หลังจากฝึกการบัดกรีเพื่อเตรียมตัวโมเจ้าตัวน้อยมาสักพัก ผมก็เริ่มเบื่อๆ เพราะรู้ตัวว่าคงต้องฝึกไปอีกพักนึงกว่าจะมั่นใจตัวเอง

ช่วงมานั่งพักระหว่างฝึกรอบต่อไป ผมก็เหลียวไปเห็นเจ้าตัวขาว
นั่งดุ๊กดิ๊กอยู่บนโต๊ะ ท่าทางมีพิรุธ ดูเหมือนมันจะกำลังยิ้มกริ่มกับฝีมือการบัดกรีของผม (คงอีกนาน)

อิอิอิ.... ดีใจนักใช่ไหม... ไอเดียการฝึกก่อนโมผมเริ่มเบี่ยงเบน
ไหนๆบัดกรียังไม่คล่อง ผมฝึกถอดประกอบก่อนก็ได้!!
ว่าแล้วก็เดินไปหยิบน้องตัวขาวมา
ดูท่าทางมันจะรู้ชะตากรรม รู้สึกตัวมันจะขาวซีดกว่าปรกติ

และนี่คือที่มาของการเปลือยเจ้าตัวขาวในครั้งนี้...

อุปกรณ์ชิ้นเดียวที่ผมต้องการในครั้งนี้ก็มีแค่ไขควงสี่แฉกตัวเล็กๆเท่านั้นเอง

สภาพหมดหวังที่จะรอดของเจ้าตัวเล็ก ถ้ามองใกล้ๆจะเห็นมันเหงือตกเชียวแหละ



ก่อนที่จะทำอะไรในตัวเครื่อง อย่างแรกเลยที่ต้องทำคือ ถอดแบตเตอรี่ออก
ทำได้ง่ายมาก เลือนปุ่มล็อกที่อยู่ทางขวา(ให้เห็นปุ่มแดง)



จากนั้นผลักปุ่มสไลด์ล็อกทางซ้ายค้างไว้



แล้วดึงตัวแบตออกตรงๆ แค่นี้ก็หลุดออกมาอย่างง่ายดาย



คราวนี้ก็ถึงเวลาถอดชิ้นแรก...
ดูตรงด้านบนคีย์บอร์ด บริเวณเหนือปุ่ม Pause, F6, ~ จะมีกระดุม เอ๊ย..ปุ่มเล็กๆอยู่ในช่อง อันนี้คือคลิ๊ปหลุด เอ๊ย...คลิ๊ปล็อกของคีย์บอร์ด



หาอะไรกดปุ่มเข้าไปให้สุด คีย์บอร์ดบริเวณนั้นก็จะเผยอขึ้นมาเล็กน้อย และปุ่มก็จะไม่เด้งกลับออกมา



ปลดกระดุม เอ๊ย.. ปุ่มกดให้ครบทั้งสามจุด แล้วใช้นิ้วค่อยๆยกคีย์บอร์ดขึ้นจากฝั่งด้านบน



บริเวณด้านล่างของตัวคีย์บอร์ด จะเห็นช่องอยู่สองช่อง
แต่ละช่องมีสายหนึ่งเส้น
เส้นใหญ่มันคือสายคีย์บอร์ด และเส้นเล็กคือสายทัชแพ็ด
ส่วนเส้นหมี่และเกาหลางานนี้ไม่เี่กี่ยว
ทั้งเส้นใหญ่และเล็กต่อเข้ากับ ZIF Socket บนเมนบอร์ด



การถอดสายแต่ละเส้นให้ระวัง ห้ามใช้แรงฝืนดึง และพยายามอย่าไปหักหรือพับมันโดยเด็ดขาด
วิธีถอด ให้กดที่แกนด้านข้างทั้งสองด้านเพื่อปลดล็อกก่อน
ทัชแพ็ด



คีย์บอร์ด



ปล.ต้องขออภัยที่ภาพมันเบลอๆ คือไม่ได้ใช้แฟลช กลัวน้องเค้าอาย (ป่าวหรอกครับ... ใช้แล้วมันยิ่งมองไม่เห็นเลย)

