เข้าระบบ

ชื่อเรียก:

รหัสผ่าน:

จำฉัน



ลืมรหัสผ่าน?

สมัครสมาชิก!

เมนู






จิบชายามบ่าย
มือเซียน
เป็นสมาชิกเมื่อ:
11/4/2007 23:16
จาก ราชอาณาจักรไทย
กลุ่ม:
ผู้คุ้มกฎ
โพส: 11294














จิบชายามบ่าย


โดย ผู้จัดการออนไลน์6 กันยายน 2550 17:57 น.








































???????เรื่อง : ชลธิชา พรหมศิริ,ไพลิน ตั้งศิลป์พูลชัย
???????ภาพ : สุรศักดิ์ คลี่แก้ว, ศิวกร เสนสอน
???????

???????
ชายามบ่าย เป็นวัฒนธรรมของผู้ดีอังกฤษ
แพร่หลายเข้ามาในเมืองไทยในสมัยรัชกาลที่ 6-7
เนื่องจากลูกเจ้านายที่จบการศึกษาวิชาการจากต่างประเทศกลับเมืองไทย
จึงได้นำวัฒนธรรมนี้กลับมาด้วย
การจิบชาริเริ่มในตำหนักเจ้านายพระองค์ต่างๆ
การจิบชาต่างๆในสมัยนั้นยังไม่ได้ครบเครื่องหรือเป็นไปอย่างสูตรต้นตำรับจาก
อังกฤษ ขนมแป้งอบทั้งหลายที่ชาวอังกฤษนิยมรับประทานแกล้มกับน้ำชา
เมืองไทยในยุคแรกใช้ขนมไทยบางอย่างเช่น ขนมช่อม่วง,สาคูไส้หมู, ขนมครก,
ลูกชุบ, ทองม้วน เป็นต้น

???????

???????ต่อมา ชายามบ่าย
เข้ามาเป็นกิจกรรมหนึ่งของโรงแรมหรูหราต่างๆในกรุงเทพฯ
และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของ “Tea Room” ต่างๆ
อุปกรณ์การดื่มชาอย่างที่ชาวอังกฤษแท้ๆ เริ่มนิยมใช้กันมากขึ้น
รวมไปถึงพวงวางขนมอย่างอังกฤษที่แสนจะเก๋และเท่ บรรดานักเรียนนอก
รวมถึงไฮโซจึงนิยมไปจิบชายามบ่ายกันเป็นทิวแถว

???????

???????โรงแรมแห่งแรกที่เริ่มเสิร์ฟชายามบ่ายที่ริมสระน้ำคือ
โรงแรมเอราวัณ และการเสิร์ฟชาที่เป็นกิจจะลักษณะนั้น
เริ่มต้นที่โรงแรมโอเรียนเต็ล ตามมาด้วยโรงแรมเพนนินซูลา (หรือ Four
Season ปัจจุบัน) ทั้งนี้เพื่อให้เป็นกิจจะลักษณะเช่นเดียวกับ Afternoon
Tea อย่างในฮ่องกง

???????

???????ชั่วโมงการจิบชา Afternoon Tea เริ่มที่ เวลา 15.00 น. , High Tea เริ่มเวลา 17.00 น. และจะมีอาหารหลักรองท้องด้วย

???????

???????Tea Room วันนี้มีความหลากหลาย มากด้วยบรรยากาศ
เหมาะกับวันพักผ่อนที่ไม่ต้องการความเร่งรีบ ให้เวลากับตัวเองมากขึ้น
ผู้ที่เข้าถึงอารมณ์ชา กล่าวไว้อย่างคมคายว่า

???????

???????“ดื่มชา จิบแรกทำให้ตื่น จิบที่สองรู้สึกว่ามีพลังเพิ่มขึ้น จิบที่สามให้ความคิดของคุณโลดแล่น และจิบต่อ ๆ ไปทำให้ดับกระหาย”

???????

???????************

???????

???????Divana
???????จิบชากลางสวนสวย













???????ลองนึกภาพสวนเขียวขจี
แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และพรรณไม้นานาพันธุ์ กับเก้าอี้นั่งสีขาวสบายตา
บรรยากาศสบาย ๆ แล้วชาถ้วยดีดีสักแก้ว กับขนมแสนอร่อย...

???????

