ตอนที่ Acer วางตลาด Acer Aspire One Happy รุ่นแรก บอกตรงๆ ว่าไม่รู้ว่า Acer จะเน้นตลาดนี้มากมายขนาดนี้ คิดว่าคงจะวางตลาดสำหรับกลุ่มตลาดเล็กๆ เท่านั้น แต่ด้วยสีสันที่สะดุด (สุดๆ) ของมัน ทำให้มันดูมีเอกลักษณ์กว่าเน็ตบุ๊คอื่นๆ ที่มักมีสเปคเดียวกัน
Acer Aspire One Happy 2 นี้ยังคงอิงสเปคต่างๆ ของเน็ตบุ๊คมาตรฐานทั่วไป คือมีหน้าจอ 10.1" แสดงผลที่ความละเอียด 1024 x 600 พิกเซล มีปุ่มคีย์บอร์ใหญ่เกือบเท่าขนาดมาตรฐาน การเชื่อมต่อไร้สายมีทั้ง WiFi 802.11 b/g/n และ Bluetooth โดยจะมีรุ่นที่ใส่ซิม 3G ให้เผื่อเลือกด้วย
สิ่งที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจากรุ่นก่อนคือ Aspire One Happy 2 นี้จะใช้ซีพียู Intel Atom N570 1.66 GHz ที่ทำงานแบบ dual core โดยมีชิพประมวลผลกราฟฟิค Intel GMA 3150 และหน่วยความจำภายใน 1 GB เท่าเดิม อย่างไรก็ตาม ด้วยการอัพเกรดซีพียูให้แรงขึ้นนี้ ประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมย่อมดีขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผลทั่วไปหรือการประมวลผลกราฟฟิค
กล้องเว็บแคมที่อยู่เหนือจอมีความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล โดย Acer ได้แถมโปรแกรม Acer Video Conference Manager สำหรับใช้อำนวยความสะดวกในการใช้งานให้ด้วย
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตพื้นฐานนอกจากทาง Ethernet LAN แล้วก็มี WiFi 802.11 b/g/n และ Bluetooth 3.0 HS+/ Bluetooth 2.0 +EDR และในบางรุ่นจะมีระบบ WWAN สำหรับใส่ซิมการ์ด 3G ด้วย
เอกลักษณ์ของ Acer Aspire One Happy ไม่ได้อยู่ที่สเปคเทพ แต่เป็นสีสันที่สดใส แข็งแรง เอ้ย หวานแหวว โดยในรุ่นใหม่นี้จะมีสี Pink peach, Lemon yellow, Orange, Papaya และ Blue curacao ทุกสีล้วนเป็นโทนสีสดๆ แรงๆ เหมาะสำหรับวัยแรกรุ่นมากๆ
ระบบปฏิบัติการที่ให้มามีทั้ง Windows 7 Starter และ Android แบบ Instant On และแน่นอนว่าคงมีแบบเครื่องเปล่า ไม่มีระบบปฏิบัติการขายด้วย
แบตเตอรี่มีสองแบบคือ 6 เซลล์ 48 Whr ใช้งานได้นาน 8 ชั่วโมงและแบบ 3 เซลล์ 24.4 Whr ใช้งานได้ 4 ชั่วโมง
ปุ่มคีย์บอร์ดของเน็ตบุ๊ค Acer Aspire One ทุกรุ่นในปัจจุบันมีปุ่มที่ใหญ่ พิมพ์ได้สะดวก แถมมีทัชแพดแบบมัลติทัชขนาดใหญ่มาให้ด้วย และแน่นอนว่านอกจากมีรุ่นที่ใช้ซีพียู Intel Atom N570 แล้ว ในตลาดบางประเทศจะมีวางขายรุ่นที่ใช้ซีพียู Intel Atom N475 1.66 GHz แบบ single core โดยฮาร์ดดิสก์ที่ให้มาน่าจะเป็น 250 GB แทนที่จะเป็น 320 GB ที่มีในรุ่นซีพียู dual core
เชื่อว่าอีกไม่นาน เราคงได้เห็น Acer Aspire One Happy 2 นี้วางขายในบ้านเรา ใครที่ยังต้องการใช้งานเน็ตบุ๊คอยู่ รุ่นนี้ก็ถือว่าน่าสนใจ ราคาน่าจะไม่แพงอย่างแท็บเล็ตที่เป็นตลาดขาขึ้นอยู่แน่นอน
อ้างอิง :
notebookitalia.it