ขอบคุณสำหรับข่าวสารครับ

พึ่งซื้อมาเอง อยากจะกรี๊ดดด T-T

คงรอตัว iMac ล่างสุด ปรับเป็น I3 หรือ I5 ก่อนแล้วขยับตระกูล Macbook เป็นอันดับถัดไปครับ ปลายปีนี้ Core2 น่าจะไม่้เหลือแล้ว
ยกเว้นตระกูล Mac Mini

ช่วงนี้รู้สึกกระแส Netbook จะเป็นจอ 11.6" นะครับ

อย่างของ Samsung ตัวใหม่ที่จะขายในบ้านเรา X123 ก็เป็น 11.6" เหมือนกัน

ผมว่า 220 สวยกว่านะ ตัวนี้คงอีกสักพักมั้งครับ ถึงจะมาขายเมืองไทย
เพราะไปเดินตึกคอมล่าสุดยังไม่เห็นเลย

นึกถึง eee 701 ตอนที่ออกมาใหม่ๆเลยครับ

บริการแบบนี้เห็นแล้วกลัวใจเลย ผมมี notebook acer อีกเครื่องด้วยสิ ยังไม่เคยใช้บริการศูนย์ซ่อม แต่ที่ซื้อยี่ห้อนี้เพราะว่า ราคาเทียบสเปคแล้วค่อนข้างคุ้มก็เลยซื้อ

ผมว่าอะไรที่เราลงเองได้ก็จัดการเองดีกว่าครับ ลงเองแล้วใส่คีย์ XP ของเครื่องไปก็เหมือนกันละ หาตัว XP ที่เป็น original ไม่ต้องเอาพวก dark edition ทั้งหลายนะครับ

เห็นด้วยครับ ที่ว่า จอ 10" กับความละเอียด 1366x768 มันดูเล็กไปจริงๆ

ลองไปดู Vaio W เห็นแล้วถึงกลับมามอง 10" 1024x600 แทน

แต่ถ้าเน้นการดูหนัง hi-def 720p ก็ถือว่าโอเค

อ้างถึง:

ยินดีครับ คุณ kiat

......................

ปัญหาเรื่อง Driver ของ HP ก็คือ มักจะมีให้ไม่ครบและมีบั๊กอยู่พอสมควร

อย่างรุ่นนี้ driver touch pad ของ win7 64bit ไม่มีให้ ผมก็ต้องเอาใน win7 32bit ของรุ่นอื่นมาใส่แทน ถึงจะ disable touch pad ได้ ถ้าไม่ลงทำไม่ได้นะครับ

การปรับความสว่างหน้าจอของรุ่นนี้ยังมีบั๊กอยู่ ยังปรับผ่าน Fn key ไม่ได้

ตัว Bluetooth ก็เป็นอีกปัญหานึงของรุ่นนี้ครับ กว่าจะแก้ได้..เหนื่อย

ส่วน driver ของ XP ถ้าเคยใช้ HP สักปีสองปีที่แล้ว จะอึ้งครับ seach ไปเหอะ ไม่มีให้หรอก พึ่งมาปีนี้ละมั้งที่มีการปรับปรุงขึ้นมาหน่อย

Ram ถ้่าใช้ XP ลงโปรแกรมไม่เยอะ ผมว่า 1GB พอนะครับ แต่ถ้าเป็น win 7 ลองดูในรูปเปิดเครื่องมาแรมก็กินไป 48% แล้ว (ram 2 gb) ถ้าเปิดใช้งานหลายโปรแกรม แรม 1 GB ไม่พอแน่นอน คือใช้ได้แต่ตัว windows ใช้ swap file ช่วย ซึ่งมันจะช้า