???????Well Being คือคอนเซ็ปต์ของ Divana Spa สปาทั้ง 3 แห่งของดีวานา
อันได้แก่ DVN Nurture, Divine และ Virtue มี Nurture (สุขุมวิท 35)
แห่งนี้แหละที่พิเศษ แตกต่างด้วยมีห้อง Tea Room ไว้บริการลูกค้า

???????

???????พื้นที่กว่า 2 ไร่ ถูกเนรมิตให้เป็นโอเอซิสของกรุงเทพ ฯ
ส่วนที่เป็นสปาอยู่ภายในตัวบ้านด้านใน และ ด้านหน้าเป็นทีรูม
สามารถเดินเข้าจากประตูกระจกทางด้านหน้า หรือเมื่อใช้บริการสปาเสร็จ
เดินมาทางเชื่อมต่อด้วยทางเดินท่ามกลางแมกไม้สีเขียว
ทั้งไม้พุ่มและไม้ยืนต้น โดยเฉพาะโครงสร้างของต้นก้ามปูที่นี่
สวยงามและโดดเด่น แผ่ร่มเงาให้ความร่มเย็นไปทั่ว

???????

???????“เราอยู่ภายใต้ธรรมชาติให้ธรรมชาติเป็นหลัก
เราพยายามกลมกลืนไปกับธรรมชาติไม่ได้ให้ธรรมชาติเข้าหาเรา
เราก็แค่ร่วมอาศัยกับเขาได้อย่างปกติสุขโดยที่ไม่ไปทำลายก็คือช่วยเหลือพึ่ง
พากัน” ตง- ธเนศ จิระเสวกดิลก มาร์เกตติ้ง ไดเรกเตอร์
และหนึ่งในหุ้นส่วนของดิวานา เล่าให้เมโทรไลฟ์ฟัง

???????

???????ห้องทีรูมตกแต่งแบบเรียบง่าย โล่ง โปร่ง สบาย
เพดานสูงเน้นสีขาวและเขียวจากธรรมชาติเป็นหลัก
ทีรูมนี้เสมือนเรือนต้อนรับแขกก่อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้าน
ใช้กระจกใสเป็นผนังรอบตัวเรือนเพื่อให้มองเห็นทิวทัศน์
โดยเฉพาะสีเขียวสดของร่มไม้ภายในบ้านอย่างชัดเจน เฟอร์นิเจอร์แบบสบายๆ
เหมือนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นภายในบ้าน มีทั้งแบบโซฟาร์ โต๊ะ
–เก้าอี้สีขาวที่ถูกจัดวางไว้เป็นคู่
ตรงกลางสำหรับเชื่อมต่อโต๊ะหลายตัวเข้าด้วยกัน
เผื่อสำหรับแขกที่มาเป็นหมู่คณะ

???????

???????เมื่อเอนหลังได้ที่กับโซฟาร์สบายๆ
กลิ่นหอมกรุ่นของชาก็ลอยฟุ้งมาแต่ไกล พร้อมกับเบเกอรีที่เรียกว่า
Afternoon Tea Set เบเกอรีของดิวานาเป็นแบบโฮมเมด ไม่หวานจัด
ทุกชิ้นผลิตเองพิถีพิถันทุกขั้นตอน สามารถเลือกทานได้หลายอย่าง เช่น
ทาร์ตผลไม้ ทาร์ตคาว ทาร์ตหวาน มินิแซนด์วิช มินิครัวซองค์ เค้ก สโคน
ชิ้นเล็ก ๆ น่ารัก













???????สำหรับคนไทย ธเนศ จิระเสวกดิลกแนะนำชาผลไม้สำหรับคนไทย
เพราะว่าเป็นชาที่มีรสชาติแปลก ให้ความรู้สึกสดชื่น แรก
ถ้าเป็นคนไทยที่มาประจำ มาแบบร้อน ๆ เหนื่อย ๆ ก็พวกชา เอิร์ลเกรย์
หรือชาแขก

???????

???????ชาวญี่ปุ่น แนะนำชาฝรั่งหรือชาไทย ถ้าเป็นฝรั่งเป็นชาจีน (ชาไทย)
เบลนให้มีรสชาติจากความเคยชินของเขา โดยพิจารณาจากบุคลิกของคนที่แตกต่างกัน

???????

