาหนามไผ่มากองไว้ใต้ถุนบ้านที่มีคนคลอดลูก โดยบอกว่ากระสือจะไม่กล้าเข้า เพราะกลัวไส้ไปเกี่ยวติดหนามไผ่ แล้วจะทำให้ถูกจับหนีไปไหนไม่ได้ มีข้อสังเกตดูว่าถ้าผ้าที่ตากไว้มีรอยเปื้อนสีคล้ำๆ ก็แสดงว่าผีกระสือมาหากินแถวนั้น และเมื่อกินเสร็จแล้วจะเช็ดปากกับผ้าที่คนตากไว้กลางคืน
คนโบราณออกอุบายโดยอาศัยความกลัวผีกระสือของเด็กๆ เพื่อไม่ให้ลืมเก็บผ้าที่ตนตากไว้ เพราะผ้าที่ใช้ในสมัยก่อนส่วนใหญ่จะเป็นผ้าที่ทอมาจากฝ้ายแทบทั้งสิ้น กว่าจะทอและตัดเย็บเสร็จแต่ละผืนก็ให้เวลานาน เนื่องจากไม่ได้ใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนมาช่วยดังเช่นในปัจจุบัน จึงทำให้ชำรุดเสียหายได้ง่าย ดังนั้น การตากผ้าทิ้งไว้ข้ามคืน ก็จะทำให้ผ้าเปียกฝนหรือน้ำค้าง ส่งผลให้ผ้าเก่าเร็ว ชำรุดเปื่อยง่าย นอกจากนี้อาจสูญหายจากการถูกขโมย หรืออาจมีสัตว์มีพิษ เช่น งู ตะขาบ มาแอบหลบอาศัยอยู่ และจะเป็นอันตรายเมื่อนำไปสวมใส่ ที่สำคัญคือยังแสดงถึงความเกียจคร้านของเจ้าของผ้า ไม่รู้จักเก็บรักษาทรัพย์สิน ดงนั้น โบราณอุบายเรื่องนี้จึงเป็นการสอนให้ลูกผู้หญิงรู้จักเป็นแม่บ้านแม่เรือน คอยดูแลรักษาสิ่งของเครื่องใช้ในบ้าน นั่นเอง


ในตอนต่อไป จะเล่าถึงโบราณอุบายที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดความกลัว ตระหนักและละเว้นไม่ประพฤติ
ปฏิบัติในเรื่อง “อย่าด่า อย่าตีพ่อตีแม่ ปากจะเท่ารูเข็ม มือจะโตเท่าใบลาน” โปรดติดตามนะคร๊าบ

