ถ้าอยากลอง Version ของผม จะ Remaster ให้ลองครับ แต่อาจจะต้อง Set ต่ออีกนิดเพราะไม่มี External CD Writer เลยต้อง Build บน PC ครับ เลยต้องแก้ไขค่าอีกนิดหน่อย
แต่ก็ง่ายกว่าลง Windows เยอะเลยครับ ติดตั้งได้ในเวลาไม่เกิน 5 นาที พร้อมใช้เลย

ได้ครับ แต่แนะนำว่าเอาลง SD การ์ดดีกว่า
เวลา Boot อาจจะช้ากว่า SSD ในเครื่องเล็กน้อย แต่ใช้งานหลังจาก Boot ไม่ต่างกัน จะถอด SSD ทิ้ง ก็ยังทำงานได้เลย Install แล้ว ใช้ไปแค่ไม่ถึง 200 MB
เวลา Boot จากการ์ด ก็กด Esc ค้างไว้ตอน Boot แล้วก็เลือก Drive ครับ
ใช้เนื้อที่น้อยมาก เหลือไว้ใช้งานอย่างอื่นอีกเยอะเลย
ตอนปิดเครื่องครั้งแรกจะมีให้เลือก Save ค่าระบบ อาจจะนานหน่อย
ครั้งต่อไปแป๊บเดียวครับ

อ้างถึง:
ลองดู http://www.murga-linux.com/puppy/viewtopic.php?t=34159
เป็นประโยชน์มากสำหรับ MSI Wind และ EeePC ครับ

ติดตั้งตัวมาตรฐาน Version ไหนก็ได้ (แนะนำว่า 4.2 ตัวล่าสุด) แล้วปรับแต่งค่าตามที่ในกระทู้แนะนำ
สำหรับการตั้งค่าภาษาไทย PuppyLinux ทำได้ง่ายกว่า Linux ตัวอื่นๆนะครับ
สามารถปรับแก้ได้จาก Setup เลย ไม่ต้องใช้ Script ใดๆทั้งสิ้น

อ้างถึง:

มองเห็นเป็นภาษาไทยครับ ผมลองทดสอบดูแล้ว

อ้างถึง:

ลอง Linux ของผมบ้างมั้ยครับ เพิ่ง Update แก้ไขค่าต่างๆจนเหมาะสมกับการใช้งานจริง
จะติดตั้งบน USB โดย Unetbootin หรือ Install ลงโดยตรงกับ USB Drive ก็ได้
ใช้เนื้อที่ไม่เยอะ แค่ไม่กี่ร้อย MB เก็บค่า Setting ได้







ติดตั้งลง SDHC ผมปรับแต่งทุกอย่าง แก้ไขปรับ Driver จนเหมาะสมกับ EeePC
ใช้ PuppyLinux 4.2 เป็นฐาน
สิ่งที่ทำเพิ่มเติมหลังจากติดตั้ง
๑. ติดตั้งภาษาไทยและฟ้อนท์ไทย
๒. แก้ไขระบบให้สลับภาษาด้วย Alt+Shift
๓. ใส่ Icon แสดงภาษาและสลับภาษา
๔. แก้ไข theme นาฬิกาเป็น PuppyLinux icon และ ใช้ IceWM เป็น Desktop แทน JWM
๕. ออกแบบ ทำ Start Menu และ bar ด้านล่างเป็น Theme ใหม่ จะได้เข้ากัน
ต้องออกแรงกันหน่อย เลยออกมาเป็นหมาชมพูแบบนี้แหละ.. อิอิ
Theme นี้ผมตั้งชื่อว่า บางแก้ว
๖.ติดตั้ง FireFox3 เพราะดูเว็บไทยได้ดีกว่า อ่านภาษาไทยบนเว็บถูกต้องกว่า
๗.ติดตั้ง StarDic พร้อมใส่ฐานข้อมูลแปล ไทย-อังกฤษ, อังกฤษ-ไทย
๘.แก้ไขการอ่านชื่อไฟล์ภาษาไทยจาก Windows ให้เป็นภาษาไทย...เฮ่อ..ทำได้ซะทีนะ
๙.มี Background ที่ทำเองให้ด้วย เพียบ