หลังจากปลดล็อกแล้ว ก็ค่อยๆเลื่อนสายออกไปจาก socket โดยไม่ต้องใช้แรงดึงสักนิด ถ้าดึงแล้วติดแสดงว่าปลดล็อกไม่สุด

อันนี้คือสายคีย์บอร์ดที่เลื่อนออกแล้ว



จากนั้นก็ยกคีย์บอร์ดให้หลุดจากขอเกี่ยวด้านล่าง
คีย์บอร์ดก็จะหลุดออกมาอย่างง่ายดาย เอาไปวางไว้ที่อื่นก่อน
หรือจะเอาไปรองแก้วน้ำก่อนก็ได้ แต่ผมไม่รับผิดชอบนะ...

เอ๊ะๆ นี่อะไรสีเหลืองๆอยู่ใต้คีย์บอร์ด
อ้อ....สติ๊กเกอร์ห้ามเข้านี่เอง



ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ...นี่แน่ะ นี่แน่ะ



เฮ่อ....งวดนี้บทความทั้งติดเรท ทั้งมั่วซั่ว งั้นผมขอตัวพักก่อนนะครับ
เด๋วมาอัปใหม่จนจบ เหลืออีกบานเลยก็จะเปลื้องหมด

ติดตามกันครับ ว่าหลังจากน้องขาวถูกเปลื้องเป็นชิ้นๆแล้ว
เค้าจะรอดชีวิตกลับมาดังเดิมหรือไม่? โปรดติดตามตอนต่อไป

ปล. ครั้งนี้ถ้ามีพิมพ์ผิด พิมพ์ตก ขออภัยด้วยครับ
ใช้น้องขาวทำทั้งหมดน่ะครับ
อุ๊บ... มะกี้เพิ่งจะโปรยหัวปิดท้ายว่าน้องเค้าจะรอดหรือเปล่าหลังถอด
โปรยเองเฉลยเองซะงั้น....

ปูเสื่อรอชมครับ

มาต่อรอบสองละครับ

หลังจากทลวงป้ายห้ามเข้าแล้ว ก็ถึงเวลาปลดล็อก
ด้านบนใต้คีย์บอร์ดจะมีล็อกให้ปลดทั้งหมดอยู่ด้วยกัน 9 จุด
เอาออกให้หมด อย่าให้เหลือ



จับน้องเค้าพลิกกลับหลัง
ด้านหลังมีให้ปลดอีก6จุด



แต่เอ๊ะ.... อันไรมาขวางกั้น
อ้อ... ป้ายห้ามผ่านอีกและ



โช๊ะ.... เช๊ะ.... ลาก่อนการรับประกัน



ตอนนี้เรามีน๊อตที่ถอดออกมาจากด้านหน้า9ตัว ด้านหลัง6ตัว
เอาทั้งหมดมากองรวมกัน...
อิอิอิ แค่จะบอกว่าไม่ต้องห่วงว่าสองชุดมันจะปะปนกัน
เพราะขนาดและความสูงมันเท่ากันหมด

ที่ภาพมันไม่ชัดไม่ได้เกิดจากการไม่ใช้แฟลช แต่เพราะว่ามันไม่โฟกัสครับถ่ายลักษณะนี้ต้องใช้ Macro

มาต่อกันเลย
ขั้นนี้จะเป็นขั้นตอนที่ยากขึ้นหน่อย เพราะเราต้องค่อยๆแกะ ค่อยๆแงะ
พยายามไม่ง้าง หรืองัด ไม่งั้นเขี้ยวล็อกเล็กๆ หรือตัวเคสพลาสติกอาจแตกได้

เริ่มจากหัวมุมทางฝาพับด้านขวาดีที่สุด
ค่อยๆใช้เล็บอ้าออก...ไม่ต้องใช้แรงมาก
พยายามหาจุดที่เป็นเขี้ยวเล็กๆระหว่างแผ่นบนกับล่าง



ไล่ขึ้นไปจนหูพับด้านขวาหลุดออกทั้งสองส่วน
(หลุดนะครับ ไม่ใช่หัก)



ด้านหลังของหูพับ มันมีสลักเล็กๆอยู่ ลักษณะนี้



จากจุดนี้ไปก็ง่ายแล้วครับ
ค่อยๆใช้เล็บไล่เลาะตามขอบไปทางซ้ายเรื่อยๆ
ให้สลักมันหลุดออกทีละจุดไป