โพสเมื่อ : 4/2/2009 12:28
Transfer the post to other applications Transfer


โบราณอุบาย ภูมิปัญญาชาวบ้าน ตอน “ห้ามตัดเล็บกลางคืน วิญญาณบรรพบุรุษจะอยู่ไม่เป็นสุข”
มือสมัครเล่น
เป็นสมาชิกเมื่อ:
9/11/2008 22:46
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 30
การดำรงชีวิตประจำวันของคนในสมัยก่อนจะยังไม่มีค่อยใส่ใจในด้านการดูแล รักษา สุขภาพ
อนามัยของตัวเองอย่างเช่นในปัจจุบัน โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ในสมัยนั้นจะไม่มีของเล่นเหมือนสมัยนี้ ดังนั้น
เด็กๆ จึงมักจะเล่นปั้นดินเหนียว เป็นลูกกระสุน ปั้นวัว ปั้นควาย ปั้นตุ๊กตา หรือวิ่งตีวงล้อที่ทำจากไม้ไผ่
นำมาโค้งเป็นวงกลม รองเท้าก็ไม่ใส่ เล็บมือเล็บเท้าจึงดำมีแต่ขี้ดินขี้โคลนแทรกอยู่ พอกลางคืนก็จะนึกขึ้น
ได้ว่าพรุ่งนี้จะต้องไปโรงเรียน และครูก็จะมาตรวจความสะอาด จึงต้องรีบตัดเล็บ แต่กรรไกรตัดเล็บก็แสนจะ
หายาก บางคนจึงต้องใช้วิธีการใช้ปากกัดเล็บทีละเล็กละน้อยจนสั้น แต่ก็จะดูไม่เรียบสวยเท่ากับใช้มีดตัด
ส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช้มีดเหลาดินสอก็มักจะใช้มีดเจียนหมากของ ย่า ยายตัดเล็บ
ดังนั้น การใช้มีดเจียนหมาก หรือมีดเล็ก ๆ ตัดเล็บของคนในอดีต จะทำให้ตัดเล็บได้ไม่สะดวกและ
ไม่ปลอดภัยเท่ากรรไกรตัดเล็บในปัจจุบัน คนโบราณจึงห้ามตัดเล็บเวลากลางคืน โดยอ้างเป็นอุบายว่า
วิญญาณบรรพบุรุษจะอยู่ไม่เป็นสุข เพราะการตัดเล็บกลางคืนจะทำให้มีดบาดนิ้วได้ เนื่องจากในสมัยก่อน
ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ มีแต่ตะเกียงน้ำมันวับๆแวมๆ ซึ่งให้แสงสว่างไม่เพียงพอ ถ้าตัดเล็บกลางคืนก็จะบังคับมีด
ได้ยาก อีกทั้งไฟที่สว่างแบบวูบวาบทำให้เกิดแสงและเงา อาจจะตัดเอาเนื้อแทนที่จะตัดเล็บก็ได้ จึงห้ามตัด
เล็บกลางคืน
อุบายที่อ้างว่าวิญญาณบรรพบุรุษจะอยู่ไม่เป็นสุขนั้น เนื่องจากคนไทยมีความกตัญญูเคารพรักและผูกพันกับบรรพบุรุษ มีความเชื่อเรื่องวิญญาณ จึงไม่ต้องการให้วิญญาณบรรพบุรุษต้องเป็นทุกข์ เพราะการกระทำของตน ข้อห้ามข้อนี้ตรงกับข้อห้ามของชาวภาคใต้ โดยใช้อุบายว่า “ห้ามตัดเล็บกลางคืนอายุจะสั้น” จุดมุ่งหมายสำคัญ เพื่อป้องกันอันตรายจากการถูกมีดหรือของมีคมที่ใช้เจียนเล็บบาดนิ้ว
สำหรับในตอนต่อไป สำหรับในตอนต่อไป จะเล่าถึงโบราณอุบายที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดความสำรวมระวังในการใช้สิ่งของเครื่องใช้ในครัวเรือน ในเรื่อง “ห้ามตากผ้าข้ามคืน กระสือจะเช็ดปาก ” โปรดติดตามนะคร๊าบ

โพสเมื่อ : 2/2/2009 14:30
Transfer the post to other applications Transfer


วันต้องห้ามตามคติโบราณ
มือสมัครเล่น
เป็นสมาชิกเมื่อ:
9/11/2008 22:46
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 30
วันต้องห้ามตามคติโบราณ

ขึ้นบ้านวันเสาร์,เผาผีวันศุกร์,โกนจุกวันอังคาร...

หลายท่านอาจจะเคยได้ยินได้ฟังมา
บ้างจากผู้ใหญ่บางท่านถึงวันต้องห้ามเหล่านี้ แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถตอบเราได้ว่า
ทำไมถึงต้องห้ามวันเหล่านี้ทำการดังกล่าว
บางครั้งท่านอาจจะตอบว่าเพราะโบราณ
ท่านถือ แต่ทำไมถึงต้องถือเอาวันดังกล่าว ด้วยเหตุผลอันใดหรือ? บางข้ออาจจะมีเหตุและผลที่ยังพอหลงเหลืออยู่ว่าทำไม แต่วันต้องห้ามบางวันก็ไม่ทราบถึงเหตุผล
ดังกล่าว ยังไงก็ตามคติความเชื่อเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่สืบทอดมาแต่โบราณ เชื่อไว้ก็ไม่
เสียหายไม่ใช่หรือ?

ขึ้นบ้านวันเสาร์

เนื่องจากว่าวันเสาร์ตามหลักโหราศาสตร์แล้วถือกันว่าเป็นวันแห่งโทษทุกข์ และดาวเสาร์ยังจัดเป็นดาวแห่งบาปเคราะห์อีกด้วยแต่การขึ้นบ้านใหม่ ต้องการความร่มเย็นความสุขและความมั่นคงถาวร ความเจริญ ดังนั้นคนโบราณจึงห้ามมิให้ประกอบพิธี
เกี่ยวกับการปลูกสร้าง บ้านเรือน เช่น การยกเสาเอก วางศิลาฤกษ์ เปิดป้ายอาคารหรือแม้กระทั่งการย้ายเข้าสู่บ้านใหม่