ดูหน้าตา Version ต่างๆ ที่
http://puppylinux.org/home/screenshots

มี Bangkaew on EeePC900 ของผมอยู่ด้วย
เดี๋ยวจะหาโอกาสมาพูดถึงเจ้า Bangkaew PuppyLinux ของผมกันอีกที ตอนนี้ยังไม่ได้ทำเป็น ISO ให้โหลด
ถ้าใครต้องการ จะ UpLoad ค่าที่ Save "pup_save-ASUSeee.2fs"เอาไว้ ให้เอาไปใส่ใน USB ที่ติดตั้งไว้นั่นแหละ
เวลา Boot มันจะดึงค่านี้มาทำงาน ปัญหาคือ ผมทำพื้นที่ไว้ใหญ่ไปหน่อย 512 MB ก็เลยยังเก็บไว้ใช้ส่วนตัวอ่ะ

ต้องเป็น utf8 น่ะครับ
ปัญหาคือผมทำให้มัน Mount อัตโนมัติ และ Mount Drive ที่เป็นตัว Boot ไม่เป็นอ่ะครับ
เลยแก้ได้ก็แค่ Mount ทีหลัง ไม่ได้ตั้งให้เป็น utf8 ตั้งแต่เริ่มต้น
ไม่เหมือนของ SUTinRAM ที่เค้าเขียนโปรแกรมเพิ่มเติมเอา เลยแก้ตรงนี้ผ่านแล้ว
แต่ใน SUTinRAM ไม่สามารถติดตั้งลง Drive ในเครื่องได้ ต้องติดตั้งบน Flash Drive หรือ SD Card เท่านั้น การแก้ไข Driver แบบที่ทำตามแบบเดิมของผมที่ใช้ตัวนี้ ก็แก้ไม่ได้
มีปัญหากับ EeePC ค่อนข้างมากครับ แต่ต้องยอมรับว่า SUTinRAM เป็น Linux ที่พัฒนาภาษาไทยได้ยอดเยี่ยมเลยล่ะ ไม่แพ้ Ubuntu กับ LinuxTLE เลยนะเนี่ย

จากที่ดูรายละเอียดลึกๆของการแก้ปัญหาด้านภาษาไทยของ SUTinRAM พบว่า
มีการเขียนโปรแกรมเพิ่มเติมให้ Mount Drive ต่างๆ เป็น UTF8 ตั้งแต่ต้นเลย
แต่คำสั่งต่างๆมีการโยงหลายไฟล์อยู่นะ ลองเอามาทดสอบแล้ว
ปรากฏว่ามีปัญหากะ Driver ที่เคยแก้ไปแล้ว ทันทีเลย คือไม่สามารถปิด Wifi ได้ เอาล่ะสิแย่เลยอ่ะ
ดูเหมือนจะเจออีกหลายๆปัญหา อาจเป็นเพราะว่าเราไปแก้ไข Code ที่มันเชื่อมโยงกะบางไฟล์อยู่ก็ได้
ยังหาทางแก้ไม่ได้ซะด้วย ดูในเมนูที่แก้ไขแล้ว กลับเจอปัญหา มี AbiWord ซ้อนกัน 2 ตัวอีกแน่ะ..

ทีนี้หากจะแก้ด้วยการ Mount Drive เอาเองแบบ Manual ก็ต้องขยันใช้ Terminal พิมพ์กันหน่อย
แต่ก็ใช้ได้นะครับ สามารถอ่านชื่อไฟล์ภาษาไทยที่มาจาก Windows ได้เลย แต่มันไม่สะดวกน่ะสิ 555
ผมก็แค่ User ธรรมดาที่ไม่รู้เรื่องการเขียนโปรแกรมเลย คงไม่ง่ายเลย
ถ้าจะให้จบแบบนี้ก็คือ ไม่ตั้งชื่อไฟล์หรือ Folder เป็นภาษาไทย
ซึ่งปกติผมไม่ใช้ชื่อภาษาไทยอยู่แล้วก็ไม่เป็นปัญหา ตอนนี้สำหรับผม มันพร้อมใช้แล้วครับ
แก้ปัญหาภาษาไทยบน AbiWord จบลงด้วยดีแล้ว
ระบบการปรับแต่งค่าต่างๆก็ค่อนข้างสมบูรณ์มากกว่า Version เก่าๆ มากเลย