???????“การมาดื่มชาไม่ได้มารีบดื่มแล้วจบ ชาเป็นเครื่องดื่มร้อน
มันต้องค่อย ๆ จิบ การที่ค่อยๆ จิบก็ทำให้เราสามารถสร้างบรรยากาศร่วมได้
ได้ความหอมละมุนของชา รสชาติจากชา จากขนม ได้เห็นบรรยากาศรอบ ๆ
สิ่งนี้มันช่วยบำบัดเราได้
นอกเหนือจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าเราดื่มชาในระยะเวลาไหน
เราดื่มในสถานที่แบบไหน
มันก็เป็นองค์ประกอบร่วมทำให้เรามีความสุขอิ่มกับความรู้สึกมากขึ้น” ธเนศ
เล่าเรื่องราวของชาให้เราฟัง

???????

???????Afternoon Tea ทำให้เราสงบ
ผ่อนคลายจากเรื่องวุ่นวายในชีวิตใช้เวลาช่วงหนึ่งสั้นๆนั่งอ้อยอิ่งอยู่กับธ
รรมชาติ ให้ธรรมชาติบำบัดเราทั้งกายและใจให้ละเอียด
มีกำลังใจสู้กับความรีบเร่งในเมืองหลวง

???????

???????Divana nurture spa
???????ซอยสุขุมวิท 35 คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ

???????โทรศัพท์ 0-22614-817
???????เว็บไซท์ www.divana-dvn.com
???????เวลาเปิด – ปิด 10.00 – 20.00 น. หยุด วันพุธ
???????

???????ประเภทชา
???????traditional - chinese jasmine, english breakfast, english earl gray,
??????? indian assam

???????indian - Darjeeling, japanese green tea, thai lemon grass
???????herbal - chai, ginger, lavender, menthe, menthe – lemon, thym - citron
???????fruit tea - apple, berries, cherry, orange, peach, strawberry
???????

???????*************

???????

???????Al Majlis
???????ห้องนั่งเล่นสบาย ๆ สไตล์โมร็อกโก














???????ไปดื่มชาโมร็อกโกกัน!

???????Al Majlis(อัลล์ มาฮ์จิส) ภาษาอาหรับ แปลว่า “ห้องนั่งเล่น”
และความต้องการในอารมณ์ประมาณนี้ ร้านนี้จึงจำลองบรรยากาศแบบห้องนั่งเล่น
สบายๆ ถึงขนาดนอนเล่นก็ยังได้ ตกแต่งร้านอย่างศิลปะโมร็อกเคิล
ผสมผสานศิลปะของอังกฤษและตะวันออกกลาง
เปรียบเปรยโถงใหญ่ห้องนี้ประหนึ่งละครแนวดรามา – โรแมนติก หรูหรา ไฮโซ และ
โดดเด่นด้วยแชนเดอเลียร์ห้อยระย้า และทิวผ้าที่ห้อยตวัดไปตามมุมต่างๆ
เน้นสีขาว ไม่ได้สีสดแบบโมร็อกเคิลแท้
แต่เพิ่มสีสันด้วยหมอนอิงหลากสีสันเพื่อให้ดูมีชีวิตชีวา

???????

??????? “ถ้าสีจัดมากก็จะทำให้คนรู้สึกอึดอัดไม่สบายตา” บอย - วันทิต ไตรวิทยานุรักษ์ กล่าวกับเมโทรไลฟ์

???????

??????? อัลล์ มาฮ์จิส ตั้งอยู่ที่ ซอยเอกมัย 12 บริเวณเดียวกับประดู่สปา
แม้ทางเข้าร้านจะซับซ้อนอยู่บ้าง
แต่ไม่ยากที่จะมองบรรยากาศดีๆแบบนี้มาให้รางวัลกับชีวิตในชั่วโมงสบายๆ
รับรองว่า เห็นบรรยากาศแล้ว หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

???????

??????? ชาสไตล์โมร็อกโกที่เสิร์ฟมาพร้อมปั้นชาคลาสสิกแบบโมร็อกโคก
และถ้วยชาที่ดีไซน์ได้เก๋ไก๋ ตามสไตล์ตะวันออกกลาง
แค่นี้กลิ่นของทะเลทรายก็เริ่มเขยิบเข้ามาใกล้เราแล้ว

???????

??????? แนะนำ โมร็อกเคิลมินต์ที เป็น ชาเขียวผสมมินต์
ซึ่งมีขั้นตอนในการเสิร์ฟพิเศษกว่าชาทั่วไป คือ จะต้องรินสูง ๆ ไปมาสัก
3-4 รอบ เพื่อให้มีอากาศเข้าไปในชา จะทำให้ชาเบาและหอม สัมผัสที่ปลายลิ้น
หยั่งรู้ถึงความเบา หอมและเย็นจากมินต์

???????