ไล่มาจนถึงหูพับด้านซ้าย
ปลดในลักษณะเดียวกับหูด้านขวาครับ



แล้วก็ไล่มาเรื่อยๆจนถึงด้านหน้าทางซ้าย บริเวณที่เป็นช่องหูฟังกับไมค์
ตรงนี้ระวังนิดนึง เพราะฝาด้านบนมันคล้องกับสองช่องนี้
ค่อยๆแง้มให้มันพ้นแล้วยกขึ้น



จากจุดนี้ไป ด้านหน้าก็ไม่มีอะไรแล้วครับ ใช้เล็บเลาะช่องไปเรื่อยๆ
ล็อกก็จะหลุดไปเองทีละจุด พอถึงขอบด้านขวา
ฝาด้านบนก็จะหลุดออก เห็นเครื่องเคราภายในของน้องเราได้อย่างชัดเจน

ต่อกันเลยนะ...
เรามาดูเมนบอร์ดด้านบนกันแบบหน้าตรงก่อนครับ



ด้านซ้ายบนของบอร์ด จะมีสายต่อมาจากฝาหน้าจอ
มันคือสายลำโพง(2เส้น) และสายจากกล้อง(4เส้น)
ทั้งสองเส้นต่อเข้าเมนบอร์ดด้วย JST Socket 4และ2 พิน



มาดูเรื่องสายต่อกล้องเพิ่มเติมสักนิดครับ
หัวต่อจะเป็นลักษณะเหมือนรูปด้านล่าง



สายสี่เส้นที่ต่อเป็นแบบหัวJST ที่จริงมันก็คือสายUSBธรรมดา
ตรงจุดนี้เอง ที่เว็บนอกบางที่เค้าใช้เป็นจุดต่อเพิ่มอุปกรณ์ภายใน
โดยทำหัวต่อJSTตัวผู้ ต่อเข้าเมนบอร์ดตรงจุดนี้
แล้วเอาปลายไปต่อเข้ากับ USB HUB
จากนั้นก็ต่อสาย USB ออกมาเป็นหัว JST ตัวเมีย
แล้วก็เอาปลายสายจากกล้องมาต่อเข้า
ก็เป็นอันได้ USB เพิ่มขึ้นมาอีกสามพอร์ต

ปล. ถ้าจะโมจากจุดนี้ ต้องระวังเรื่องสีของสาย เพราะมันไม่ได้ใช้สีปรกติ (เขียว,ขาว,แดง,ดำ) ต้องหาข้อมูลให้ถูกต้องก่อนว่าเส้นไหนคืออะไร
และการต่อจากกล้อง ไม่เหมาะที่จะเอาไปต่ออุปกรณ์ที่มันกินไฟเยอะ ไฟเลี้ยงมันจะไม่พอ

โอเค...เรามาจัดการกันต่อ...

ก่อนที่จะถอดเมนบอร์ดออกมา เราจะต้องถอดสายที่ต่อจากฝาหน้าจอ2จุด และใต้เมนบอร์ด1จุด (จริงๆจะยกพับไปที่หน้าจอเลยก็ได้ แ่ต่ไม่แนะนำให้ทำ เพราะอาจทำให้สายรั้งเสียหายได้)
ปลดทั้งสามจุดออกจากเมนบอร์ดครับ



ก่อนจะยกแผงเมนบอร์ดขึ้น ให้ถอดจุกอุดช่องโมเด็มออกเสียก่อน
ไม่งั้นมันจะติดเวลายกขึ้น



ด้านล่างของเมนบอร์ดจะมีีสลักที่จับอยู่สองจุด แค่ดันเบาๆก็หลุดออกแล้ว
จากนั้นค่อยๆยกเมนบอร์ดขึ้น จุดที่จะยกขึ้นยากหน่อยคือบริเวณด้านข้าง
ที่มันจะมีพอร์ตต่างๆ(LAN, Modem,USBอยู่ด้านซ้าย และVGA,USBด้านขวา) พอร์ตมันจะสอดอยู่กับตัวกรอบ ค่อยๆขยับกรอบออกทีละนิดให้พ้นตัวบอร์ด
ก็จะยกบอร์ดขึ้นได้ไม่ยาก