Driver ใช้ได้
ภาษาไทย อ่านได้ เขียนได้ สระวรรณยุกต์ สวยงามตามตำแหน่ง
แสดง Keyboard Layout Indicator เป็นรูปธงชาติ
ตัวเล็ก เบาแรงเครื่อง ไม่ต้องใช้ Harddisk เร็วๆ หรือ Ram เยอะๆ
ติดตั้งลง USB Drive ได้เลย
ปรับแต่งหน้าตาได้มากมายตามใจเรา
Software ฟรีๆ ดีๆ มีให้เลือกเยอะด้วยครับ
ดูหน้าตา Version ต่างๆได้ครับ
http://www.puppylinux.org/home/screenshots

My 4GB SDHC...240 ฿....

ติดอย่างเดียวเลยคือชื่อไฟล์ภาษาไทยจาก Windows มันอ่านเป็นตัว ?????
แต่แก้ใน Puppy ได้ พอไปเปิดใน Windows ก็กลายเป็นชื่อตัวประหลาดอีกเหมือนกัน
แสดงว่าการเข้ารหัสเป็นคนละ Code อ่ะ...ที่ TitleBar ก็เป็นตัวประหลาด
แต่สำหรับการพิมพ์ภาษาไทย ตอนนี้ใน AbiWord ไม่มีปัญหาแล้ว สมบูรณ์เกือบทุก Thai Fonts เลยครับ ดูดีกว่าใน Xandros ด้วย อาจมีบาง Fonts ที่มีปัญหาวรรณยุกต์ลอยบ้างเท่านั้นเอง
แก้ปัญหา Refresh Menu ที่มีชื่อ AbiWord ซ้ำ 2 ตัว ก็ผ่านแล้ว
เหลือแค่รอทดสอบค่าที่แก้ไขนี้กับตัว Final แล้วจะแจกจ่ายครับ

หุหุ ยังไม่อยากเรียกมันว่า Distro ซักเท่าไหร่เลยครับ ผมแค่เอามาปรับให้มันใช้ภาษาไทยได้ดีขึ้นโดยคงยังมี Software อื่นๆอยู่
ตอนนี้กำลังทดสอบ AbiWord อีกครั้ง หลังปรับแก้ไฟล์บางตัว และ Update Version
ซึ่งเบื้องต้นเห็นว่าปัญหาที่เคยมี หมดไปแล้วล่ะ...แต่ก็ยังต้องทดสอบต่อเพราะยังไม่พอใจผลบางอย่าง
คือชื่อไฟล์ ใช้ภาษาไทยไม่ได้ซะงั้น...เฮ่อ...ตัว Final จะมีปัญหามั้ยนะ..

ตอนนี้กำลังแก้ปัญหาตัวอักษรประหลาดบน AbiWord เมื่อพิมพ์ภาษาไทย แม้ไม่ใช่ปัญหาหลักเพราะเวลา Save แล้วเปิดมาใหม่ก็หมดปัญหา แต่รู้สึกมันเป็น Bug ของ AbiWord น่ะครับ อาจจะลอง OpenOffice 3 ลงไปแทนครับ
อ้อ..กำลังรอ PuppyLinux4.2 ตัวสมบูรณ์ครับ จากนั้นค่อยเอาค่าที่ Set ไว้ไปลงกะตัวสมบูรณ์ น่าจะดีกว่า ทดสอบแล้วก็จะแจกจ่ายเลยครับ

Update สำหรับวันนี้
แก้ไข Driver และ Shotcut ปุ่มลัดต่างๆ ทำงานได้ดังใจแล้ว
แต่จะลง OpenOffice3 ก็หนักใจอยู่นะ เพราะติดตั้งบน SDHC 4GB
กลัวจะไม่ทันใจ เน้นเร็ว+ใช้ Ram น้อยๆ ปรับแต่งหน้าตาง่ายๆ รองรับภาษาไทยดีกว่า Xandros ที่มากะเครื่อง
ตอนนี้ปรับแก้ตามใจให้คะแนนไป 4.5 ดาวละกันนะ เอาไว้สมบูรณ์แล้วจะทำเป็น Distro ตั้งชื่อเป็น Bangkaew ละกัน หมาไทยๆ อิอิ