??????? “ คนโมร็อกโกทั่วไป อาศัยในบริเวณอากาศร้อนอย่างทะเลทราย
การทานชาจะไม่เข้มและช่วยในการผ่อนคลาย มินต์จะช่วยระบายความร้อน
ซึ่งชาของจริงก็จะหวานมากเพื่อเพิ่มพลังงานให้
แต่ในเมืองไทยไม่ได้ร้อนมากขนาดนั้นจึงลดความหวานลงเพื่อให้คนไทยทานง่ายมาก
ขึ้น”














???????นอกจากชาโมร็อกเคิลแล้วที่นี่ยังมีทั้ง ชาไทย ชาญี่ปุ่น ชาจีน ชาอังกฤษ ชามาเลย์ ชาโฮมเมด ให้เลือกหลากหลายมาก

???????

??????? “ถ้าเราจะมุ่งหน้าไปอาหรับแท้ ๆ ยังใหม่มากสำหรับคนไทย
และยอมรับว่า ยังไปไม่ถึงสุด เพราะฉะนั้นเราก็หาอะไรที่มันเป็นกลาง คือ ๆ
เอาตัวเด่นของชาบางตัวที่คนไทยดื่มได้ เช่น

???????เลบานีสมินต์ที มอรอคเคิลมินต์ที ”

???????

???????ร้านอัลล์ มาฮ์จิส รักษาคุณประโยชน์และรสชาติที่กลมกล่อมของชา ด้วยการลวกชาเพียงน้ำเดียวเท่านั้น

???????

???????“ลูกค้าหลายคนมาที่ร้านเพื่อดื่มชาคนเดียว เพราะว่า อบอุ่น
เขาไม่เก้อเขิน ตรงนี้ถือว่า
เราประสบความสำเร็จตามคอนเซ็ปต์ร้านที่ตั้งไว้คือ เหมือนนั่งเล่นในบ้าน
ทั้งนี้เพราะว่า เราเป็นผู้บริโภคมาก่อน
เราก็เลยพยายามทำให้ผู้บริโภคของเราได้รับสิ่งที่ดีที่สุดทุกขั้นตอน
ทั้งชา อาหาร การบริการ และสถานที่ เป็นเซอร์วิสที่มีความเป็นกันเองที่สุด”

???????

???????ส่วนอาหารที่เสิร์ฟพร้อมกับชาของที่นี่ก็มีความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร
ซึ่งที่เด่น ๆ ของที่นี่ คือ ทูน่า ไบท์ ที่ใช้ แป้งพิซซ่า อบจนกรอบ ๆ
และใช้นำทูน่าสลัดมาวางบนผ่าแป้ง เสิร์ฟพร้อมคิวคัมเบอร์สลัด
ที่ใช้โยเกิร์ต เป็นน้ำสลัด รับรองว่าเมนูนี้ไม่อ้วนแน่

???????

??????? มาถึงของหวานที่เรียกได้ว่าเป็นนางเอกของร้านนี้คือ Al Majlis
Cake เนื้อชิฟฟ่อนเค้กและครีมหอมมัน นุ่ม เนื้อแน่นละเอียด
ตัดกับเนื้อผลไม้รสเปรี้ยว ทานกับชาร้อน ๆ อร่อยมาก และที่นี่ยังมี เมนู
High-Tea Set (คนละ 350 บาท) ที่มีเค้ก ชิ้นเล็ก ๆ ให้เลือกมากกว่า 10
รายการ และโปรโมชันช่วงนี้ ลดเหลือ 300 บาท ถ้ามา 2 คนจ่ายเพียง 500
บาทเท่านั้น

???????

???????ที่ตั้ง : 83/8 ประดู่สปาคลับ เอกมัย ซ. 12 (ซ.เจริญใจ) ถ.สุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
???????โทรศัพท์ : 0-2392-2345
???????เวลาเปิด – ปิด : จันทร์ – เสาร์ 17.00 - 1.00 น.
???????www.almajlis-tearoom.com

???????เมนู High-Tea Set บริการช่วงเวลา 15.00 -17.00 น. เฉพาะวันเสาร์
???????

???????*************

???????

??????? ดื่มด่ำชาสไตล์ไทยที่
???????เอราวัณ ทีรูม













???????ถ้าพูดถึงวัฒนธรรมการจิบชายามบ่าย
เราอาจจะนึกถึงการจิบชาแบบอิงลิชที ที่ต้องมีชาฝรั่งกับเบเกอรี
แต่คุณรู้ไหมว่าการจิบชานั้นเราสามารถนำมาผสมผสานความเป็นไทยได้อย่างลงตัว

???????

