ขอเชิญร่วมทำบุญถวายไฟฟ้าเข้าวัดม่อนป่าสัก (ร้าง)

วัดม่อนป่าสัก (ร้าง) เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า ๕๐๐ ปี ถูกปล่อยให้รกร้าง เหลือแต่ซากปรักหักพังของพระธาตุเจดีย์และพระอุโบสถเก่า พระธาตุเจดีย์ก็ถูกขุดอยู่เป็นประจำ ตอนนี้ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่โดย ท่านพระมหาคุณาสาฬห์ สุคุณโสภี และมีพระเณรอยู่จำพรรษา ๖ รูป ทางวัดได้ขอความเมตตาจาก อบต.เรื่องไฟฟ้าแล้ว แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือใด ๆ ทั้งสิ้น เป็นเวลาหลายปี พระเณรต้องใช้แสงไฟในการดูหนังสือ ท่องมนต์บทสวดต่าง ๆ ส่องทางเดินเพื่อจะได้เห็นงูเงี้ยวเขี้ยวขอ และ ต้องใช้พัดลมยิ่งอากาศร้อนแบบนี้ ทางวัดจึงรอการช่วยเหลือจาก อบต.ไม่ไหว จึงจำเป็นต้องเช่าหม้อไฟ ต่อสายไฟเข้าวัด ด้วยระยะทาง ๒๐๐ - ๓๐๐ เมตร หมดงบประมาณไปหลายบาท แต่ที่สำคัญที่สุดคือว่า การเช่าหม้อไฟ เขาคิดมิเตอร์ละ ๖ บาท และยิ่งใช้สายไฟมาไกล แยกเป็นไฟส่องทาง ไฟในกุฏิ พัดลม อื่น ๆ แล้ว ค่าไฟฟ้าก็สูงมาก ตกเดือนละ ๒,๐๐๐ - ๓,๐๐๐ บาท เป็นอย่างต่ำ
ทางวัดจึงจำเป็นต้องขอความเมตตาจากท่านผู้ใจบุญได้ร่วมกันถวายเสาไฟฟ้า เพื่อถวายแสงสว่างให้กับพระเณรและศิษย์วัด หากท่านใดมีความประสงค์จะร่วมถวายเสาไฟฟ้าติดต่อได้ที่ ท่านพระมหาคุณาสาฬห์ สุคุณโสภี เจ้าสำนัก ได้โดยตรง ที่

สันพระเจ้าวัดม่อนป่าสัก (ร้าง) ๑๔๙ บ้านร้อง หมู่ ๖ ต.ดงเจน อ.ภูกามยาว จ.พะเยา หรือโทรศัพท์ 086-9146548

http://www.onab.go.th/index.php?optio ... 06-13-17-55-08&Itemid=245

ขอเชิญร่วมทำบุญถวายไฟฟ้าเข้าวัดม่อนป่าสัก (ร้าง)

วัดม่อนป่าสัก (ร้าง) เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า ๕๐๐ ปี ถูกปล่อยให้รกร้าง เหลือแต่ซากปรักหักพังของพระธาตุเจดีย์และพระอุโบสถเก่า พระธาตุเจดีย์ก็ถูกขุดอยู่เป็นประจำ ตอนนี้ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่โดย ท่านพระมหาคุณาสาฬห์ สุคุณโสภี และมีพระเณรอยู่จำพรรษา ๖ รูป ทางวัดได้ขอความเมตตาจาก อบต.เรื่องไฟฟ้าแล้ว แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือใด ๆ ทั้งสิ้น เป็นเวลาหลายปี พระเณรต้องใช้แสงไฟในการดูหนังสือ ท่องมนต์บทสวดต่าง ๆ ส่องทางเดินเพื่อจะได้เห็นงูเงี้ยวเขี้ยวขอ และ ต้องใช้พัดลมยิ่งอากาศร้อนแบบนี้ ทางวัดจึงรอการช่วยเหลือจาก อบต.ไม่ไหว จึงจำเป็นต้องเช่าหม้อไฟ ต่อสายไฟเข้าวัด ด้วยระยะทาง ๒๐๐ - ๓๐๐ เมตร หมดงบประมาณไปหลายบาท แต่ที่สำคัญที่สุดคือว่า การเช่าหม้อไฟ เขาคิดมิเตอร์ละ ๖ บาท และยิ่งใช้สายไฟมาไกล แยกเป็นไฟส่องทาง ไฟในกุฏิ พัดลม อื่น ๆ แล้ว ค่าไฟฟ้าก็สูงมาก ตกเดือนละ ๒,๐๐๐ - ๓,๐๐๐ บาท เป็นอย่างต่ำ

ทางวัดจึงจำเป็นต้องขอความเมตตาจากท่านผู้ใจบุญได้ร่วมกันถวายเสาไฟฟ้า เพื่อถวายแสงสว่างให้กับพระเณรและศิษย์วัด หากท่านใดมีความประสงค์จะร่วมถวายเสาไฟฟ้าติดต่อได้ที่ ท่านพระมหาคุณาสาฬห์ สุคุณโสภี เจ้าสำนัก ได้โดยตรง ที่

