พระองค์เคยตรัสเมื่อหลายปีก่อนว่าพระองค์จะไม่ยอมทำอะไรที่ผิดเป็นอันขาด จะทรงดำรงอยู่ในความถูกต้องเป็นธรรม" พระองค์รับสั่งว่า "ขอให้คนไทย พอมี พอกินกันเถอะ ไทยเป็น 1 ใน7ประเทศ ที่มีอาหารเหลือกิน เช่น ข้าว ในยามเกิดวิกฤต เราจะนึกถึงข้าวเพราะทุกคนต้องกินข้าว" พระองค์มีความสุขกับการทรงงานแม้จะเหนื่อยยากเพื่อประชาชนของพระองค์ เวลาพระองค์จะเสด็จออกป่าเขา ลำเนาไพร ในถิ่นทุรกันดาร เพื่อดูแลแก้ปัญหาให้ประชาชนที่เดือดร้อน พระองค์ท่านจะรับสั่งเรียบง่ายว่า "เดี๋ยวบ่ายนี้ เราไปเที่ยวกัน" ดร.สุเมธ กล่าวว่าข้าราชบริพารที่ติดตามฟังแล้ว ใจหายวาบ เพราะทราบดีว่า ไปเที่ยวคืออะไรแต่พระองค์ท่านมองว่า งานที่แสนหนักของพระองค์นั้นคือการไปเที่ยวและพระองค์ก็มีความสุขกับการทรงงาน ดร. สุเมธ กล่าวอีกตอนหนึ่งว่า ในหลวงท่านทรงให้หลักในการทำงาน แบบสังฆทาน " คือ ไม่เลือก และ " ทำไปเรื่อย "และในวันที่ 9 มิถุนายน 2549 พสกนิกรต่างพร้อมใจกันถวายความจงรักภักดีอย่างสุดหัวใจทั้งรอยยิ้ม และ น้ำตาแห่งความปลื้มปิติทุกคนมีใจจดจ่อกับกระแสพระราชดำรัสซึ่ง ดร.สเมธ ได้นำมาทบทวนให้ฟังว่า ในหลวงท่านขอเราแค่ 4 ข้อ เราจะทำให้ท่านได้ไหมท่านทำให้พวกเรามามากเหลือเกินใน 60 ปีที่ผ่านมาท่านได้ใช้พระวรกายของท่านอย่างหนักมากเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนได้กินดี อยู่ดี พ้นจากความทุกข์ยาก นานาประการ

4 ข้อที่ พระเจ้าแผ่นดินหรือพ่อหลวง....ของเราขอก็คือ......
1. จะคิด จะพูด จะทำ ขอให้ตั้งอยู่ในเมตตาต่อกัน
2. ขอให้ทุกคนช่วยเหลือกัน ประสานประโยชน์เพื่อส่วนรวม ไม่แย่งชิงกอบโกยกัน
3. ให้ปฏิบัติอยู่ในความสุจริต เคารพกติกาของสังคม และกฎหมายอย่างเสมอภาค
4. ต่างฝ่ายต่างทำความคิดของตนให้มีเหตุผล ความดี ความถูกต้อง เป็นกลาง

พวกเรา...พอจะทำให้พ่อชื่นใจบ้างได้ไหม????


ช่วงเวลาอย่างนี้ คุณคิดว่าจะทำอะไรให้พ่อหลวงของเราดี ช่วยบอกกันหน่อย .....