สวัสดีค่ะ
สงสัยวันนี้จะไม่ค่อยมีใครอยากลุกจากที่นอนใช่มั้ยล่ะ อย่ามัวนอนคุดคู้อยู่เลย มาเพลิดเพลินกับบทเรียนภาษาญี่ปุ่นกันเถอะ
อะ...วันนี้ เราจะเรียนคำว่าอะไรกันดีน้อ--- วันอาทิตย์ทั้งที ป้าเอมเลยรู้สึกอยากจะสอนคำสบายๆหน่อยน่ะ เริ่มกันเลย...
จำลองสถานการณ์...
สองนางแบบ โยโย่ และ เอ่เอ๊ กำลังเม้าท์กันอย่างสนุกปาก
โยโย่ : เนี่ยนะ เอ่เอ๊ หนังสือพิมพ์เค้าใส่ร้ายพวกเราล่ะว่า ไปขโมยหมูปิ้งข้าวเหนียวกินแถวอาร์ซีเอ
เอ่เอ๊ : "อุ๊-โซ่--"(ทอดเสียงยาวเล็กน้อย พร้อมเอามือไหนก็ได้ป้องปากน่ารัก) เธอไปเห็นที่ไหนมา พวกเราไม่ยอมหรอกนะ ฮึ...
วันนี้ ขอแนะนำคำว่า "อุ๊-โสะ" (U-SO)
ลองออกเสียงพร้อมๆกันนะคะ นึง ส่อง ซ่ำ
อุ๊-โสะดีมากค่ะ...
คำนี้ ก็แปลไทยว่า "โกหกน่ะ!" หรือ "โม้!" หรือ "ไม่จริงน่ะ!" แล้วแต่ระดับความไม่อยากจะเชื่อของผู้ฟัง
จริงแล้วๆ รากศัพท์ของคำว่า "อุ๊-โสะ" เนี่ย แปลตรงๆได้ว่า "การโกหก" ค่ะ เป็นคำนาม
ถ้าบอกว่า "พูดโกหก" จะมีกรียามาใช้ร่วม กลายเป็น "อุ๊-โสะ โอ๊ะ สึ-คุ"
เวลาเราจะว่าใครบางคนว่า "คนขี้โกหก" เราก็จะบอกว่า "อุ๊-โสะ-สึ-คิ"
= LIAR นั่นเอง
อันนี้ ไม่ได้สอนให้ไปด่าใคร แต่ถ้าใครไม่อยากถูกด่า ก็กรุณาอย่าทำ
ป้าเอมแค่อยากจะแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ในการใช้คำว่า "อุ๊-โสะ" ในหลายๆรูปแบบเท่านั้นแล่ะค่ะ
ทีนี้ เห็นกันมะว่า น้องเอ่เอ๊ เค้าอุทานคำว่า "อุ๊-โสะ"ว่า "อุ๊-โซ่---" แถมยังมีการทอดเสียงยาว แล้วเอามือป้องปากด้วย ก็จะอธิบายเพิ่มเติมว่า ท่าที่น้องเอ่เอ๊ทำน่ะ มักจะเป็นท่าบังคับของสาวๆญี่ปุ่นกัน
คือ เท่าที่ป้าเอมสังเกตุมาเนี่ย ถ้าเป็นผู้ชายอุทานคำว่า "อุ๊-โสะ" มันก็จะออกเสียงอย่างนี้เป๊ะ และห้วนๆ ไม่ทอดเสียง
แต่ถ้าเป็นสาวๆพูดล่ะก็ เค้าก็จะมีจริตจกร้านขึ้นมาโดยอัตโนมัติเลย ก็เลยเกิดการทอดเสียงยาวตอนท้าย และมีท่ามือป้องปากประกอบ ถ้าเอาแบบ full version คือแบบอาโนเนะสุดๆเนี่ย จะเริ่มจากทำตาโต(คล้ายๆแอ๊บแบ๊ว) ยกมือขึ้น ทำฝ่ามือป่องเล็กน้อย เอาป้องปาก แล้วก็ต้องปรับระดับเสียงขิ้นอีกประมาณสองคีย์ เปล่งเสียงออกมาว่า ""อุ๊-โซ่---" อย่าลืมทอดเสียงยาว พร้อมกันนั้น ให้ทำท่างอตัวนิดๆเอนไปทางด้านหลังค่ะ อู๊ย...ถ้าทำได้ครบนะคะ ไปเปลี่ยนสัญชาติได้เลยค่ะ
เอ้า ออกเสียงดูอีกครั้งนะคะ นึง ส่อง ซ่ำ
อุ๊-โสะเก่งมากค่ะ...
(ไม่ว่ากันถ้าสาวๆจะฝึกพร้อมท่าทางประกอบ)
โอเคค่ะ คงจะเพลิดเพลินกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ได้บ้างนะคะ
พักผ่อนกันให้สบายใจน้----า