ผมว่าคนที่รู้ตัวว่าผิดแล้วพยายามทำให้ถูกต้อง ก็ยังดีกว่าคนที่พยามทำตัวกลมกลืน
เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกะความผิดจนรู้สึกเป็นปกติและเป็นมิตรกะความผิดนะครับ..อิอิ
ใครมี Windows มากะเครื่องอย่างถูกต้อง ก็น่าจะดีใจ น่าภาคภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ ครอบครอง ใช้งานอย่างถูกต้อง...
แต่โปรแกรมอื่นนี่สิ ต้องมาหาเพิ่ม ไม่รู้ว่าใช้โปรแกรมอะไรกันบ้าง ถูกลิขสิทธิ์หรือเปล่า

ผมคุ้นเคยกะแผ่นผีมาตั้งแต่แผ่นละ 800 บาทที่ Fortune สมัยนั้นยังเป็นเยาฮันอ่ะ (นานมาก)
เป็นโปรแกรมบนเครื่องแมคยุคแรกๆครับ สมัย Power Mac 120-220 MHz
ถ้าจำไม่ผิด ช่วงนั้นจะตื่นเต้นมากที่ได้ใช้ Photoshop 3 กะ Plugin เจ๋งๆ
(สมัย Photoshop 2 ตอนนั้น ยังไม่มี Layer ครับ มาเริ่มมี Layer ก็ Version 2.5)
ยุคนั้น อยากได้โปรแกรม Version ใหม่ๆ ต้องแผ่นผี 800 บาท นี่แหละ MacOS 7.0 เท่านั้น
วันนั้นเรายังทำงานได้ ทั้งๆที่ Software และ Hardware ไม่ได้ทันใจเหมือนยุคนี้
คอมพ์ตัวแรกที่ผมเป็นเจ้าของ เป็น PowerMac 7220 220 MHz กะ Ram 96 MB
HDD ถ้าจำไม่ผิด จะเป็น 2 GB นะ แล้วเปลี่ยนเป็น 6 GB ทีหลัง สมัยนั้น 6 พันมั้ง
ราคาคอมพ์ รวมประมาณ 8 หมื่น...โปรแกรมในเครื่องมีถูกลิขสิทธิ์ตัวเดียวคือ MacOS7.0
นอกนั้นแผ่นผี ซีดีเถื่อนล้วนๆ ไม่งั้นก็แผ่นพี่ ซีดีเพื่อน 555

ทุกวันนี้ทั้งคอมพ์และโปรแกรม ทำได้มากกว่าสมัยนั้นเยอะเลย ทั้งโปรแกรมฟรี ทั้ง Opensource
ก็ยังทำได้มากกว่าโปรแกรมที่มีลิขสิทธิ์ในยุคนั้นซะอีก
แม้อาจจะความสามารถไม่เทียบเท่า 100% แต่ก็ดีกว่าในหลายๆมุม
อย่างน้อยผมก็สามารถบอกตัวเองได้ว่า ผมก็คือคนโกงที่กลับใจล่ะ
แม้อาจจะใช้ Software แทนได้ไม่ 100 % แต่บนน้องอี๋ ไม่มีของเถื่อนครับ
ทั้งโปรแกรม และเพลงที่ผิดลิขสิทธิ์....
ที่ Office เราก็พยายามรณรงค์ให้ใช้ Software ที่ถูกต้อง ปีที่แล้วหมดไปหลายแสนเลยกะค่า Software ในทีม
ไม่ใช่เพราะกลัวตำรวจ แต่เพราะอยากทำสิ่งที่ถูกต้องครับ..
คุณไม่ใช่คนขี้ขลาดที่กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง
แต่คือคนฉลาด และกล้าหาญที่สุด ที่กล้าลงมาเดินในทางที่ตนเองยังไม่คุ้นเคย
....ทางออกไม่ได้มีแค่หน้าต่างนะครับ