??????? ห้องอาหารไทยเอราวัณ ทีรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ
ห้องอาหารที่ขึ้นชื่อในเรื่องอาหารไทย และการตกแต่งที่มีสไตล์
ความโดดเด่นของห้องอาหารเอราวัณทีรูม
คือการตกแต่งที่ใช้ความเป็นไทยผสมตะวันตก
ด้วยการออกแบบของสถาปนิกและนักออกแบบระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา โทนี่ ชี
ได้ผสมผสานความร่วมสมัยเข้ากับบรรยากาศคลาสสิก อย่างเช่น โต๊ะไม้
เก้าอี้สไตล์เขมร โซฟาที่นั่งได้ 3 คน สุดเก๋ และเครื่องเงิน ภาชนะต่าง ๆ
นำมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว โดยสีโทนหลักที่ใช้จะเน้นสีเข้ม

???????

???????เมนูชาที่มีให้เลือกหลากหลาย เช่น ชาเย็นเอราวัณ ชาไทย ชาดำเย็น
ชาเย็นตะไคร้ ชาเย็นใบเตย ชาเย็นลิ้นจี่ ชากระเจี๊ยบ ชาขิงสด ชามะตูม
และชาฝรั่ง เช่น เอิร์ลเกรย์ ดาร์จีลิง แต่ชาที่โดดเด่นที่สุด คือ ชาไทย
ที่ทางร้านได้คิดสูตรขึ้นมาเอง นำเอาผลไม้
หรือสมุนไพรนำมาทำชาให้เราได้เลือกมีทั้งร้อนและเย็น













???????พิเศษที่สุดของที่นี่คือชุด เซต “Afternoon tea”
ที่มีอาหารไทยให้เลือกมากมาย ประกอบด้วย ขนมปังหน้ากุ้ง, ไส้กรอกอีสาน,
หมูปิ้ง ช่อม่วงไส้ปู, กะหรี่ปั๊บไส้ไก่, ลาบไก่, ข้าวเหนียวมะม่วง,
ขนมปังสังขยา, ขนมครก, ลูกชุบ, ทองม้วน และผลไม้รวม ด้วยราคาเพียง 199 บาท

???????

???????นอกจากนี้ที่นี่ยังจำหน่ายตัวผลิตภัณฑ์ชาที่เป็นโอทอป แยม เครื่องเทศ ขนม และของที่ระลึกเก๋ ๆ มากมาย

???????

???????ห้องอาหารเอราวัณ ทีรูม
จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ที่ชื่นชอบในการดื่มชา ได้มาใช้เวลาจิบชา
ฟังเพลงยุค 70-80’s เบา ๆ นั่งคุยกับคนรู้ใจหรือนั่งคุยงาน
และทานอาหารไทยไปด้วย นี่คือวัฒนธรรมการดื่มชาแบบไทยๆ
ที่เราสามารถไปสัมผัสได้

???????

???????ที่ตั้ง : ชั้น 2 ภายในห้างฯ เอราวัณ แบงค็อก Urban Click Lifestyle ถนนราชดำริ กรุงเทพฯ 10330
???????โทรศัพท์ 0-2254-1234

???????เวลาเปิด - ปิด : 10.00-20.00 น.
???????เมนูเซต “Afternoon tea” บริการช่วงเวลา 14.30 – 16.00 น.
???????

???????*************

???????

??????? “High Tea”
???????หอมกรุ่นอย่างมีรสนิยม













??????? หากคุณนึกถึงบรรยากาศที่ร่มรื่น
หรือมองหาสถานที่สามารถทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย คงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า
การจิบชายามบ่ายนั้นเป็นกิจกรรมหนึ่งที่สามารถตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง
และสถานที่พิเศษที่เมโทรไลฟ์จะขอนำเสนอ คือร้านน้ำชา “High Tea” ตั้งอยู่
ถนนหลังสวน ซอย 3 ภายในร้านดอกไม้ชื่อ เรือนบุษบา

???????

???????บ้านหลังเล็กสีขาว เต็มไปด้วยความเพลิดเพลิน
และกลิ่นหอมกรุ่นของน้ำชา ที่ซุกตัวอยู่ในเมืองหลวง
เหมาะสำหรับการนั่งในแบบสบายๆ ไม่ต้องเร่งรีบ

???????