เผาผีวันศุกร์

ตามคติโบราณท่านห้ามทำการฌาปนกิจศพกันในวันศุกร์ เพราะชื่อของวันศุกร์นั้น ไปคล้องจองกับคำว่า "สุข" ดังนั้นเมื่อเอาความสุขไปให้คนตาย เป็นการกระทำอันไม่เป็นมงคล ความทุกข์ทั้งหลายก็จะต้องตกมาถึงคนเป็นหรือผู้ที่ทำการดังกล่าว ส่วนอีก
เหตุผลหนึ่งก็คือ ดาวศุกร์เป็นดาวรื่นเริง บันเทิงใจ ดาวสังคม และความรัก ซึ่งตรงกันข้ามกับความทุกข์ ความหม่นหมอง ดังนั้นคนโบราณจึงได้ห้ามการกระทำดังกล่าว
เอาไว้และมีคำพูดที่ให้ท่องกันติดปากว่า "เผาผีวันศุกร์ ให้ทุกข์คนยัง"


โกนจุกวันอังคาร

วันอังคารนั้นถือว่าเป็นวันแรงวันหนึ่ง เพราะดาวอังคารคือดาวแห่งเทพเจ้าของสงคราม
คนโบราณท่านว่าวันเจ้าแห่งสงครามนี้เหมาะแก่การออกรบหรืองานที่ต้องการความ
แข็งแกร่ง ความเด็ดขาดมากกว่า ไม่ควรใช้วันดังกล่าวเพื่อกระทำการที่เป็นมงคล หรือต้องการความร่มเย็น ความผาสุก และลาภผลต่างๆ เช่นการโกนจุก การขึ้นบ้านใหม่ พิธีมงคลสมรส เป็นต้น เพราะถ้าหากนำวันนี้ไปใช้แล้วก็อาจจะมีการทะเลาะวิวาทกัน
หรือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นก็ได้ เพราะดาวอังคารยังจัดเป็นดาวแห่งอุบัติเหตุอีกด้วย


แต่งงานวันพุธ

ในทางโหราศาสตร์เราจะรู้ได้ว่า ดาวพุธเป็นดาวแห่งความแปรปรวน มักมีการโคจรที่
ผิดปรกติอยู่เสมอ เดี๋ยวดีเดี๋ยวช้า เดี๋ยวเดินเร็ว แต่สักพักกลับเดินถอยหลัง ด้วยสาเหตุดังกล่าวคนโบราณจึงถือว่าดาวพุธเป็นดาวที่หาความแน่นอนและความมั่งคงไม่ได้ จึงไม่ควรเป็นอย่างยิ่งที่จะใช้วันนี้เป็นวันประกอบพิธีมงคลสมรส เพราะอาจจะทำให้คู่บ่าว สาวมีจิตใจที่โลเล ไม่มั่นคงกับคู่ครองของตนเอง ซึ่งจะนำพาไปสู่การนอกใจและหย่าร้างกันในที่สุด


พุธห้ามตัด, พฤหัสห้ามถอน

วันพุธห้ามตัดผม และตัดไม้ เพราะวันพุธเป็นวันแห่งการเจริญเติบโตและวิวัฒนาการ
ถือว่าถ้าตัดผมวันพุธจะทำให้ปัญญาทราม ส่วนวันพฤหัสนั้นเป็นวันครูเป็นวันที่นิยม
เรียนวิชา ทำให้มีความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรือง ดังนั้นไม่ควรถอน หรือโค่นทำลายสิ่งใดๆ
ก็ตาม และในวันพฤหัสนี้ทางโบราณยังห้ามเรื่องการแต่งงานอีกด้วย เพราะวันนี้คือวัน ครู ดังนั้นไม่ควรกระทำการดังกล่าวในวันนี้เพราะถือว่าเป็นการไม่เคารพนับถือครูบา
อาจารย์