เรื่องแบตนี่ ถ้าเป็นเมืองนอกอย่างเมกา Netbook ที่ขายที่นั้นจะให้ 6 เซล มาเลย เพราะคนที่นั้นเค้าเน้นเรื่องการใช้งานมากกว่าความสวยงาม แต่แถบบ้านเราจะเน้นเบาพกง่ายไว้ก่อน ก็เลยเป็น 2-3 เซล ไม่ใช่แค่ยี่ห้อ HP ด้วย
ผมใช้ Fujitsu ก็เป็น 2 เซล แต่เมกาให้ 4 เซล -*- , จริงๆน่าจะเลือกได้นะ

ผมห่างเหินจากวงการ Netbook ไปพอสมควรนะครับ หลังจากนอกใจไปใช้ Notebook พักใหญ่ แต่หลังจากเริ่มเดิมทางบ่อยขึ้นชักเริ่มจะแบก นน.ของ Notebook ที่ใช้อยู่ไม่ไหว ก็เลยต้องหันมามอง Netbook อีกครั้ง
มาคราวนี้ หลังจากศึกษาข้อมูลมาอย่างเต็มที่ โดยหลักๆก็จาก TrendyPDA เจ้าเก่าของเรานี่เอง ก็ถึงเวลาที่ต้องไปซื้อมาใช้งานเสียที่



ในครั้งแรกตั้งใจจะเล่น Samsung N-220 หลังจากอ่านกระทู้มา เพื่อนๆในเว็บนี้ต่างชื่นชมในเรื่องของแบต และคียบอร์ดก็เป็นแบบ ชิคเคล็ท ตามสมัยนิยม
แต่พอได้ไปจับตัวจริง ส่วนตัวผมเองยังไม่ค่อยถูกใจงานประกอบและวัสดุ

อีกตัวที่สนใจคือ Acer D260 แต่เนื่องจาก Notebook ที่ผมใช้อยู่ก็เป็น Acer อยู่แล้ว จึงอยากจะหาความแปลกใหม่จากการใช้งานและดีไซน์ของยี่ห้ออื่นดูบ้าง

สุดท้ายหวยก็มาออกที่ HP 210-1054TU ตัวที่จะรีวิวต่อไปนี้ ซึ่งรุ่นนี้รู้สึกว่าจะเข้ามาทำตลาดสองรุ่นด้วยกันคือ HP 210-1012TU โดยรูปร่างโดยรวมจะเหมือนกันแต่แตกต่างที่รายละเอียดและของแถมดังต่อไปนี้

หน้าจอ รหัส 1054 จะเป็นแบบจอกระจก
1054 จะมีแรม 2 GB 1012 จะมีแรม 1 GB
HDD 1054 จะเป็น 320GB 7200 รอบ 1012 จะเป็น 160GB 5400 รอบ
1054 คีย์บอร์ดจะเป็นแบบ ชิคเคล็ท ส่วน 1012 จะเป็นแบบธรรมดา
ของแถมในกล่อง 1054 จะมี DVD External แถมมาด้วยเลย
ไม่มี OS ทั้งคู่ แต่คงไม่ใช่ปัญหาเท่าใดนัก

มาชมรูปกันครับ




รูปตอนปิดฝา ถ่ายจากด้านหลัง รุ่นนี้จะเป็นสีแดงสด แต่ผมไปติดกันรอยแบบไฟลนมา ทำให้สีหม่นไปนิด แลกกันการป้องรอยที่จะเกิดขึ้นในอนาคตครับ




ด้านล่างของตัวเครื่อง ออกแบบได้ค่อนข้างเรียบ ไม่มีรูระบายความร้อน หรือน็อตใดๆทั้งสิ้น ความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าค่อนข้างสวยนะครับ




เปิดฝาเข้ามาจะพบกับ หน้าจอกระจก ความละเอียดมาตรฐาน Netbook 10" ทั่วไปคือ 1024x600 pixels และคียบอร์ดแบบชิคเคล็ท
ส่วนตัวขาวๆที่ติดข้างเครื่องคือ ตัวรับส่งเมาส์ไร้สาย (ไม่ได้มากับชุดมาตรฐานของเครื่อง)