สันพระเจ้าวัดม่อนป่าสัก (ร้าง) ๑๔๙ บ้านร้อง หมู่ ๖ ต.ดงเจน อ.ภูกามยาว จ.พะเยา หรือโทรศัพท์ 086-9146548

อความเมตตาจากท่านผู้ใจบุญด้วย

วัดร้างแห่ง นี้มีประวัติศาสตร์ยาว นาน ถูกปล่อยให้รกร้างหลายร้อยปี มีพระธาตุอยู่ในวัด ๓ องค์ แต่ถูกขุดทำลายไป ๑ องค์ เหลือ ๒ องค์แต่ก็ถูกขุดหาสมบัติและพระกรุอยู่เสมอ ขณะ ได้มีพระมหาคุณาสาฬห์ สุคุณโสภีและสามเณรอีก ๔ รูปจำพรรษาอยู่ กุฏิที่อยู่ก็เป็นเพียงกุฏิเล็ก ๆ ขนาด ๓ เมตร คูณ ๓ เมตร ไม่มีศาลาปฏิบัติศาสนกิจ ทำวัตรไหว้พระสวดมนต์ เวลาบิณฑบาตกลับมาก็ฉันข้าวกันตรงใต้ต้นไม้สัก หน้าแล้งไม้สักใบล่วงก็ลำบาก หน้าฝนก็ไม่มีที่ฉันในกุฏิมันก็เล็ก บางทีน้ำฝนยังสาดเข้าถึงในกุฏิ ส่วนสามเณรส่วนมากเป็นผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา เรียน กศน.และช่วยก่อสร้างหิ้วปูน กวาดใบไม้ ทำงานทุกวัน วัดร้างเดิมมีที่ดินวัด ๑๖ ไร่เศษ เริ่มบูรณะครั้งแรกมี ๑ ไร่เศษ ปัจจุบันเวนคืนได้ ๕ ไร่เท่านั้นและออกโฉนดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และ่จะทำการก่อสร้างและยกฐานะวัดร้าง เป็นวัดที่ถูกต้องตามกฏหมาย บัดนี้มีแต่กุฏิ และห้องน้ำเท่านั้น ขาดศาลาปฏิบัติธรรมเอนกประสงค์ ซึ่งทุกวันนี้ก็ได้มีนักเรียนมาอบรมธรรมะอยู่เป็นประจำ แต่มาเช้าเย็นกลับ พักตามร่มไม้ พระเณรก็ลำบากมาก ถนนไม่เข้าถึง ไฟฟ้ายังต้องเช่าเข้าไป ชาวบ้านเขาใช้กันมิเตอร์ละ ๕๐ สตางค์ แต่ทางวัดร้างให้ มิเตอร์ละ ๖ - ๗ บาท น้ำประปายังใช้ของสวนชาวบ้าน เวลาจ่ายก็ต้องจ่ายให้ชาวบ้านด้วย ลำบากมาก และวัดร้างแห่งนี้มีวัตถุโบราณอยู่มาก มีเครื่องสังคโลกมากมายแต่ถูกทำลายเหลือแต่เศษ

ที่ตั้งวัดอยู่ที่
สัน พระเจ้า (พระพุทธเจ้า) วัดม่อนป่าสัก (ร้าง) ๑๔๙ บ้านร้อง หมู่ ๖ ต.ดงเจน อ.ภูกามยาว จ.พะเยา ๕๖๐๐๐

ถ้าท่านใดเมตตา ติดต่อมาที่ พระมหาคุณาสาฬห์ สุคุณโสภี โทร.086-914-6548

โครงการพัฒนาวัดสันป่าสัก (ร้าง) วัดมีชื่อในโฉนดกับชื่อจริงแตกต่างกัน
209-2-48951-8 ธนาคารกสิกรไทย สาขาพะเยา

หมายเหตุ. ถ้าชื่อบัญชีของวัดใดใช้ชื่อเจ้าอาวาส ให้ญาติโยมระมัดระวังด้วยว่าจะไม่ได้นำไปสร้างจริง

ชื่อบัญชีต้อง เป็นของวัด หรือของโครงการเช่นนี้ ทั้งยังสามารถมาตรวจสอบได้จริงที่วัดได้ด้วย



อาตมภาพพระมหา คุณาสาฬห์ ดีใจอย่างยิ่งที่ยังมีคนช่วยแบ่งเบาภาระ จดหมายของรัฐสภาที่จะส่งเสริมวัดร้างแห่งนี้เป็นวัดสู่ความ รุ่งเรืองเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา มหาราชาได้ส่งมาถึงวัดแล้ว วันนี้มีพระ ๒ พรรษา โทรมาบอกว่าจะมาอยู่ด้วย มาจากต่างจังหวัด ขอตั้งหลักก่อนที่จะไปเรียนพระบาลีที่อื่น แต่ไม่ทราบว่าจะไปเมื่อไหร่ คิดว่า ขออยู่ ๑ พรรษา