???????High Tea ตกแต่งร้านสไตล์อังกฤษ “คลาสสิก คอตเทต” เปิดมานานกว่า 3
ปี โดยเจ้าของร้านหนุ่มโรแมนติกอย่าง ฉันฑิต สว่างเนตร หรือยุ่น
ได้แรงบันดาลใจในการเปิดร้านน้ำชาแบบ high tea ตามแบบฉบับอังกฤษ
หลังจากได้ใช้ชีวิตอยู่ต่างแดน และตระเวนชิมอาหารหลากหลายเมนูมาแล้วทั่วโลก

???????

???????“ร้าน High Tea เปรียบเสมือน จุดนัดพบสังสรรค์ในหมู่เพื่อนฝูง
หรือเหมาะมาเจรจาธุรกิจ
แม้กระทั่งเป็นบ้านหลังที่สองโดยคุณสามารถเอนหลังอ่านหนังสือเล่มโปรดในยามบ
่าย ผมจึงมองว่านี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ร้าน high Tea
ได้รับความไว้วางใจเพื่อใช้เป็นสถานที่ในการจัดงาน อีเวนต์
หรือว่างานสัมมนาที่สามารถจุคนได้มากกว่า 80 คน”

???????

???????นอกจากเรื่องของบรรยากาศที่บ่งบอกถึงรสนิยม “ใบชา”
ที่นี่ยังผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดีจากประเทศฝรั่งเศส
ซึ่งให้รสชาติกลมกล่อม และ กลิ่นหอมรัญจวนเหมือนดอกไม้นานาพันธุ์
ที่บรรจงเลือกมาให้เหมาะกับบรรยากาศภายในร้านได้อย่างลงตัว

???????

???????สำหรับผู้ที่สนใจใบชา เพื่อสุขภาพทางร้าน High Tea มีชานานาชนิดให้เลือกจิบ

???????Green Mint ที่มีส่วนผสมของใบมะกรูด ซึ่งช่วยบำบัดสุขภาพในเรื่องของการย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี

???????

???????Un’ Gentlemen ให้ความรู้สึกคล้ายกับชา Earl Grey ที่ผสมผสานกับ
ดอกวนิลา และ ช็อกโกแลต จะให้ความรู้สึกดื่มด่ำ
เหมือนจิบชาต้นตำรับแบบอังกฤษ ที่นครลอนดอน”













???????Chamomile ที่ให้รสชาติกลมกล่อม ลื่นคอ
และยังมีสรรพคุณในการช่วยให้ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาในการนอน
ให้หลับสบายยิ่งขึ้น

???????

???????Forest Fruit ชากลิ่นผลไม้ที่เพียงได้จิบเบาๆ
ก็สามารถลดความเหนื่อยล้า และเติมความสดชื่นระหว่างวัน ในราคา 80 บาทต่อกา
หรืออาจจะเลือกใบชาสดที่บรรจุอยู่ในกระป๋องสุดหรูสีแดง ขนาด 125 มิลลิกรัม
ที่เหมาะชงดื่มเองที่บ้าน หรือสามารถซื้อไปเป็นของขวัญฝากคนรู้ใจ (925 บาท)

???????

???????ถ้าจะให้ครบสูตรในการจิบชาที่ร้าน High Tea
ตามต้นตำรับต้องสั่งอาหารมาเรียกน้ำย่อย ไม่ว่าจะเป็น ซีซาร์สลัด (100
บาท) ที่เน้นความสดของผักนานาชนิด เสิร์ฟเคียงคู่มากับน้ำสลัดแบบไร้ไขมัน
ตามมาด้วย พ็อกช๊อฟ (280บาท) ที่เนื้อหมูต้องผ่านการอบมากกว่า 6 ชั่วโมง
เพื่อให้เนื้อมีความนุ่ม ประกอบกับกลิ่นหอมของ ชินนามอน อบเชย และลูกเกด
ที่เป็นเครื่องปรุงของน้ำซอส ที่ปรุงอย่างกลมกล่อม
ราดลงบนเนื้อหมูอย่างชุ่มฉ่ำน่ารับประทาน

???????

???????และอีกหนึ่งเมนูเด็ดของร้านคือ สเต๊กปลากะพง (280 บาท)
ปลาที่นำมาปรุงแต่งล้วนทำอย่างพิถีพิถัน รับรองว่าต้องถูกปากหนุ่มสาวเมโทร

???????