หลังยกบอร์ดขึ้นแล้ว ผมก็พลิกกลับด้าน เอาบอร์ดไปวางบนฝาจอ
ในรูปที่เห็นเป็นสีเงินๆคือบริเวณที่เป็นตัวฐาน
เราก็จะเห็นด้านใต้ของเมนบอร์ดได้สะดวก



เหนื่อยละ ไว้มาดูจุดที่ผมจะโมบนบอร์ดกันในคราวหน้านะคับผม

นับถือๆ

เยี่ยมยอด ๆ

เท้าความนิดนึงครับว่าชิพเซ็ตที่ใช้ในน้องขาวของเรามันมี 6 USB
ทีนี้ลองนึกๆว่าใช้ิUSBตรงไหนไปแล้วบ้าง....
1-3.ช่องต่อUSB 3จุด ด้านข้างเครื่อง(ซ้ายหนึ่งขวาสอง)
4.กล้อง (ที่เห็นเป็น4สายในช่วงแรก)
...ทัชแพ็ดและคีย์บอร์ดไม่ใช่USB มันเป็น PS/2
เอ้อ...ตกลงหายไป 2
มันหายไปไหน....

กลับมาที่เมนบอร์ดของเราต่อ
ยังคงอยู่ด้านหลังของเมนบอร์ดนะครับ
บริเวณทางซ้ายด้านบน มองดูดีๆจะเห็นการ์ดMini PCI-E หนึ่งตัว ที่มีสายต่อบนการ์ดสองเส้น อันนี้คือ การ์ด Wifi

ถัดมาข้างขวานิดหน่อย
เราก็เจอพอร์ต Mini PCI-E จุดที่สอง
เครื่องรุ่น7A จะเป็นSocket ยื่นออกมา
ไว้ใช้เสียบอุปกรณPCI-Eเพิ่ม์ได้ในอนาคต
แต่สำหรับเครื่องตั้งแต่ล็อต 7B จะไม่มีSocket
กลายเป็นจุดเปล่าทิ้งไว้เฉยๆ
ซึ่งคงไม่สามารถเอาไปใช้งานอะไรได้ (เหมือนของผมในรูปนี้)


พอร์ต PCI-E ทั้งสองจุดนี่เอง ที่มีขุมสมบัติซ่อนอยู่
USBที่หายไป 2 จุด มันมาซ่อนอยู่บน PCI-E นี่แหละ
ที่ว่ามันซ่อนอยู่ คือมันไม่ได้เอาสัญญาณไปใช้อะไรเลยสักนิด
ทิ้งไว้เปล่าๆซะงั้น

มาดูใกล้ๆกันนิด ดูดีๆจะเห็นขีดและหมายเลขบอกเลขขาเป็นช่วงๆ
(ไม่ต้องเพ่งครับ ในรูปมองไม่ค่อยจะเห็นหรอก
ฝีมือถ่ายรูปผมได้แค่นี้ )


ขามหาสมบัติ....
ขาที่ 36 คือ USB Data - (ปรกติใช้สายสีขาว)
ขาที่ 38 คือ USB Data + (ปรกติใช้สายสีเขียว)

ที่ต้องทำในการโมเอาUSBที่ทิ้งเปล่ามาใช้งานคือ เอาสายUSBมาบัดกรีเชื่อมต่อที่สองจุดนี้ เพื่อเอาสัญญาณออกมา
ปัญหาทีผมติดอยู่ ยังไม่ได้ลงมือทำก็คือเรื่องฝีมือการบัดกรีของผมนั่นเอง
เพราะนอกจากฝีมือบัดกรีผมจะเข้าขั้นมารแล้ว
ขนาดของจุดที่ผมต้องบัดกรีครั้งนี้ ทำให้ผมไม่มีความมั่นใจเอาซะเลย


ตามที่เห็นในรูป(เบลอๆ)ครับ ว่าจุดมันเล็กขนาดไหน
เอาแค่ทางซ้ายที่มีอยู่8จุดละกัน มันมีความกว้างแค่ 5mm !!!
หมายถึงช่วงห่างของสองจุดจะกว้างไม่ถึง 1mm