สงฆ์ 14, นารี 11

ความหมายคือ ท่านห้ามมิให้ทำการใดๆ ให้แก่พระสงฆ์ ในวันขึ้น 14 ค่ำ และแรม 14 ค่ำทั้งสิ้น เช่น การบวชนาค การอุปสมบท และการฉลองพระเป็นต้น เพราะถือกันว่าวัน นั้นเป็นวันโกน พระสงฆ์ทุกรูปจะต้องปลงผมในวันนั้น ถือเป็นการตัดราศีของพระท่านจึงไม่ควรให้ท่านทำการมงคลใดๆ ส่วนนารี 11 โบราณท่านห้ามมิให้ทำการใดๆ ก็
ตามที่เกี่ยวข้องกับสตรีเพศในวันขึ้น 11 ค่ำและวันแรม 11 ค่ำ ไม่ว่าจะเป็นการเปิด
สมาคมสตรี เปิดโรงเรียนสตรี หรือเปิดหอพักสตรีก็ตาม
ความเชื่อต่างๆ เหล่านี้ เป็นเพียงความเชื่อโบราณซึ่งท่านถือเป็นคติสืบต่อกันมา จริงๆ แล้วความเชื่อเกี่ยวกับวันต้องห้ามของโบราณนั้นยังมีอยู่อีก แต่เป็นความเชื่อที่เรา
มักจะไม่เคย หรือเคยได้ยินมาบ้าง ไม่บ่อยเท่าวันต้องห้ามดังกล่าวเหล่านี้ เราซึ่งอยู่ในยุคปัจจุบัน ยังคงไม่สามารถหาเหตุผลได้ถึงคติความเชื่อเหล่านี้ว่าทำไม คนโบราณถึง
ต้องกำหนดกะเกณฑ์วันทำการดังกล่าวว่าวันนี้ทำได้หรือไม่ได้ โดยใช้เหตุผลของท่านอย่างไรก็ตามคนไทยกับความเชื่อในหลายๆ เรื่องก็ยังคงแยกกันไม่ขาดแม้แต่ในยุค
ปัจจุบันก็ตาม



ที่มาจาก http://www.pooyingnaka.com

โพสเมื่อ : 22/1/2009 8:59
Transfer the post to other applications Transfer


Re: *_* eee701 ลอง XPsp3 แบบใช้nLite ได้ 700m โกสมาแจกครับพี่น้อง
มือสมัครเล่น
เป็นสมาชิกเมื่อ:
9/11/2008 22:46
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 30
คือผมโหลดมาแล้วและก็เจอปัญหาครับ คือเอามือถือมาต่อเป็นโมเด็มครับ ลง Pcsuit ของ(Nokia) โดยใช้สาย USB data link ปรากฎว่ามันขึ้น new hardware found มันถามหา USB MODEM แล้วแจ้งว่าไม่สามารถใช้ HARDWARE นี้ได้
แต่ผมลองเอาไปลงที่เครื่องที่ ลง WinXP ตัวเต็มครับมันจะเห็น USB MODEM เองทันทีครับ โดยมันจะขึนมาใน Device manager เป็นอุปกรณ์ Modem และแจ้ง Com Port ของโมเด็มมาให้อัตโนมัติเลย ผมลองเอาSoftware มาดึง Drivers จากเครื่อง PC ตัวนี้และพยายามจะติดตั้งลงใน EEE 701 ปรากฎว่าทำยังงัยมันก็ไม่ยอมให้อุปกรณ์นี้ทำงานเลย มันก็จะขึ้น NEW Hardware ตลอด หรือเป้นเพราะว่า WinXP ตัวนี้ถูกตัด Service บางตัวออกไปเลยทำให้ การทำงานในระบบนี้ไม่สามารถรองรับ Device นี้ ผมจะแก้ยังงัยดีครับ ไม่อยากลงตัวเต้มเพราะมันกินเนื้อที่เยอะมากๆ รบกวนช่วยบอกวิธีแก้ไขให้ด้วยนะครับ ผู้รู้ กูรู ทั้งหลาย ได้โปรดชี้แนะด้วยครับ

โพสเมื่อ : 12/1/2009 21:24
Transfer the post to other applications Transfer


Re: *_* eee701 ลอง XPsp3 แบบใช้nLite ได้ 700m โกสมาแจกครับพี่น้อง
มือสมัครเล่น
เป็นสมาชิกเมื่อ:
9/11/2008 22:46
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 30
อยากเพิ่มตัว PHONE AND MODEM ใน Control panal ทำงัยดีครับ

ต้องไป ADD ตรงไหนครับ

ขอบคุณ

โพสเมื่อ : 12/1/2009 15:10
Transfer the post to other applications Transfer


Re: EEE PC 901 ช่วยด้วยครับ คีย์บอรด์พิมพ์ไม่ได้ เลย
มือสมัครเล่น
เป็นสมาชิกเมื่อ:
9/11/2008 22:46
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 30
ลืมบอกไปครับบางที Keyboard อาจจะมีบางปุ่มที่ มันกดจมค้างอยู่นะครับลองสังเกตุดูก่อนครับ เพราะถ้า Keyboard มีปุ่นใดปุ่มหนึ่งกดค้าง ทั้งคีย์ก็จะพิมพ์ไม่ได้ครับ

