อืม... จนได้...

หลังจากโพสไปได้แป๊ปเดียว ผมก็หาๆอ่านรีวิวเกี่ยวกับเจ้านี่
ปรากฏว่ามีคนชอบมันเยอะแฮะ บางคนขนาดบอกว่าใช้แล้วขาดไม่ได้
ไม่ค่อยเห็นมีใครติ แสดงว่ามันต้องเวิร์กในระดับนึงแหละ

ว่าแล้วผมก็เปิดประตูเข้าร้าน ebay ทันที
ลองหาร้านที่มันราคาถูกที่สุด...
ก็มาเจอร้านนึงที่ตั้งไว้ $99.99 (จะเหลือ $0.01 ไว้ทอนรึไง)
ราคานี้รวมค่าจัดส่งเรียบร้อยแล้ว...
ร้านนี้อยู่ที่สิงค์โปร์ เพื่อนบ้าน ใกล้นิดเดียว น่าจะใช้เวลาส่งไม่นานมาก
คงราวๆ 7-10 วัน แล้วแต่อารมณ์ของไปรษณีย์
หน้าร้านตามลิงค์ข้างล่างครับ

http://cgi.ebay.com/Duo-Laptop-Pen-Gr ... 3D12%26po%3DLVI%26ps%3D54

เป็นอันว่า ผมแพ้กิเลสอีกครั้ง....
คลิ๊กจ่ายด้วย paypal เพื่อนผู้รู้ใจ เจอหน้าเพื่อนคนนี้ทีไรเสียตังทุกที
แปลงเป็นเงินไทยตามอัตราบัตรที่ผมใช้ ออกมาประมาณเกือบๆ 3,500 บาท (คิดเรตแพงนะเนี่ย)

ก็เป็นอันว่าเดี๋ยวของคงมาถึงตอนผมกลับจากเวียดนามพอดี
ลองใช้แล้วเป็นยังไง จะเข้ามารีวิวแบบบ้านๆให้ฟังอีกทีนะครับ

ยังจำได้ว่าตอนที่ผมใช้ eeePC 701 ผมก็จับมันโมใส่ทัชสกรีน
ใช้งานสะดวกเอามากๆ ยังติดใจอยู่ถึงตอนนี้

มาตอนนี้คบกับน้องวรรณ์ ไม่มีทัชสกรีนแล้วเหมือนกินข้าวด้วยส้อม...
ก็เลยลองหาโมดูลทัชสกรีนสำหรับจอ 11'6" ปรากฏว่า... ไม่มี
(อีกสักพักคงมีออกมา แต่ยังไม่มีในตอนนี้)
เลยรู้สึกขมขื่นเล็กน้อย....

วันก่อนบังเอิญไปเจอเว็บนึง ความหวังก็เกิดขึ้น
เหมือนได้ไม้ขีดไฟในถ้ำ... ถึงไม่สว่างมากก็พอเห็นทาง
มันไม่ใช่จอทัชสกรีน แต่เป็นโมดูลที่เอาไปติดด้านบนของหน้าจอ
แล้วก็ใช้ปากกาคล้ายๆสไตล์ลัสลากๆจิ้มๆเอาบนหน้าจอปรกติเอา
รู้สึกว่าจะใช้เป็นคลื่นอุลตราโซนิคในการจับทิศทางและระยะ
เท่าที่อ่านๆ ก็น่าสนใจไม่ใช่น้อย
หาข้อมูลได้จากเว็บลิงค์ด้านล่างครับ

http://www.converttotouch.com/index.html

หรือ

http://www.penandfree.com/

สำหรับเรื่องราคา เท่าที่หาได้ใน ebay อยู่ที่ $100
หรือประมาณ 3,400 บาท (รวมค่าส่ง)

ตอนนี้กำลังตัดสินใจครับ ว่าจะเอามาลองดีรึเปล่า...
หาข้อมูลอีกนิด แต่สงสัยจะไม่พ้น กิเลสมันห้ามยาก...