อีกองค์เป็นเจ้าอาวาสวัดที่มหาสารคาม อาตมภาพเคยไปช่วยบวชภาคฤดูร้อนที่นั่นทุกปี ปีนี้ท่านจะมาอยู่กับอาตมภาพ เพราะว่า ท่านจะเอาที่ดินวัดของตนเองที่เป็นสุสานเก่า ๓๐๐ กว่าไร่ สร้างเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ แต่กำนันไม่ยอม ท่านก็เลยต้องออกมาอยู่ที่วัดร้างนี้ก่อนคิดว่าน่าจะหลายเดือน เพื่อให้กำนันได้ยินยอม เพราะท่านจัดอบรม พัฒนาวัดมาโดยตลอด

ทั้งยัง มีคนเอาเณรมาฝาก ๓ รูป ไปเรียนมัธยมที่พระเณรเขาเรียนแล้วเกเร จึงจะเอามาฝากท่านมหาสั่งสอน อาตมภาพ ปวดหัวมาก ๆ ทีวัดที่เขามีพร้อมทำไมไม่ไปอยู่มาอยู่ทำไมที่วัดร้าง

ไฟก็เช่าเขา แพง น้ำก็ใช้สวนคนอื่น อาหารบิณฑบาตก็ไม่พอฉัน ต้องให้โยมแม่ทำมาเพิ่มทุกวัน โยมแม่ก็เพิ่งผ่าตัดกระดูกทับเส้น มา ๕ เดือน น้ำดื่มก็ต้องซื้อฉัน ถังละ ๑๐ บาท เพราะมีคนงานมาทำงานก่อสร้างห้องน้ำโดยไม่ได้รับเหมา ก็วันละ ๒๐๐ - ๒๓๐ บาท โดยที่ทางวัดร้างได้เลี้ยงข้าวปลาอาหาร เพราะเป็นสินน้ำใจ หาช่างก่อสร้างยาก เพราะปกติเขาจะรับเหมางาน สามเณรต้องเรียนหนังสือที่วัดอื่น (กศน) ก็ต้องหารถไปรับไปส่ง สามเณรก่อสร้างสบงอังสะเปื้อนปูนก็ต้องหาซื้อให้ รองเท้าขาดตลอดเพราะทำงานกับหินดินทราย บุกป่าฝ่าดงเสมอ ก็ต้องหาซื้อให้คู่หนึ่งตั้ง ๗๕ บาท สามเณรหิ้วปูนทุกวันต้องมีสินน้ำใจถวายเป็นค่าเล่าเรียนในอนาคต วันละ๑๐๐ บาท ถ้าทำงาน ถ้าไม่ทำก็ไม่ถวาย
สามเณรที่นี่ทำได้ทุกอย่างที่ช่างสั่ง สั่งให้ผสมปูนก่อ ก็ทำได้ ให้ผสมปูนฉาบก็ทำได้ บางรูปดำปิ๊ดปี๋ เพราะถูกแดด บอกให้ไปอยู่บ้านตัวเองก็ไม่ไป จะอยู่ช่วยสร้างวัด เวลาอาตมภาพไปในเมืองก็ต้องซื้อขนม นมเนย น้ำหวาน มาให้อยู่เสมอ
กองทุน คณะสงฆ์ตำบล อำเภอก็ต้องจ่าย ขนาดยังไม่ได้่เป็นวัดถูกต้องตามกฏหมาย
บาง ทีอาตมภาพไปเป็นวิทยากรค่ายอบรมนักเรียนต้องนอนที่วัดอื่นก็ปล่อยให้สามเณร จำวัดเพียงลำพัง แต่ตอนนี้มีพระมาอยู่เพิ่ม อาตมภาพก็ไม่ห่วง ไปทำงานหาปัจจัยมาจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่าทุกอย่าง ได้อย่างสบายใจขึ้น

ภาระ มากมายขนาดนี้ ไม่เคยได้ระบายให้ใครทราบ แต่วันนี้ดีใจที่ท่านผู้ใจบุญได้โปรดเมตตาช่วยเหลือ ทราบซึ้งใจยิ่งนัก

หาก บุญใดกุศลใดที่อาตมภาพ ได้บำเพ็ญมาไม่ว่าจะเป็นการอบรมคุณธรรมแก่เยาวชน การบูรณะวัดร้าง การสอนพระปริยัติธรรมแผนกธรรมบาลี ทั้งที่ไม่ได้กล่าวอีก รวมทั้งบุญกุศลที่ท่านทั้งหลายได้สั่งสมมาจงเป็นตบะเตชะพลวปัจจัยให้ท่าน ทั้งหลายจงงอกงามในพระธรรมของพระพุทธเจ้า จุ่งเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย ๔ ประการคือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัึติ บริวารสมบัติ สวรรค์สมบัติ และนิพพานสมบัติ มาดแม้นประสงค์สิ่งหนึ่งประการใดที่เป็นไปโดยชอบประกอบด้วยธรรมแล้วไซร้ ขอสิ่งหนึ่งประการนั้นจงพลันสำเร็จ จงพลันสำเร็จ ถ้วนทั่วกันทุกท่านทุกคนเทอญ.