อันนี้ Software ที่ทำเป็น Package แล้ว มีเยอะมากจนน่ากลัว..
http://www.murga-linux.com/puppy/inde ... d00da993d9b161499ce474360


แล้วก็ The Linux Alternative Project
เทียบ Software ที่ทำงานด้านต่างๆ กะ OpenSource
http://www.linuxalt.com/

สวยงามไม่ซ้ำใคร..
ใช้ง่ายขึ้นเยอะเลยสำหรับ PupyLinux 4.2 ที่กำลังจะได้เห็นตัวสมบูรณ์ในอีกไม่ช้า
ผมใช้เวลาติดตั้งลง SDHC หลังจาก Boot ใช้เวลาน้อยมากจนเหลือเชื่อจริงๆ
คงเพราะขนาดของ OS มันเล็กด้วยมั้ง ประมาณซัก 2-3 นาที เสร็จแล้ว...โฮ่ๆๆๆ
การ Boot ใช้งาน ก็กด Esc ค้างไว้ตอน Boot สักครู่จะมีให้เลือก Drive ที่ต้องการ
เป็น OS ที่ Run ใน Ram ครับ เวลาทำงานก็เลยไม่ต้องห่วงว่าจะช้า เพราะแทบจะไม่แตะ SDD ในเครื่องเลย
ปรับแต่งแก้ไขเสร็จ หรือจะปิดเครื่องแล้ว ก็สามารถเลือก Save ค่าเอาไว้ในการ์ด หรือในเครื่องก็ได้
เปิดเครื่องมาอีกครั้งก็จะดึงข้อมูลนั้นมาใช้งานได้เลย เหมือนการติดตั้งที่สมบูรณ์บน HDD นั่นเอง
ตอนนี้ผมก็เลยไม่สนว่าจะมี Harddisk ในเครื่องซักเท่าไหร่ หรือ Ram แค่ไหน
เพราะแค่นี้ก็ใช้งานตามที่ต้องการได้จนครบทุกอย่างแล้ว
...ใครว่า Linux มี Software ให้ใช้น้อย ผมว่าทุกวันนี้มันพัฒนาไปเร็วมากจริงๆนะ
โดยเฉพาะ PuppyLinux ตัวนี้ ผมปรับแต่งทุกอย่างบน Graphic Mode เลย
เอาเป็นว่า Version นี้ไม่ว่าการปรับแต่งและการติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติม ง่ายมาก ง่ายกว่าพี่หน้าต่างซะอีก
ผมว่า ถึงเวลาที่เราจะต้องมองออกนอกหน้าต่างกันบ้างแล้วนะ จะได้รู้ว่าโลกของ OpenSource มันไปถึงไหนๆ แล้ว
การทดสอบภาษาไทย ใช้ได้ดีครับ
สิ่งที่ทำเพิ่มเติมหลังจากติดตั้งลง SDHC Card 4 GB (แค่ 1 GB ก็ใช้ได้แล้ว)
ทำอะไรไปบ้างล่ะ
๑. ติดตั้งภาษาไทยและฟ้อนท์ไทย
๒. แก้ไขระบบให้สลับภาษาด้วย Alt+Shift
๓. ใส่ Icon แสดงภาษาและสลับภาษา ด้วย fbxkb
๔. เปลี่ยน DeskTop เป็นภาพนี้แหละ
อ้อ!! แก้ไข theme นาฬิกาเป็น PuppyLinux icon
๕. ออกแบบ ทำ Start Menu และ bar ด้านล่างเป็น Theme ใหม่ จะได้เข้ากัน
ต้องออกแรงกันหน่อย เลยออกมาเป็นหมาชมพูแบบนี้แหละ.. อิอิ
ดูเหมือนภาษาไทยกับ AbiWord จะมีปัญหาเพี้ยนๆเล็กน้อย
แต่ก็ใช้งานได้ครับ พอ Save แล้วกลับมาเปิดใหม่ก็หาย ถ้าเป็น OpenOffice3 ไม่น่าจะเจอปัญหานี้นะ (ยังไม่ได้ลองเลย)