ไว้สั่งแล้วของมาถึง จะลองรีวิวเล็กๆให้นะครับ

หลังจากได้ข่าวเกี่ยวกับ T91 กับ T101H มาเป็นเดือนแล้ว
สงสัยมากๆเลยว่าเมื่อไหร่มันจะออกมาขายสักที
แล้วราคามันจะอยู่สักเท่าไหร่กัน...
ใครพอมีข้อมูลความคืบหน้าในตอนนี้ไหมครับ

ผมชอบสองตัวนี้ตรงที่มันเป็นทัชสกรีนนี่แหละ จริงๆตอนนี้ผมก็ใช้โน๊คบุ๊ค กับ เน็ตบุ๊ค Acer Aspire One 751H อยู่แล้ว แต่เจ้า eeePC นี่ผมจะเอาไปโมติดรถยนต์อ่ะครับ คันไม้คันมือแล้ว รอน๊านนาน...

คือว่าอาการที่เป็น ผมเสียบUSB HUBไว้เฉยๆ โดยไม่ได้เสียบอุปกรณ์อะไรเลย มันก็เป็นครับ...
ผมเสียบแฟลชไดร์ฟที่ตัวเครื่อง...

เรื่องของเรื่องคือ วันนึงผมเอา USB HUB มาเสียบใช้งาน
พร้อมกับเสียบ USB Flash Drive อีกอันนึง

อาการประหลายก็เกิดขึ้นกับ Flash Drive ทันที (ทั้งๆที่ก่อนหน้าไม่เคยมีปัญหา)
อาการที่เจอก็คือ มันจะคอยบอกว่า Cache Write Error เขียนไม่ได้ ประมาณนั้น

แรกๆผมก็งง... นึกไม่ออกว่ามันเป็นอะไร
ลองถอดเมาส์ที่เสียบไว้.... อาการเป็นเหมือนเดิม
แต่พอเอา USB HUB ออก อาการที่ว่าก็หายไป....
ลองสลับเสียบช่องอื่น... ก็เป็นเหมือนเดิม
เรียกว่าเจ้า USB HUB ตัวนั้น กับ Flash Drive มันไม่ยอมร่วมทางกัน
อะไรกันเนี่ย.... ไม่เชื่ออย่าลบหลู่จริงๆ

ใครเคยเจออะไรแปลกๆเหมือนผมรึเปล่าครับ

มาอัปอีกทีครับ...
สรุปว่าไม่ได้เอาไปเปลี่ยน เพราะนับวันผิดไปหนึ่งวัน.. มันเกินเจ็ดวัน เฮ่อ...

แต่สุดท้ายที่ลองแก้ไขไปก็คือ ผมไปเปลี่ยน ACPI จาก Uniprocessor ไปเป็นตัวอื่น (จำชื่อไม่ได้) ปรากฏว่าอาการแฮงค์แทบจะหายไปเลย
นานน๊านนนจะเป็นสักที.... ก็ยังดีครับ เพราะคอยเซฟบ่อยๆก็ไม่หงุดหงิดอะไรมากมาย....

เสียดายจัง จริงๆผมถ่ายรูปหลังแว๊กซ์ไว้เหมือนกัน
แต่ดูในภาพมันไม่ค่อยเห็น ก็เลยไม่ได้ลงรูปอ่ะครับ
แว๊กซ์ให้มันลดรอยนิ้วเวลาจับส่วนที่เงา กับกันเป็นรอยได้บ้างก็โอแระครับ

ปล. ตอนนี้ยังอินกับน้องวรรณ์ แต่ก็มีใจโอนเอียงไปรอคอยน้องอี T101H อยู่ไม่น้อย.... น้องวรรณ์อาจต้องมีเคืองตอนน้องอีแบบสัมผัสได้ออกมา คิคิคิ

ตามประสาคนชอบลองเรื่อยเปื่อยครับ...

วันก่อนหลังจากล้างรถ แถมลงแว๊กซ์เคลือบสีเสร็จ... เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน...

กำลังจะเอาขวดแว๊กซ์ไปเก็บ ก็เหลือบไปมองเห็นน้องวรรณ์กำลังนั่งเล่นร้องเพลง MP3 ให้ผมฟังตอนล้างรถ....

อืม..... อืม.....
อิอิอิ....

ว่าแล้วก็หยิบน้ำยาที่ใช้กับรถสองขวด กับผ้าเช็ดรถ เดินไปหิ้วน้องวรรณ์เข้าบ้านไป...

