มือวาง
เป็นสมาชิกเมื่อ: 15/5/2007 16:45
กลุ่ม:
สมาชิก
|
พระพุทธองค์ทรงตรัสถึงลักษณะของความโกรธว่า มีรากเป็นพิษมียอดหวาน ที่ว่ามีรากเป็นพิษหมายความว่าในเบื้องต้น ความโกรธจะแสดงพิษสงต่อจิตใจ ทำให้หงุดหงิด เร่าร้อน เดือดดาล จึงต้องรีบระบายความหงุดหงิด เร่าร้อง เดือดดาลออกไปโดยเร็ว ด้วยการด่าว่าทุบตีหรือทำลายบุคคลหรือสิ่งของที่เป็นต้นเหตุให้โกรธ เมื่อได้ทำจนสาแก่ใจแล้วในบั้นปลายจะรู้สึกโล่งใจ สบายใจ จึงเรียกว่ามียอดหวาน
เมือความโกรธรุมเร้าแผดเผาจิต ใจมืดมิดหลงคิดผิดวิสัย เรื่องฉิบหายร้ายกาจขนาดใด ล้วนทำใด้ขอเพียงแค่สาแก่ใจ
เมื่อความโกรธเริ่มก่อตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย เราไม่มีสติรู้เท่าทัน ไม่รับระงับเสีย ปล่อยให้ลุกลามมากขึ้น ๆ ในที่สุดก็ควบคุมไม่ได้ ดังนั้นเวลาเริ่มจะโกรธจงมีสติรู้ทันอย่าปล่อยใจไปติดกับความโกรธ
โทษผู้อื่นแลดูเหมือนภูเขา โทษของเราแลไม่เห็นเท่าเส้นขน ตดคนอื่นเหม็นเบื่อเราเหลือจะทน ตดของตนถึงเหม็นไม่เป็นไร
คติที่ได้จาดชาดก แผ่นดินนี้ไม่อาจทำให้ราบเรียบเสมอกันหมดได้ ฉันใด มนุษย์ทั้งหลายจะให้คิดเหมือนกันหมดก็ไม่ได้ ฉันนั้น ดังนั้น อย่าโกรธหรือเดือดเนื้อร้อนใจ เมื่อคนอื่นมีความเห็นไม่เหมือนเรา หรือทำไม่ถูกใจเรา ไม่อยู่ในบังคับบัญชาของใครๆตัวเราเองแท้ๆ ยังไม่รู้ใจทำไม่ถูกใจเรา แล้วคนอื่นจะรู้ใจ ทำถูกใจเราได้อย่างไร ?
จะหาใครเหมาะใจที่ไหนเล่า ตัวของเรายังไม่เหมาะใจหนา อนิจังทุกขังอนัตตา รู้ล่วงหน้าเสียก่อนไม่ร้อนใจ
บุคคลในโลกนี้ บางคนเป็นคนจู้จี้ขี้บ่นขี้โมโห ชอบเอาแต่ใจตัวเองอ่อนไหวง่าย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย โกรธง่ายแม้เรื่องเล็กน้อยไร้สาระ โกรธไปหมด ถึงลมฟ้าอากาศและสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรา ดังสำนวนที่ว่า ฝนตกก็แช่งฝนแล้งก็ด่า แต่หายเร็วเหมือนรอยขีดในดิน เมื่อถูกน้ำเซาะหรือลมพัดก็เลือนหายได้ง่าย
โพสเมื่อ : 21/1/2008 8:47
|