โพสเมื่อ : 29/12/2008 9:43
Transfer the post to other applications Transfer


Re: EEE PC 901 ช่วยด้วยครับ คีย์บอรด์พิมพ์ไม่ได้ เลย
มือสมัครเล่น
เป็นสมาชิกเมื่อ:
9/11/2008 22:46
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 30
ลองเอาคีย์บอร์ด USB มาต่อลองดูครับ ว่าใช้งานได้หรือปล่าว

ถ้ามีทักษะในการถอดแผงคีย์บอร์ดจองเครื่องแล้วมองดู Sockket ที่ต่อ แผงคีย์บอร์ด ถอดออกแล้วใส่ใหม่อาจจะใช้ได้ครับ

ถ้ายังใช้ไม่ได้อีกก็น่าจะเป็นที่ Chipset controller เกี่ยวกับการับค่ะ Input/output มีปัญหาครับ

ขอให้สำเร็จนะครับ

โพสเมื่อ : 29/12/2008 9:40
Transfer the post to other applications Transfer


การ์ดอวยพรสำหรับบุคคลต่างๆ
มือสมัครเล่น
เป็นสมาชิกเมื่อ:
9/11/2008 22:46
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 30
อันนี้ให้นาย

แนบ ไฟล์:



jpg  ให้นาย.jpg (0.00 KB)


jpg  ให้เมีย.jpg (0.00 KB)


jpg  ให้กิ๊ก.jpg (0.00 KB)


jpg  ให้เพื่อน.jpg (0.00 KB)


โพสเมื่อ : 22/12/2008 15:38
Transfer the post to other applications Transfer


Re: Aspire One กะ Bluetooth GPS แบบทำเองในราคา ไม่ถึงพัน
มือสมัครเล่น
เป็นสมาชิกเมื่อ:
9/11/2008 22:46
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 30
เมื่อวานนี้ไปเดินหาที่บ้านหม้อพลาซ่าครับ ไปเดินหาร้ายโน้นร้า้นนี้ ก็ไม่มีพอดี พิมพ์รูปตัวอย่างไปให้เขาดูด้วยนะครับ บางร้านคนขายบอกกลับมาว่า ใช่ชุดรับเซ็นเซอร์หรือปล่าว....อึ๋ย แล้วก็ไปถามร้านที่อยุ่แถวๆข้างๆบันใดก็ถามเขาว่า GPS Module มีมั๊ยครับ คนขายผู้หญิงบอกว่าไม่มี เซ็งห่านเลยวุ้ย..... ก็เลยถามคนแถวๆนั้นว่าร้านใต้บันไดอยุ่ตรงไหนกันนะ ปรากฎว่าร้านที่ผมเข้าไปถามก็ชี้ทางมาที่ร้านข้างๆบันไดที่ผมเข้าไปถามเมื่อกี๊นั่นแหละ
สุดท้ายก็เลยเดินย้อนกลับมาถามใหม่ แล้วก็เอารูปที่ปริ้นไปให้ดู ขายผู้หญิงคนเดิมที่นี้ถามผมว่าจะใช้กี่ตัว เอ๊า...แล้วกันเมื่อกี๊ยังบอกว่าไม่มีอยู่เลยอ่ะ
แล้วเขาก็คุ้ยๆๆๆๆๆ ขอย้ำนะครับ คุ้ยๆๆๆที่ในลิ้นชักที่มีของรกไปหมด (คิดว่าเป็นกะบะที่ทิ้งของ) ล้วงไปมา แกก็ควักมาให้ผมตัวหนึ่ง หน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบเลยกับในรูป แต่เบอร์คนละเบอร์กันน่าจะเป็น เเลขล๊อตผลิตมั๊งครับ คิดเอาเอง แต่มันใส่ถุงที่มีปากกาเขียนว่า **เสีย** และมีรอยบัดกรีแล้ว ก็คิดว่าน่าจะเสียจริงๆ แต่แกก็ไม่ลดความพยายาม คุ้ยๆๆๆๆในลิ้นชักต่อ ป๊าดเจออีกตัวนึงก็เลยแกะถุงออกดูไม่มีรอยบัดกรี ก็เลยคิดว่าน่าจะยังไม่ได้เคยใช้งาน ผมก็เลยถามว่าแล้วตัวนี้มันจะเสียมั๊ยอ่ะ แล้วจะรับประกันยังงัยดี คนขายผู้หญิงเลยบอกว่า ไม่แน่ใจเหมือนกัน เอางี๊อย่าเอาไปเลยก็แล้วกัน สิ้นเดือนของจะเข้ามาใหม่ค่อยมาดูก็แล้วกัน ผมก็เลยกลับมารอสิ้นเดือนคร๊าบ.......แล้วจะลองไปดูมาใหม่