ขวดแรก.... Meguiars Synthetic Sealant No.21
ขวดที่สอง... Meguiars Quick Interior Detailer
ผ้าไมโครไฟเบอร์ ของอะไรจำไม่ได้ละ คงเป็นของ Meguiars เหมือนกัน

หลังจากได้ที่ได้ทาง... ก็ปิดตาน้องวรรณ์ (ปิดเครื่อง) แล้วก็จับหงายท้องทันที....
จากนั้นก็สำรวจดูรอบๆร่างกายเธออีกที...
อืม.... มีบริเวณที่เคลือบ(แลกเกอร์) กับบริเวณที่เป็นสีด้านๆ

แต่.... ก่อนเริ่มปฏิบัติการ ลองเอาน้ำยาแต่ละประเภทไปแต้มเล็กๆ ตรงที่จะใช้ดูก่อน...

No.21 เป็นตัวที่ใช้เคลือบสีรถภายนอก ใช้บริเวณที่มีการเคลือบ...
QT เป็นตัวที่ใช้ทำความสะอาดและเคลือบพวกคอนโซลภายในรถ อันนี้ใช้กับบริเวณที่เป็นสีด้าน

แต้มไว้ที่มุมๆนิดหน่อย ทิ้งไว้พักนึง แล้วลองเช็ดออก... ลองดูว่าสีมันจะด้านหรือจางลง หรือมีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า... ถ้ามีจะได้หยุด ไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง

อืม... สภาพดูดี ไม่มีปัญหาอะไร สียังเป็นปรกติดีอยู่
งั้นเริ่มปฏิบัติการเลย

เคลือบ No.21 ตรงที่เป็นสีเคลือบ ทำเหมือนเคลือบสีรถนั่นแหละ ลงน้ำยาวนเป็นก้นหอย ทำทีละส่วน ให้ทั่วๆ อันนี้หลักๆก็ตรงฝาด้านหลัง กับทุกจุดที่มันเคลือบเงามา... จากนั้นก็เช็ดออกด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์เบาๆ เช็ดออกจนทั่ว แล้วก็ทำเหมือนเดิมอีกรอบ (เคลือบสองรอบเหมือนรถเลย)

แล้วก็ QT ตรงที่เป็นสีด้าน ก็บริเวณคีย์บอร์ด, ใต้เครื่อง... อันนี้รอบเดียวพอ หลายรอบไปก็ไม่ช่วยอะไร

เสร็จละ....
โอ๊ว... น้องวรรณ์ผมดูเงางามขึ้นมั่กๆ ลองเอานิ้วจิ้มที่ฝาดู อืม... รอยนิ้วไม่ค่อยติดเหมือนเดิม ลื่นสบายนิ้วดีชมัด....
(ปล. น้ำยาเคลือบนี่มันจะช่วยลดการเกิดขนแมวได้ด้วย แต่ผมไม่กล้าลอง)

บริเวณที่เป็นสีด้านก็ เรียบลื่น ลูบแล้วสบายมือ....

สรุปว่า โอเคเลย... สำหรับการเอาน้ำยาเคลือบสีรถมาใ้ช้กับน้องวรรณ์
คงจะทำมันสักเดือนละครั้ง คงช่วยได้เยอะ...

ใครอยากลองก็ลองดูนะครับ... อิอิอิ

ปล...
1. จุดที่ไม่ควรเอาน้ำยาใดๆไปสัมผัสเลยคือ หน้าจอ... เช็ดด้วยน้ำเปล่าหมาดๆก็พอ...
แล้วก็บริเวณทัชแพด... ทาแล้วลื่นๆ บางทีใช้ยากขึ้น

2. อย่าใส่น้ำยาจนโชก เอาแบบพอหมาดๆก็พอ โดยเฉพาะเวลาเช็ดคีย์บอร์ด มันจะย้อยลงไปที่ฐานคีย์บอร์ดได้ เอาออกยาก

3. ถึงจะเอาแว๊กซ์ของรถมาใช้ แต่พวกเครื่องปั่นขัดเคลือบนี่เก็บไปเลยนะครับ อย่าได้เอามาลองเชียว :D

เข้ามารอ........

รอ..... ร๊อ......รอ.......
เมื่อไหร่.... เท่าไหร่..... น๊อ........

แหม.... หันไปคบน้องวรรณ์ชมพูได้แป๊ปเดียว
มีของมายั่วน้ำลายอีกแระ....