ด้านขวา จากซ้าย มี card reader slot , ปุ่มเปิดปิดเครื่องแบบสไลด์ , USB 2.0 2 Port และ Lan port แบบมีฝาปิดไว้ต้องแงะออกมาถึงจะใช้ได้




ด้านซ้าย จากซ้าย ช่องต่อ Adapter จ่ายไฟ ,VGA Port สำหรับต่อจอภาพ , USB Port และ ช่องต่อหูฟังและไมโครโฟนซึ่งรวมเป็นช่องเดียวกันไม่ค่อยดีเท่าไร
ตอนเสียบ Adapter จะมีไฟบอกด้วยว่ากำลังชาร์จแบต=ไฟสีส้ม หรือเต็มแล้ว=ไฟสีขาว และ ไฟบอกสถานะของ Harddisk จะเป็นไฟกระพริบสีขาว




คีย์บอร์ดแบบชิคเคล็ท ซึ่งพิมพ์ค่อนข้างง่าย ดูสวยงามและสะดวกในการทำความสะอาด พื้นที่ถ้าเทียบกับคีย์บอร์ดมาตรฐานน่าจะประมาณ 92-93%




DVD-External ที่แถมมาในกล่อง เป็นของ HP เอง รูปร่างน่าใช้ฝาบนเป็นอลูมิเนียมดูดีมีราคา

= การใช้งาน =

สำหรับเจ้า HP mini 210 -1054TU เครื่องนีั้ ผมลง win7 home premier เพราะเจ้า Atom 450 รองรับชุดคำสั่งแบบ x64
การทำงานค่อนข้างลื่นไหลเลยทีเดียว เปิดใช้ Aero ก็ยังไม่เจอความหน่วงให้เห็น HDD เป็นแบบ 7,200 รอบ ความเร็วเดียวกับที่ใช้บน desktop การใช้งานจึงค่อนข้างรวดเร็ว

ข้อเสียของรุ่นนี้ก็น่าจะเป็น เรื่องของแบตที่ให้มาเพียง 3 เซล ใช้งานได้ประมาณ 2 ชม.นิดๆ เปิด wifi ตลอด ถ้าไม่เปิดคงได้นานกว่านี้
แล้วก็การเล่นเกมต่างๆที่คงสู้ Netbook Ion platform ไม่ได้

ข้อเสียเรื่อง driver ของ HP ดูจะเป็นอะไรที่ไม่เคยคิดจะแก้มาโดยตลอด สำหรับรุ่นที่ไม่แถม OS คือ ไปหาเอาข้างหน้าจากเว็บ ถ้าเป็น Vista หรือ win7 ก็ง่ายหน่อย แต่ถ้าเป็น XP ก็ลำบากนิดนึงครับ
ที่สำคัญรุ่นนี้ HDD ถูกเซทมาแบบ ACHI mode และใน BIOS ไม่มีตัวเปลี่ยนกลับมาแบบ ATA mode ซะด้วย ดังนั้นถ้าจะลง XP ก็คงต้องเตรียม ACHI Driver ไว้ให้พร้อมไม่งั้นเจออาการจอฟ้าแน่นอน แต่ถ้าเป็น Vista หรือ Win7 ก็ลงได้เลย

ถ้าตัดปัญหาจาก 2 ข้อหลักๆ เครื่อง HP นี้ ถือว่าทำได้ประทับใจผมไม่น้อยเลยทีเดียว การออกแบบที่ถือว่าโอเคเลย สเปคเครื่องที่คงไม่ต้องไปอัพอะไรอีกแล้ว นอกจากเปลี่ยน HDD ให้มีความจุมากขึ้น กับใส่ตัว WWAN ที่ทำเสียบซิมเล่นเนทผ่านเครื่องได้ ซึ่งผมใช้วิธีซื้อ Air Card ของ Dtac มาแทน ถึงจะเกะกะกว่าแบบ WWAN แต่ข้อดีก็คือ ย้ายไปใส่หลายเครื่องได้ และราคาถูกกว่า ตอนขายก็ออกตัวไม่ยากนัก