???????สุดท้ายตบด้วยของหวานซึ่งขาดไม่ได้สำหรับการจิบชายามบ่ายในแบบฉบับ
High Tea โดยเค้กที่ติดชาร์ตของร้าน Dark chocolate
ประกอบไปด้วยช็อกโกแลตล้วนๆ
ที่ใครได้ลองกินต้องติดใจในรสชาติที่สามารถละลายเพียงแค่ลิ้นสัมผัส
ซึ่งเค้กทุกชิ้นของร้าน high tea จะถูกแช่เย็นไว้
ในตู้เย็นที่ตั้งอุณหภูมิไว้ประมาณ 4-6 องศาเซลเซียส เพื่อรักษาความเย็น
และความสดอร่อย

???????

???????จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงได้การตอบรับเป็นอย่างดี
จากหนุ่มสาวออฟฟิศวัยทำงาน หรือว่าครอบครัว
และคู่รักในวันหยุดพักผ่อนสุดสัปดาห์
ถ้าคุณกำลังมองหาบ้านหลังเล็กๆที่ให้ความรู้สึก ผ่อนคลาย อย่างเป็นกันเอง
ร้านน้ำชา High Tea ก็คงจะเป็นร้านที่ให้บรรยากาศโรแมนติก
แบบมีรสนิยมแต่สบายกระเป๋า

???????

???????ที่ตั้ง : 68/1 ถนนหลังสวน ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพ 10330
???????โทรศัพท์ : 0-2652-1244
???????เวลาเปิด- ปิด : 10.00-22.00 น.
???????Website : www.ruernboossaba.com
???????

???????************

???????

???????4 ขั้นตอน ง่ายๆ
???????กับการจัดโต๊ะชาแบบเรือนบุษบา













???????1) เตรียมโต๊ะที่ดี บรรยากาศเหมาะๆ: โต๊ะดื่มชาที่ดี
ควรจะคลุมด้วยผ้าปูโต๊ะลายดอกไม้ที่มีตราเล็กๆ เพื่อที่จะมาเบรกกับ
อุปกรณ์ที่อยู่บนโต๊ะให้จาน หรือว่ากาน้ำชามีขนาดเล็กลง

???????

???????2) อุปกรณ์ในการดื่มที่พร้อมสรรพ:
สมัยก่อนถ้วยชามีอยู่สองประเภทคือถ้วยชา porcelain และ Bone China
ซึ่งประเภทหลังนั้น เป็นถ้วยชา หรือกาชา
ที่มีราคาแพงซึ่งชนชั้นสูงนิยมใช้กัน
แต่ถ้าหากเป็นการจัดโต๊ะชาด้วยตัวเองนั้น กาน้ำชาที่มีอยู่ที่บ้านก็น่าจะพอ

???????

???????3) เครื่องเคียงของการดื่มน้ำชาในแบบ high tea: การดื่มชาที่ดี
แบบมีสีสัน จะขาดไม่ได้เลยก็คงเป็นเรื่องของเครื่องเคียง เช่น แซนด์วิช,
แซนด์วิชแบบเปิดหน้า, หรือ scone
โดยผสมแล้วก็เป็นเรื่องของผู้ทานเองที่จะใส่ไส้ด้วยเครื่องอะไรก็ได้
ตามความพึงพอใจของผู้ทาน แต่ถ้าอยากให้เป็นแบบอังกฤษต้นตำรับเลยต้องเป็น
บูเชสต้า แซลมอนรมควันที่ใส่ไส้ครีมชีส แกล้มด้วยแตงกวา

???????

???????4) เติมเต็มบรรยากาศ: ขั้นตอนสุดท้ายในการจัดโต๊ะชาก็
คงจะเป็นการจัดแจกันดอกไม้ เพื่อทำให้บรรยากาศดูร่มรื่น
เหมาะกับการดื่มน้ำชายามบ่ายในบรรยากาศสุดคลาสสิก
ที่รังสรรค์อย่างมีสไตล์ง่ายๆด้วยตัวคุณเอง

???????

???????***************

???????

???????10 ข้อเกี่ยวกับชาที่คุณควรรู้













???????1. ชา เป็นคำจีนที่ปรากฏอยู่ในภาษาไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
ซึ่งน่าจะเพี้ยนจากคำว่า “ฉา” ภาษาจีนกลาง
ซึ่งพ่อค้าจีนที่เข้ามาค้าขายนำมาเผยแพร่

???????