หุหุ...จิงด้วยอ่ะ....ขออาภาย....
ตอนนี้ก็ลองดูหลายๆตัว สุดท้ายก็ PuppyLinux และเชื้อสาย Debian,Ubuntu นี่แหละ
PuppyLinux+IceWM
PuppyLinux+Openbox+LXPanel
!#CrunchBang(Cruncheee)
LinuxMint5,6(Xfce)
Debian
.
.
ประมาณนี้แหละครับ ลองดูปัญหาของหลายๆตัว แต่ละตัวก็เจอปัญหาต่างๆกัน
แต่ที่ดูแล้วสมบูรณ์พร้อมใช้ที่สุดก็คือ Mint และ Debian ครับ
patch เล็กน้อยก็ทำงานได้สมบูรณ์เลย ส่วนน้องหมาตัวเล็กดี ทำงานเร็ว
ไม่ต้องอาศัย Harddisk ก็ทำงานได้แล้ว...

ผมใช้ EeePC900 20GB ครับ
สำหรับ Linux ตัวนี้ ลงไว้ใน SDHC 4GB เอาไว้เล่นเพลินๆ
ไม่น่าเชื่อสำหรับ Linux ตัวนี้ พัฒนาไปเร็วมาก จำได้ว่าเคยทดสอบ Version แรก ขนาดแค่ 40 MB
สามารถ Run บน Ram ได้เลย จึงเร็วมากไม่ต้องสนใจว่า HDD ในเครื่องจะช้าแค่ไหน
เพราะคุณจะเห็นความเร็วพอๆกับ HDD ที่ Speed สูง และเพราะทำงานบน Ram จึงเร็วมากๆ
ถ้าดูใน Distrowatch.com จะเห็นความนิยมมาเป็นอันดับต้นๆเลย
เพราะไม่ต้องสนใจทรัพยากรเครื่องสูงๆ ใช้ Ram 128-256 MB ก็วิ่งฉิวแล้ว
รวมทั้งอ่าน Partition HDD ที่เป็น Fat, NTFS ได้เลย ก็ยิ่งเป็นประโยชน์สำหรับกรณีฉุกเฉินก็ยังกู้ข้อมูลบน Window$ ได้
และนี่เป็นเหตุผลนึงที่ผมเอามาเป็น OS อีกตัวนึงครับ อาจจะไม่ได้ใช้เป็นหลักเหมือน LinuxMint แต่ก็มีไว้ลองอะไรเล่นๆ
จริงๆ มันครบเครื่องมากกว่าที่เห็นซะอีก เพียงแต่ผมยังไม่ค่อยรู้จักมันเท่าไหร่อ่ะ
พร้อมทั้งดูหนัง ฟังเพลง พิมพ์งาน เล่นเกมส์ เขียนเว็บ วาดภาพ แต่งภาพ รองรับภาษาไทยด้วย
อย่างที่เห็น พิมพ์งานใน Abiword แล้ว แสดงผลถูกต้อง วรรณยุกต์ไม่ลอยด้วย
ผมทำสลับภาษาด้วย Alt+Shift ครับ ถนัด Key นี้ที่สุด





เมนูเป็นแบบนี้อ่ะ



โปรแกรมดูภาพ



ดูหนัง HD ได้ลื่นมาก Bolt




แบบนี้แหละครับ
ตอนนี้ยังไม่ได้ทำ icon แสดงสลับภาษา กับยังไม่สามารถปิด ไฟ led ของ wifi ได้อ่ะ เดี๋ยวต้องหาวิธีหน่อยล่ะ ดูเหมือน wifi มันทำงานตลอดเลย

eeepc 900 20GB + Linux Mint
โมเองครับ ใส่ ฟ้อนท์ไทยส่วนตัวที่ใช้งานประจำ และ OpenOffice 3 ด้วยครับ

กำลังจะ Upgrade เป็น Mint6[xfce] ครับ

วันนี้ Upload ได้แค่นี้เอง

โฮ่...สงสัยต้องโพสใหม่แล้วล่ะ
ตอนนี้ที่ทำไว้มี 40 รูป เดี๋ยวจะหาที่ Upload ใหม่ก่อนนะครับ
มันมีปัญหาคือเครื่องผมกลับเข้าไปดูไม่ได้อ่ะ