ภาพเพิ่มเติม HP Mini 5102

จากที่ได้นำเสนอข่าว HP Mini 5102 มาพร้อมกับจอมัลติทัชมีหูหิ้ว ไปก่อนหน้านี้ ดูเหมือนจะมีภาพของตัวเครื่องให้เห็นน้อยไปนิด เลยต้องเอามาให้ดูเพิ่มเติมกันหน่อย ความเห็นส่วนตัวสำหรับรุ่นนี้ บอกได้คำว่าเดียว "ชอบ" เน็ตบุ๊ครุ่นนี้มาก เนื่องจากดีไซน์ได้แบบเข้าอกเข้าใจคนใช้งานมาก ถ้าจะให้คะแนนการออกแบบ รุ่นนี้น่าจะได้คะแนนเต็มไปเลย





หลายคนอาจสงสัยว่ารุ่นนี้ออกแบบมาดีอย่างไร ทำไมผมถึงบอกว่า "ชอบ" นัก "ชอบ" หนา ก็คงต้องลองดูภาพหลายๆ มุมของ HP Mini 5102 รุ่นนี้ดู เนื่องจากรุ่นนี้ออกแบบมาเน้นขายให้กับองค์กรธุรกิจและสถานศึกษา มันถึงเป็นการผสมผสานระหว่างความเรียบหรูและความมีสีสัน



เรื่องความเรียบหรูนั้น เน็ตบุ๊คที่มีตัวถังเป็นโลหะมักจะไฮโซกว่าพวกที่เป็นพลาสติกเสมอ แต่บางครั้งรุ่นที่เป็นโลหะก็มักจะมีสีดำๆ ทึมๆ ได้ความเรียบความหรู แต่ไม่ค่อยมีสีสัน แต่สำหรับ HP Mini 5102 นี้ นอกจากจะเรียบหรูแล้ว สีที่ใช้ก็เป็นสีสันสดใส ทำให้ได้ทั้งความเรียบหรูและความมีสีสัน มีชีวิตชีวานั่นเอง



การออกแบบทั้งภายนอกรอบๆ เครื่องที่ดูเรียบหรูดูเหมือนยังไม่พอ หากเปิดเครื่องขึ้นมาใช้งาน ความสะดวกสบายในการใช้งานก็มาพร้อมกับความหรูหรา ขอบจอสีดำแบบแพนด้า คีย์บอร์ดชิคเคลท และที่วางมือซ้ายขวาที่เป็นโลหะสีด้าน ทั้งสามส่วนล้วนทำให้เครื่องดูดี



อย่างไรก็ตาม ส่วนที่เป็นทัชแพดนั้น อาจจะโบราณไปสักนิดเพราะเป็นแบบบุ๋ม ไม่ได้อยู่ในระนาบเดียวกันกับที่วางมือ แต่วัสดุที่ใช้เป็นแบบมันวาว ทำให้ดูเด่นสะดุดตากว่าปกติ สวยไปอีกแบบ



การที่ตัวถังเป็นโลหะนั้น นอกจากจะให้ความรู้สึกเรียบหรูแล้ว รอยนิ้วมือก็ติดยากกว่าด้วย ตัวเครื่องจะบางกว่าที่เป็นพลาสติก แต่น้ำหนักกลับพอๆ กัน



ตัวปุ่มและที่วางมือใช้เป็นแบบสีด้าน โดยพื้นที่รอบๆ ปุ่มและทัชแพดใช้เป็นสีมันวาว ออกแบบได้ลงตัวจริงๆ สวยจับใจ



ตามสไตล์ของ HP Mini ที่จะต้องมีปุ่มเปิดปิด WiFi แยกอิสระออกมาให้ใช้งานได้สะดวกๆ



สีสันภายนอกเครื่องจะออกแนวทูโทน โดยมีสีดำเป็นสีหลัก



พอร์ทต่างๆ ก็เหมือนกับเน็ตบุ๊คมาตรฐาน สำหรับรุ่น Mini 5102 นี้ ช่องเสียบหูฟังและช่องเสียบไมโครโฟนแยกเป็นสองช่องเหมือนเครื่องแบรนด์อื่นๆ เสียที ไม่ต้องไปหาซื้อสายแปลงที่แสนจะหาซื้อยากอีก