???????2. จีนเป็นชาติแรกที่รู้จักการดื่มชา
และแพร่หลายสู่ชาติอื่นที่ทำการค้ากับจีน
แต่ชาวอังกฤษที่ชื่นชอบการดื่มชาจากจีนจนเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตกลับเป็น
ผู้เผยแพร่วัฒนธรรมการดื่มชาให้รู้จักไปยังดินแดนต่าง ๆ
ผ่านอาณานิคมอังกฤษที่มีอยู่ทั่วโลก

???????

???????3. คนจีนเชื่อว่าเวลามีผู้มาหาถึงบ้านจะต้องยกน้ำชาออกมาต้อนรับ
ถ้าไม่รักกันจริงจะไม่ยกน้ำชามานั่งดื่ม เพราะจะได้คุยให้เสร็จ ๆ
แล้วรีบออกไปจากบ้านซะ

???????

??????? 4. ชา มีบทบาทโดดเด่นในการสร้างชาติอเมริกาให้เป็นเอกราชจากอังกฤษ
รัฐสภาอังกฤษเก็บภาษีใบชาคนอเมริกันสูงมาก(ขณะนั้นเป็นอาณานิคมของอังกฤษ)
ก่อเกิดความไม่พอใจและต่อต้าน ขนหีบชาทิ้งทะเลอันเป็นที่มาของชื่อ Boston
tea Party

???????

???????5. Afternoon tea เริ่มขึ้นในศตวรรษที่ 18 แอนนา 7 th Duchess of Bedford เป็นเจ้าของความคิดของมื้อน้ำชายามบ่ายนี้ขึ้น

???????

???????6. “ชา” เป็นผลผลิตที่มาจากพืชชนิดเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นชาจีน
ชาอินเดีย ชาศรีลังกา ชาญี่ปุ่น
แต่กลับปรากฏว่าการชงชาที่แตกต่างกันในหลายวัฒนธรรม ทำให้เกิดชารูปแบบต่าง
ๆ กว่า 3,000 ชนิด แตกต่างกันทั้งกรรมวิธีการผลิตใบชา
การชงชาไปจนถึงการปรุงแต่งรสชาติของชา

???????

??????? 7. ในจีน ร้านน้ำชาเป็นแหล่งกำเนิดวัฒนธรรมจีน เช่น การแสดงงิ้ว การเล่านิทาน การสนทนารูปแบบการเล่นตลก เป็นต้น

???????

??????? 8. ถ้าไปออสเตรเลียแล้วได้รับการเชิญชวนให้ดื่ม Cuppa
หมายถึงน้ำชา แต่ถ้าชวนว่า Have tea with us นั่นแปลว่าเขาชวนทานข้าวเย็น

???????

??????? 9. การทำน้ำชาดื่ม คนอังกฤษถนัดต่างคนทั่วไป
คือคนทั่วไปมักจะรินน้ำชาลงถ้วยก่อนแล้วเติมนมหรือครีมและน้ำตาล
แต่คนอังกฤษจะใส่ครีมหรือนมลงไปก่อน เติมน้ำตาล แล้วจึงรินน้ำชาร้อน ๆ
ลงไปเป็นอันดับสุดท้าย

???????

???????10. การดื่มชาใส่น้ำแข็งเริ่มขึ้นในงานมหกรรมโลกที่เซนต์หลุยส์ ปี
ค.ศ.1904 โดยหนุ่มอังกฤษ ชื่อ ริชาร์ด เบลชินเดรน (Richard Blechyndren)
ช่วงนั้นอากาศร้อนมากเขาขายน้ำชาร้อน ๆ ไม่ออก
จึงรินน้ำชาราดลงไปบนก้อนน้ำแข็ง

???????

??????? 11. ฝรั่งเศสเป็นชาติแรกที่เติมนมสดในน้ำชา


โพสเมื่อ : 10/9/2007 14:13
_________________
ASUS EEE 1000HE/BB 9700/Nokia E51/iPod Classic 160GB
Transfer the post to other applications Transfer


Re: จิบชายามบ่าย
มือเซียน
เป็นสมาชิกเมื่อ:
11/4/2007 17:18
กลุ่ม:
ผู้คุ้มกฎ
โพส: 3995
ขอบคุณค่า

โพสเมื่อ : 10/9/2007 22:29
_________________
Life goes on. Open in new windowOpen in new windowOpen in new window
Transfer the post to other applications Transfer







[ค้นหา ขั้นสูง]