เราได้สองจุดที่เป็นสัญญาณUSB +,- แล้ว
คราวนี้ก็ต้องมองหาอีกสองจุดที่จะเอามาเป็น 5V+กับจุดกราวน์(สายดิน)กัน
อันนี้ไม่ยาก จากการศึกษาแล้วค้นคว้าอย่างละเอียดถี่ถ้วน...
แหะๆ ปล่าวหรอก ผมอ้างอิงจากเว็บนอกที่เค้าทำไปแล้ว
ไฟเลี้ยงบนบอร์ดมีจุดที่สามารถต่อได้คือบริเวณด้านบนของ Wifi Card
ส่วนสายดินก็อยู่ไปทางขวา ไม่ไกลกันออกไปเท่าไหร่
ผมก็เลยลองตัดสายUSBไปวางเทียบให้ดูว่าจะต้องบัดกรีต่อจุดไหนบ้าง
ได้ความดังนี้

สีของสายในภาพ
ดำ: สายดิน
เขียว : สัญญาณ USB+
ขาว : สัญญาณ USB-
แดง: ไฟ5VDC (แปลว่าห้ามสลับขั้วกัน ไม่งั้นพัง90%)
*** รูปข้างบนนี้ ห้ามใช้ในการกำหนดจุดบัดกรี ผมวางสายไว้ดูเฉยๆว่าแต่ละสายต้องอยู่บริเวณไหน โดยเฉพาะขาสัญญาณ

ก็เป็นอันเสร็จการชำแหละ เอ๊ย... การเปลือยน้องตัวเล็กแล้วครับ
จากนั้นผมก็เอาทุกอย่างประกอบกลับเข้าไปเหมือนเดิม
ง่ายๆ ทำทุกอย่างถอยหลังจากตอนถอดออก แค่นั้นเอง

หลังประกอบเสร็จ... มันมีเกินมาหนึ่งอย่าง...
ผมก็เลยเอามันแปะกลับเข้าไป นั่นคือ


ทำไปงั้นแหละครับ สติ๊กเกอร์แบบนี้ เวลาลอกออก
กาวด้านหลังมันจะดึงให้ผิวด้านหน้าหลุดออกไปด้วย
เห็นเป็นคำว่า VOID อย่างชัดเจน
ไม่มีผลกับการประกันครับ มันขาดไปตั้งแต่แกะออกแว้วว

ไหนๆ ลองเปิดเครื่องดู...
เอ้อ.... น้องผมยังทำงานได้ดีเหมือนเดิม รอดไป(ในครั้งนี้)

โฮ....
นั่งอ่านไปใจระทึก
อืม....
น่ากลัวจัง

ใจถึงดีครับ ยอมรับ

นับถือ นับถือ

แป่ววววว..... ว่าแล้วเชียว ว่าลืมอะไรไปอย่าง
นึกๆอยู่ตั้งนาน....

อุตส่าห์เปลื้องน้องเขาขนาดนี้แล้ว ผมดันลืมเปลื้องให้หมด...
ลืมอะไรพอนึกออกไหมครับ
ก็กรอบหน้าจอไง.... เฮ่อ... ลืมสนิทจริงๆ
มานึกได้เอาตอนตัดต่อสาย Bluetooth Dongle จะไปใส่ข้างในกรอบจอนั่นแหละ...
โอย....ลืมซะได้

น้องตัวขาว ถอดแล้วก็ถอดใหม่ได้ เสน่ห์แรงออกจะอย่างงั้น

ขออนุญาตลากไปหน้าข่าวหน้าแรกด้วยนะครับ

ช่วงนี้ ชอบถอดเสือผ้าสาวๆ ขาวๆ จังนะครับ ระวังคนทีบ้านน้อยใจ อิอิ สนใจแต่น้อง eee อิอิอิ
อะ ล้อ เล่น อย่าลืมเอาบทความ คันไม้คันมือมาโชว์ให้เพื่อนชาว eee ติดตามอีกนะครับ นายมันยอดมาก 555

ยอดเยี่ยมเลยครับ...
ผมเองไม่กล้าทำกับน้องเค้าอย่างนี้แน่ๆ หุหุ

ช่างอาชีพต้องชิดซ้าย

ขั้นเทพในการ ถอด ... .... ???