นอกนี้ช่องเสียบหูฟังและช่องเสียบไมโครโฟนที่กลับมาเป็นมาตรฐานแล้ว พอร์ท VGA ก็เป็นพอร์ทแบบมาตรฐานเช่นกัน จะถือไปนำเสนองานที่ไหน ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีสายแปลงอีกต่อไป



เครื่องรุ่นนี้มีหูหิ้วมาในตัว โดยพับซ่อนอยู่ใต้เครื่อง ตอนเห็นครั้งแรก ดูเหมือนจะยี้ แต่พอมองหลายมุม ต้องบอกว่า ออกแบบได้เทพมาก มันดูดีกว่าที่คิดไว้



คนที่พกเน็ตบุ๊คไปไหนมาไหนบ่อยๆ คงอยากหิ้วเครื่องไปได้ง่ายๆ ไม่ต้องมาคอยใส่ซอง ใส่เป้ให้พะรุงพะรังอีก ชอบคิดนี้ผมว่าผ่าน เพราะผู้ใช้เน็ตบุ๊คส่วนใหญ่ก็ซื้อมันมาใช้เพราะต้องการความคล่องตัว



ด้านในก็เป็นสีแนวทูโทนเหมือนกัน ดีที่ HP ไม่บ้าจี้ ทำปุ่มเป็นสีเดียวกับที่วางมือด้วย ไม่งั้นคงออกแนวลูกกวาด หมดความหรูไป



คีย์บอร์ดเทพๆ ในอีกมุมมองหนึ่ง



ปุ่มเปิดปิดเครื่องย้่ายมาอยู่ตรงกลางเหนือคีย์บอร์ดเลย คงกลัวหาปุ่มนี้ไม่เจอกันเหมือนที่ผู้ใช้หน้าใหม่หลายคนประสบปัญหานี้มาก่อน ในเครื่องรุ่นก่อนหน้า



สำหรับคนที่ยังใช้ปุ่ม ~ สำหรับเปลี่ยนภาษา อาจมีขัดใจบ้างหากใช้คีย์บอร์ดของ HP Mini 5102 เพราะมันเล็กกว่าปุ่มอื่นครึ่งหนึ่งเลย พอดีผมใช้ Alt + Shift ตามมาตรฐานสากล เลยไม่เดือดร้อน 555



ดูอีกที ที่บอกว่าทัชแพดมันดูสวยกว่าทัชแพดทั่วไป คือมันดูเหมือนเป็นแผ่นฟิลม์มันๆ ดูบางมุมจะดูคล้ายเป็นโลหะ แต่ขนาดเล็กไปหน่อย น่าจะขยายขนาดทัชแพดแล้วลดขนาดปุ่มคลิกซ้ายขวาลงอีกหน่อย



HP Mini 5102 มีบางรุ่นที่เป็นจอสัมผัสแบบมัลติทัช แสดงผลได้ 1366 x 768 พิกเซล เวลาจะพลิกหมุน ย่อขยายภาพ ก็ทำบนจอเลย คนที่เคยใช้ iPhone คงรู้ดีกว่ามันสนุกแค่ไหน



จอสัมผัสสามารถใช้นิ้วควบคุมได้เลย ไม่จำเป็นต้องใช้ปากกาสไตลัส จะใช้ควบคุม บังคับทิศทางหรือวาดลายเส้นก็ใช้งานได้สะดวกสบาย แต่หากต้องการนำเข้าข้อมูลมากๆ แนะนำให้ใช้คีย์บอร์ดดีกว่า

เนื่องจากรุ่นนี้เน้นที่องค์กรธุรกิจและสถานศึกษา คงไม่มีขายปลีกตามร้านค้าไอทีทั่วไป ใครอยากได้ คงต้องไปขอซื้อจากนักเรียน นักศึกษาหรือพนักงานองค์กรธุรกิจใหญ่ๆ เอา

อ้างอิง : engadget.com


แสดงความคิดเห็นได้ที่ http://www.trendypda.com/modules/newb ... wtopic.php?topic_id=19640