เข้าระบบ

ชื่อเรียก:

รหัสผ่าน:

จำฉัน



ลืมรหัสผ่าน?

สมัครสมาชิก!

เมนู






ดื่มน้ำอย่างไรให้ถูกต้อง
มือวาง
เป็นสมาชิกเมื่อ:
15/5/2007 16:45
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 927
ดื่มน้ำอย่างไรให้ถูกต้อง

ข้อหนึ่ง คุณมีความเชื่อที่ว่าน้ำยิ่งดื่มเยอะยิ่งดีหรือไม่
เป็นความเชื่อที่ผิด ทุกอย่างต่างมีคุณและมีโทษ ต้องหาจุดสมดุลของมัน
น้ำดื่มมากเกินไปกลับไม่ดี มีสูตรให้คำนวณว่าวันหนึ่งควรดื่มน้ำแค่ไหน

ข้อสอง คุณดื่มน้ำวันละกี่แก้ว
เคยเรียนกันมาว่าเราวันหนึ่งควรทานน้ำวันละ 8-10 แก้ว ว่าแต่ทำได้อย่างที่เรียนมาหรือเปล่าครับ
น้ำในร่างกายของเรามีที่มาที่ไปอย่างไร
น้ำที่เข้าสู่ร่างกายเรามาจากน้ำและอาหารที่ทานเข้าไปเป็นหลัก
ส่วนน้ำจะออกจากร่างกายทางปัสสาวะ อุจจาระ เหงื่อ และทางลมหายใจ แต่ปัสสาวะเป็นเส้นทางหลัก
คนจำเป็นต้องปัสสาวะออกจากร่างกาย อย่างน้อย 500 มิลลิลิตรต่อวัน ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถขับของเสียออกจากร่างกายได้หมด
นอกจากนี้ อีกสามทางที่เหลือโดยเฉลี่ยก็จำเป็นต้องใช้น้ำอีกราว 1000 มิลลิลิตร หรือ 1 ลิตร ต่อวัน
เราจึงต้องดื่มน้ำเพื่อชดเชยส่วนที่ออกจากร่างกายทุกวันราว 1500 มล. หรือ 7 - 8 แก้ว แก้วละ 200 มล.
ตัวเลขนี้ก็ไม่สามารถใช้ได้กับทุกคน
มีสูตรมาให้คิดกันคร่าวๆว่าวันหนึ่งเราต้องทานน้ำปริมาณเท่าไรจึงจะเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

สูตร

น้ำหนักตัว (กก.) x 2.2 x 30) / 2 หน่วยที่ได้ออกมาเป็นมิลลิลิตร
เช่น หนัก 60 กก. เอาเข้าแทนค่าก็จะได้ควรดื่มน้ำ (60 x 2.2 x 30) หาร 2 = 1980 มล.
หรือประมาณ 10 แก้วต่อวัน
ถ้าเราดื่มน้ำน้อยกว่านี้ เลือดซึ่ง 90% ทำมาจากน้ำก็จะเดินไม่สะดวก
ร่างกายก็จะทั้งขับของเสียยาก ขณะเดียวกันสารอาหารในเลือดก็ส่งไปถึงร่างกายช้า
ทางแพทย์จีนถ้าเกิดเลือดลมเดินไม่สะดวกนี่เป็นบ่อเกิดสารพัดโรคเลย
บางคนบอกว่าประจำเดือนมาน้อยหรือไม่มา มาเป็นลิ่มเลือด สีเข้ม หนืด ปวดประจำเดือน
ก็แหงละ น้ำไม่กินจะเอาที่ไหนไปสร้างเลือดละครับ
แต่ถ้าดื่มน้ำมากกว่านี้ก็เป็นผลเสียต่อร่างกายอีกเหมือนกัน ทำอะไรก็ต้องพอดีๆ

ข้อสาม น้ำที่ดื่มเป็นน้ำเย็น น้ำธรรมดา หรือว่าน้ำอุ่น
อาการขี้หนาว น้ำเย็นเป็นของต้องห้ามสำหรับร่างกาย
เมื่อเจอของเย็นเข้าไปการทำงานของกระเพาะจะด้อยลงทันที เกิดเป็นอาหารไม่ย่อย อาหารบูดเน่า หมักหมมอยู่ในกระเพาะและลำไส้
ลำไส้ก็ดูดซึมของเสียจากกากอาหารพวกนี้กลับเข้าสู่เส้นเลือดต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะถ่ายอุจจาระออกจากร่างกาย
จึงไม่ควรจะทานของเย็นๆ ทานน้ำธรรมดาหรือน้ำอุ่นก็ได้