เมื่อไหร่จะวางขายอ่ะครับ
แล้วราคามันน่าจะสักเท่าไหร่... ตัวT101H

ผมโหลดมาจากเว็บนี้ครับ
โปรแกรมชื่อ AA1FanControl
(AA1=Acer Aspire One)
น่าจะใช้ได้กับ Acer Aspire หลายๆรุ่น
อ้อ... เป็น Freeware ด้วยครับ
ลองดูนะครับ

http://www.computentsystems.de/aceraspireonefancontrol/

วันนี้ลองโปรแกรมควบคุมพัดลมของAcer Aspire ดูแล้วครับ
ลองปรับให้พัดลมมันทำงานที่อุณหภูมิต่ำๆ
ปรากฏว่าพัดลมวิ่งครับ เอาหูแนบแล้วได้ยิน
แต่อุณหภูมิที่มันจับได้ ก็ยังขึ้นค่อนข้างสูงอยู่
บางทีไปประมาณ 58 องศา...
ก็สรุปได้ตอนนี้ว่าพัดลมของเครื่องผมไม่ได้เสีย...
ว่าแต่ ตกลงมันแฮงค์เพราะอะไรน๊อออ...

ทำใจครับ...
ส่วนมากพอผมซื้ออะไรสักอย่างแล้ว จะไม่สนใจราคาตัวเดิมอีกต่อไป
เพราะยังไงมันก็ลง ลงมากหรือมากๆ แค่นั้นเอง
ซื้อมาแ้ล้วใช้ให้มันคุ้มที่สุดก็พอครับ

วันนี้ลองโหลดเล่นจากแผ่นแล้วครับ
หน้าตาสวยดี โดยเฉพาะถ้าใครชอบสีเขียว
ผมว่าOSตัวนี้ทำมาค่อนข้างดีเลย
ขนาดโหลดจากแผ่น ยังวิ่งฉิว ไม่ค่อยกระตุก
โปรแกรมก็ให้มามากพอ เรียกว่าครบพอใช้งานเลยครับ
อาจมีต้องปรับแต่งนิดๆหน่อยๆ

โดยรวมผมว่าน่าลองนะครับ โหลดจากแผ่นก่อน ถ้าชอบก็ค่อยลงจริงในเครื่อง

กำลังดาวน์โหลดครับ
คงลองแบบโหลดจากแผ่นเล่นดูก่อน
เป็นยังไงเด๋วมาบอกอีกทีครับ

เอ.... หลังจากเล่นจนเครื่องเริ่มร้อน
เอาหูแนบตรงช่องนั้นไม่เห็นจะมีเสียงพัดลมเลย....
หรือว่าเครื่องผมพัดลมเสียหว่า...

ปล. เครื่องผมมีอาการค้างเป็นบางจังหวะ

คือวันนี้เพิ่งสังเกตุว่าผมไม่เคยได้ยินเสียงพัดลมทำงานเลย
จับๆดูใต้เครื่อง มันก็ร้อนๆอยู่ เอามาแนบหูก็แทบไม่ได้ยินเสียงพัดลมเลย
เลยชักสงสัยว่าเครื่องอื่นมีเสียงพัดลมบ้างหรือเปล่า
ถ้ามีมันอยู่แถวๆไหน

เข้ามาอัปเดทสถานะการณ์ครับ...
หลังจากลองวินโดวส์เจ็ดไปได้พักนึง ก็เจอปัญหากับการเล่นไฟล์วีดีโอ
คือบางครั้งมันทำเอาเครื่องหยุดแช่แข็งไปเลย ต้องกดปุ่มพาวเวอร์เพื่อปิดเครื่องอย่างเดียว.... เฮ่อ....

เลยต้องตัดสินใจเปลี่ยนเสื้อผ้าให้น้องเค้าอีกที
กลับไปเป็นวินโดวส์เอ็กซ์พี (ที่เค้าให้มากับเครื่อง)

จะไปยากอะไร ก็เอเซอร์เค้ามี Recovery Partition อยู่ในฮาร์ดดิส
แค่กด Alt+F10 ตอนกำลังจะบูตเครื่อง แล้วก็ให้มันลงทุกอย่างใหม่หมด
ง่ายๆแค่นี้.... แต่.........
ปรากฏว่ากดแล้วมันไม่เข้าเมนู Recovery ดันกลายเป็น Command Line ไปซะงั้น สงสัยวินเจ็ดเล่นผมซะแล้ว...
มันคงไปเขียนบูตเซ็กเตอร์ของพาร์ติชั่นนั้นซะแล้ว...

