สวัสดีค่ะ
เป็นไงกันบ้างคะ ได้ทำความรู้จักกับตัวอักษรในภาษาญี่ปุ่นกันไปแล้ว คงจะเข้าใจกันมากขึ้นนะคะ อย่างน้อยเวลาไปเห็นป้ายภาษาญี่ปุ่น ก็อาจจะพอเดาๆอ่านๆได้ว่า เค้าเขียนอะไร ความหมายไม่รู้ แต่อ่านได้ก็เจ๋งแล้วล่ะค่ะ 555
วันนี้ ป้าเอมจะมาเสนอคำศัพท์ใหม่ แต่น่าจะคุ้นหูคนที่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นกันบ้างนะ มาดูกันเลย...
จำลองสถานการณ์...
ระหว่างการออกเดทของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง พลันสาวเจ้าก็ออดอ้อนขึ้นมาว่า...
น้องก้านกล้วย: พี่พลายเผือกคะ น้องก้านกล้วยอยากทานไอศครีมรสบานาน่า สปรี๊ต ค่ะ
พาไปทานหน่อยนะคะ--(ทำตาหวาน)
พี่พลายเผือก: สำหรับน้องก้านกล้วย ยกเว้นเดือนและดาว พี่พลายทูนเกล้าฯถวายได้หมดแล่ะจ้ะ
"โจ๊ต-โตะ-มัต-เตะ เนะ" พี่พลายจะควบไปซื้อมาให้จ้ะ
ใช่แล้วค่ะ ศัพท์วันนี้คือ "โจ๊ต-โตะ-มัต-เตะ (เนะ)"
CHOT-TO MAT-TE (ne)
คำว่า "โจ๊ต-โตะ-มัต-เตะ (เนะ)" ก็แปลได้ว่า "รอเดี๋ยว(นะ)" ป้าเอมวงเล็บ "เนะ" ไว้ เพราะบางทีก็ไม่จำเป็นต้องใส่นะ อย่างพวกผู้ชายพูด ก็ใช้ "เนะ" ได้เวลาพูดกับเด็กๆ หรือเวลาพูดแบบใจดี หรือออกอารมณ์อ้อนๆ กับสาว แต่อาจจะไม่ใช้พร่ำเพรื่อเท่าสาวๆ
คำนี้ เป็นคำที่มาจากศัพท์ 2 คำ ค่ะ คือ "โจ๊ต-โตะ" ซึ่งแปลว่า "นิดหน่อย" กับ "มัต-เตะ" ซึ่งเป็นกรียาที่แปลว่า "รอ" แต่เปลี่ยนรูปเป็นรูปคำสั่งแล้ว พอมารวมกัน ก็ได้ความว่า "รอหน่อย" หรือ แปลแบบชาวบ้านๆว่า "รอแป๊ปนึง" ไงล่ะคะ
ไหนลองมาออกเสียงกันดูนะคะ นึง ส่อง ซ่ำ...
"โจ๊ต-โตะ-มัต-เตะ เนะ"
เก่งมากๆเลยค่ะ
อันที่จริง วิธีการพูดในรูปแบบนี้ ก็จะพูดกับคนที่รู้จัก เพื่อนๆ หรือคนที่ค่อนข้างสนิทค่ะ ถ้าเป็นคนที่ไม่สนิทกัน หรือพูดกับผู้ที่อาวุโสกว่า ก็จะต้องพูดให้เต็มประโยครูปสุภาพ โดยการเติมคำว่า "กุ-ดะ-ไซ" ที่แปลว่า "กรุณา" เข้าไปค่ะ กลายเป็น...
"โจ๊ต-โตะ-มัต-เตะ กุ-ดะ-ไซ" แปลว่า "กรุณารอสักครู่"
CHOT-TO MAT-TE KU-DA-SAI
เพราะฉะนั้น พวกเราก็ต้องเลือกใช้ให้ถูกกาละเทศะด้วยนะคะ จริงๆยังมีรูปแบบการพูดที่สุภาพกว่านี้อีก แต่เดี๋ยวจะงงกันไปซะก่อน เบรคไว้แค่นี้ดีกว่านะ
เอ้า มาทบทวนกันอีกรอบ นึง ส่อง ซ่ำ...
"โจ๊ต-โตะ-มัต-เตะ เนะ"
ดีมากค่ะ
อย่างที่เคยบอกกันไปแล้วว่า คนญี่ปุ่นเป็นโรคลูกอีช่างย่อ คำนี้ก็ย่อกันได้อีก แค่เพียงพูดว่า "โจ๊ต-โตะ" ก็ได้ความกันแล้วว่า "เดี๋ยวก่อน" หรือ "แป๊ปนึง" สะดวกดีนะคะ แต่จะว่าไป คนไทยเราก็พูดอย่างนี้เหมือนกันเนอะ เช่น เวลามีใครมาเร่งให้เราทำอะไร เราก็บอกว่า "โจ๊ต-โตะๆ" เท่าที่สังเกต เค้ามักจะพูดกัน 2 ครั้งนะ ไม่ได้ตายตัว แต่ได้ยินบ่อยค่ะ อาจจะเป็นการเน้นย้ำก็ได้นะ คำว่า "โจ๊ต-โตะ" เนี่ย ก็แปลได้อีกอย่างว่า "นิดหน่อย" ในกรณีที่แสดงปริมาณค่ะ อย่างเช่น คนจะรินเบียร์ใส่แก้วให้เรา เราก็บอกว่า "โจ๊ต-โตะ" ก็จะหมายความว่า "นิดหน่อยก็พอ" เป็นต้นค่ะ
วันนี้ คำไม่ยาก ง่ายๆและน่าจะนำไปใช้ได้ค่ะ
อย่าลิมนะคะ อยากเก่งภาษา ต้องหมั่นทบทวนคำที่เรียนมา และพยายามหาโอกาสใช้ค่ะ