ข้อสี่ ดื่มน้ำช่วงเวลาไหน
ที่บอกให้ดื่มวันละ 8-10 แก้วเนี่ย จะแบ่งกินช่วงไหนระหว่างวันบ้างละ
ใครที่ทานข้าวไปจิบน้ำไป ประมาณว่ากินข้าวเสร็จ หมดน้ำไปสองแก้ว จัดเป็นหายนะอย่างใหญ่หลวงที่สุด เป็นการกินน้ำที่ผิดที่สุด
เรามักทำอะไรเพลินเสียจนลืมทานน้ำ พอถึงเวลาว่างซึ่งมักจะเป็นเวลาทานข้าว เขาบอกว่าให้ทานน้ำเยอะก็ทานรวดเดียวไปเลย ผิด ผิด ผิด
เพราะช่วงเวลาที่ทานข้าวนั้น ร่างกายจำเป็นต้องอาศัยน้ำย่อยในการย่อยอาหาร เมื่อคุณกินน้ำเข้าไปเยอะๆแล้ว น้ำย่อยก็จะเจือจาง ก็เข้าสู่ระบบเดียวกับการกินของเย็น คืออาหารไม่ย่อยหมักหมม พิษถูกดูดเข้าเส้นเลือด

เพราะฉะนั้นที่คุณควรทำคือ ตอนเช้าตื่นมาดื่มน้ำก่อนเลยครับ
2-5 แก้ว เพื่อเป็นการขับพิษออกจากร่างกายทางอุจจาระ ปัสสาวะที่ให้ดื่มทันทีเพื่อให้มีระยะเวลาห่างจากอาหารเช้าพอสมควร
ก่อนอาหาร 15 นาที ระหว่างทานอาหารและหลังอาหาร 40 นาที ทานน้ำได้ไม่เกินครึ่งแก้วครับ
ในที่นี้หมายรวมถึงซุป น้ำแกง และของเหลวทุกประเภทนะครับ
อย่าดื่มน้ำครั้งละมากๆ ให้จิบครั้งละ 2-3 อึก แต่จิบถี่ๆ
หาขวดน้ำ แก้วน้ำมาวางไว้ข้างตัว จิบไปทั้งวัน
ถ้ากินน้ำครั้งละมากๆ ผลก็คือ ร่างกายยังไม่ทันได้ดูดซึม ก็ไหลรวดเดียวปัสสาวะออกไปหมดแล้ว
อย่างนี้ดื่มน้ำมากแค่ไหนก็ยังหิวน้ำครับ เหมือนน้ำป่ามาครั้งเดียว ทะลักล้นเขื่อนออกไปหมดแล้วจะเอาอะไรกักเก็บไว้ในเขื่อนละ
การทานน้ำ 2-3 แก้วพร้อมทานข้าว กินน้ำเยอะแล้วอาหารจะย่อยยังไง มันก็เลยเกิดลมเกิดแก๊สท้องอืดซิ

หลังอาหารยังไม่ควรทานผลไม้ล้างปากทันทีอีกด้วยครับ โดยเฉพาะผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็นทั้งหลายเช่น ส้ม แก้วมังกร สาลี่ แตงโม เป็นต้น มีสองเหตุผล

หนึ่ง
เพราะว่าผลไม้จะย่อยเร็วกว่าอาหาร อาหารยังย่อยไม่เสร็จ ผลไม้ก็ค้างเติ่งอยู่ในกระเพาะ ร่างกายก็ดูดซึมสารอาหารจากผลไม้เหล่านี้ไม่ได้ พอไปถึงลำไส้ถึงคิวที่มันจะได้ดูดซึมมันก็เน่าเสียไปหมดแล้วครับ
เพราะฉะนั้นถ้าจะทานผลไม้ควรทานก่อนหรือหลังอาหารสัก 1-2 ชม. ขณะท้องว่างเพื่อให้ร่างกายได้ดูดซึมวิตามิน สารอาหารและไม่รบกวนระบบการย่อยอาหารด้วย

สอง
น้ำย่อยในกระเพาะถือว่าเป็นธาตุไฟครับ ถ้าทานผลไม้ฤทธิ์เย็นเข้าไป ก็จะส่งผลให้อาหารย่อยไม่ดี

ข้อสุดท้าย ทานน้ำอะไร
บางคนชอบทานน้ำอัดลมมาก ดื่มทุกวัน ไตก็ต้องทำงานกรองน้ำให้สะอาดหนักกว่าเดิม
น้ำอัดลมน้ำเป็นน้ำที่ผ่านกรรมวิธีทางเคมี ใส่น้ำตาลจำนวนมาก กินเข้าไปมีแต่ผลเสีย ยิ่งอัดแก๊สอีก กินเข้าไปท้องก็อืด การย่อยอาหารก็ไม่ดี ทำร้ายร่างกายตัวเองเปล่าๆ

ชาพร้อมดื่มบรรจุขวด ไม่มีอะไรนอกจากน้ำตาลและคาเฟอีนปริมาณมากผสมน้ำ
ถ้าเป็นชาจีนร้อนๆ ชงจากกาก็ควรจะเว้นระยะหลังอาหารสักครึ่ง ชม. เพราะชามีฤทธิ์เย็น ทำให้อาหารไม่ย่อย
รวมทั้งยังส่งผลต่อร่างกายในการดูดซึมธาตุเหล็กและโปรตีนอีกด้วย

กาแฟก็ไม่ควรทาน

หมอที่ดีที่สุดคือตัวเราเอง
เป็นหน้าที่ของตัวคุณเองที่ต้องดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง

ที่มา : Forward mail
http://www.bloggang.com/mainblog.php? ... -06-2009&group=6&gblog=13

โพสเมื่อ : 11/6/2009 8:39
Transfer the post to other applications Transfer







[ค้นหา ขั้นสูง]