ก็เลยลอง Ghost เขียนไฟล์ที่แบ๊คอับไว้ก่อนลงวินเจ็ด
แต่...... มันลงไม่ได้ บอกว่าพาร์ติชั่นเล็กเกินไป...
ซะงั้น........

มาลองบูตแผ่น Hiren BootCD เพื่อเข้าไปเช็คว่ามีอะไรผิดปรกติ
แต่ก็ดันเข้าโปรแกรมในแผ่นไม่ได้สักอัน มันโหลดไดร์เวอร์ดีวีดีรอมไม่ผ่าน
โหลดแล้วเงียบไปเลย....

เอ้า...ลองใหม่ คราวนี้งัดแผ่น Acer eRecovery ที่ทำเอาไว้ (ใครยังไม่ได้ทำไว้ก็ควรทำไว้นะครับ ใช้แผ่นดีวีดีเปล่าสามแผ่น)
เลือกแบบ Factory Default เรย... ให้มันจัดการให้กลับไปเหมือนตอนรับเครื่องมาใหม่
หวังว่ามันคงจัดการให้ทุกอย่าง...
หลังจากอ่านแผ่นจนครบ.... ปรากฏว่า
มันแจ้งผิดพลาดตอนท้ายสุด
บอกว่าไดร์ฟเล็กเกินไป อีกแล้ว.....

เอาแล้วสิ... งานเข้าซะแร้ว....
ทำไงดีหว่า.... เสียเวลาไปครึ่งค่อนวัน
สุดท้ายก็เอาแผ่นบูต สำหรับลงวินโดวส์เอ็กซ์พีอีกแผ่นมาลอง
รู้สึกว่าจะเป็นเอ็กซ์พี Leopard ที่แปลงหน้าตาให้เหมือนแม็ก
หลังจากโหลดไฟล์เซ็ตอัปเสร็จ ตอนเลือกไดร์ฟสำหรับลงวินโดวส์
สังเกตุเห็นว่ามันมีพาร์ติชั่นโผล่เพิ่มมาอีกอันวุ้ย....
เป็น Reserved Partition ขนาดประมาณ 100 เม็ก
ก็เลยปิ๊งเลย.... ไอ้เจ้า Partition นี้ วินเจ็ดมันสร้างไว้
เลยทำให้ขนาดของ Recover Partition มันหายไป 100 เม็ก
ถึงว่า... มันเขียนไฟล์ที่จะ Recover ไม่ได้ เพราะมันเล็กเกินไป
ผมก็เลยลบมันทุก Partition ที่เห็นอยู่ แล้วก็ฟอร์แม็ตทิ้งซะ
พอมันเริ่มลงโปรแกรมวินเอ็กซ์พีจากแผ่นที่บูต ก็ปิดเครื่องซะ
เพราะไม่ได้อยากลงวินโดวส์ตัวนี้

กลับมาบูตเข้าแผ่น eRecovery ที่ทำไว้
(ย้ำอีกที... ใครยังไม่ได้ทำแผ่นนี้ไว้ ก็ทำไว้นะ)
เลือก Full Recovery (Factory Default) เหมือนเดิม
จากนั้นก็รอ..... จนมันอ่านครบสองแผ่น
แล้วก็บู๊ตเครื่องใหม่.....
โอ้ว... น้องเค้ากลับมาแล้วครับ
สตาร์ทวินเอ็กซ์พี หน้าตาเดิมๆ บ้านๆหน่อย แต่ก็เวิร์กดี

ก็สรุปว่า ตอนนี้ผมกลับมาชื่นชมกับน้องวรรณ์ของผมแบบเดิมๆแระ

อ้างถึง:

ยังไม่ได้ลองไฟล์เต็มๆนะครับ
ลองแต่ไฟล์วีดีโอตัวอย่างที่มากับวินโดวส์ มันจะเป็น 720p WMV
ผมลองเปิดเล่นดูก็ไม่ค่อยกระตุกนะครับ

ผมว่าวินโดวส์เจ็ด ทำได้ดีทีเดียว แก้ไขปัญหาของวิสต้าไปได้แยะแล้ว