((((***ลืมบอกไปคนขายหยิบออกมาให้พร้อมแจ้งราคา ตัวละ 500 บาทครีาบ***)))

*** ขอถามคำถามนิดหน่อยนะครับ ผมสังเกตุเห็นว่าข้างใต้ของเจ้าตัว GPS Module มันมีขั้วต่อเสาอากาศ ผมเรียกถูกมั๊ยครับ แล้วถ้าเราไม่ได้ต่อสายอากาศ มันจะใช้ส่วนที่เป็นผิวด้านบนเป็นตัวรับสัญาณใช่หรือปล่าวครับ ขอถามแค่นี่ก่อนนะครับ ไว้ลองลงมือทำบ้างก็จะมาขอข้อมูลใหม่ครับ

โพสเมื่อ : 17/12/2008 13:03
Transfer the post to other applications Transfer


Re: นายเจ๋งมาก AA1 a110 ทำ multi touch ได้ด้วย
มือสมัครเล่น
เป็นสมาชิกเมื่อ:
9/11/2008 22:46
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 30
ผมลงแล้วมัน ติดตั้งไม่ได้เลยครับ หรือว่าเป็นเพราะวินโดว์ ตัวตัดหรือปล่าวครับ

เลยอดใช้ 2 นิ้วเลยอ่ะ น้องวันนิ้วเดียว

โพสเมื่อ : 17/12/2008 12:13
Transfer the post to other applications Transfer


Re: จุ๊ๆ น้องวรรณของเราก็มี Multi-touchpad เหมือนกันนะครับ ^_^
มือสมัครเล่น
เป็นสมาชิกเมื่อ:
9/11/2008 22:46
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 30
ผมลงแล้วมัน ติดตั้งไม่ได้เลยครับ หรือว่าเป็นเพราะวินโดว์ ตัวตัดหรือปล่าวครับ

เลยอดใช้ 2 นิ้วเลยอ่ะ น้องวันนิ้วเดียว

โพสเมื่อ : 17/12/2008 12:10
Transfer the post to other applications Transfer


Re: eset smart security มานขึ้นตาแดงอะ
มือสมัครเล่น
เป็นสมาชิกเมื่อ:
9/11/2008 22:46
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 30
เอาไปอีกชุด ถ้าวันหลัง UPDATE ไม่ได้ มาเรียกนะ จะบอกให้ใหม่

UserName: EAV-08440274
PassWord: 6bmn4nxhu7
Version: EAV, 2.*

UserName: EAV-07949599
PassWord: bxdt5fwnv8
Version: ESS, EAV, 2.*

UserName: EAV-08121160
PassWord: 5mdr67v5fr
Version: ESS, EAV, 2.*

UserName: EAV-08795774
PassWord: 752skp5xu5
Version: ESS, EAV, 2.*

UserName: EAV-08802780
PassWord: bnkf2rbua3
Version: ESS, EAV, 2.*

UserName: EAV-08816646
PassWord: adje5s3kuj
Version: ESS, EAV, 2.*

UserName: EAV-08472905
PassWord: 43rhek6ehx
Version: EAV, 2.*

UserName: EAV-07558255
PassWord: tbndwbaf4h
Version: ESS, EAV, 2.*

UserName: EAV-08113689
PassWord: k6ncb8kc2b
Version: ESS, EAV, 2.*

UserName: EAV-08880707
PassWord: m5wjw4jah4
Version: ESS, EAV, 2.*

โพสเมื่อ : 16/12/2008 15:19
Transfer the post to other applications Transfer


Re: eset smart security มานขึ้นตาแดงอะ
มือสมัครเล่น
เป็นสมาชิกเมื่อ:
9/11/2008 22:46
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 30
เลือกเอาไปใส่ตามสบายเลยจ้า กดUPDATE โลด ตาเขียวปี๋เลย

NOD32
Version: ESS, EAV, 2.*

UserName: EAV-08892842
PassWord: pmpb64avnx


UserName: EAV-08332479
PassWord: mhba7th72f

UserName: EAV-09097216
PassWord: 32kpd44x4x

โพสเมื่อ : 16/12/2008 15:16
Transfer the post to other applications Transfer