โดยรวมถ้าถ้าเทียบราคาที่ต่างกันประมาณ 5 พันกว่าบาท จากรหัส 1012 กับ 1054 แต่ไม่ต้องไปเพิ่มแรม ไม่ต้องเปลี่ยน HDD คีย์บอร์ดชิคเคล็ท หน้าจอกระจก แถม DVD Extenal ให้ ทางร้านแถมเมาส์แบบไร้สายของ HP เช็คดูราคาเมืองนอกประมาณ 30$ ก็ประมาณพันนิดๆ ใช้งานได้ดีเลยละ
ก็ถือว่าคุ้มเลยนะกับส่วนต่างที่ไม่ต้องแงะเครื่องอีกแล้ว

= มันเหมาะกับใคร =

สำหรับคนที่เน้นเล่นเกมบน FB โดยเพราะ Cafe World ที่กินสเปคเครื่องสูง ขา Game แบบ hardcore เน้นการดูไฟล์ Hi-def 1080p , ต้องการแบตอึดๆใช้งานนานๆ เจ้า 210 คงไม่เหมาะเท่าใดนัก

แต่ถ้าต้องการเครื่องที่เน้นการเล่นเนท แชท เล่มเกมออนไลน์ทั่วไปพอได้บ้าง การดูไฟล์ระดับ 720p และทั่วไปไม่ขี้เหร่ การใช้งานทั่วไปอยู่ในจุดที่เสียบปลั๊กไฟได้ รูปทรงการประกอบของเครื่องไม่เป็นรองใคร เชื่อว่า HP 210-5054TU เครื่องนี้ น่าจะตอบโจทย์คุณได้ไม่มากก็น้อย
ที่สำคัญชอบลุ้นกับประกัน HP ที่เค้าว่าทำชื่อเสียงไว้พอสมควร (แต่ผมยังไม่เคยเจอ หลังจากใช้ยี่ห้อนี้มาหลายเครื่องแล้ว)


ก็คงจะจบรีวิวแต่เพียงเท่านี้ สำหรับเพื่อนๆที่สนใจเชิญเลิกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ

.....................

ผมไม่ได้ซีเรียสนะครับ คุณเข้ม อย่าคิดมากครับ

ส่วนเรื่องราคา ถ้าลดมาตามที่คุณ kiat บอกก็น่าสนใจมาก ความเห็นส่วนตัวผมว่าคุ้มนะราคานี้ เพราะตอนซื้อมามันก็ 2x,xxx

ถ้าราคาประมาณ 16-17k เชียร์ให้ซื้อของใหม่ไปเลยนะครับ

ราคาสูงเกินไปสำหรับความเป็น Netbook ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นที่ใกล้เคียงกัน

ในการซื้อของผมไม่ได้คำนึงนะครับว่าต้องเป็นผู้นำเทรนด์ หรือต้องการความแตกต่าง แต่สิ่งที่ต้องการก็คือมันตอบสนองความต้องการพื้นฐานของตัวเองได้หรือเปล่่า

ถ้าคำตอบคือใช่ สิ่งถัดมา่ก็คือเงื่อนไขต่างๆเช่น ราคา เรารับได้หรือเปล่า ราคา ณ.จุดนั้น

ส่วนที่บอกว่า ไม่ค่อยจะเจอคนใช้รุ่นเดียวกัน ก็เป็นการแซวขำๆนะครับ แต่ก็ต้องยอมรับว่า รุ่นนี้ค่อนข้างหาคนใช้น้อยกว่า Netbook ยี่ห้ออื่น

ส่วนนึงน่าจะราคาสูง และคุณสมบัติอาจจะไม่โดนใจหลายคน

ก้ออย่างที่ผมเขียนบอกละครับ ถ้าต้องการหน้าจอใหญ่สุด ตัว mini 12 คือตัวที่ตอบสนองได้เลย ณ.เวลานี้ แต่ก็ต้องยอมรับกับข้อเสียที่เขียนไว้้ก่อนหน้านี้นะครับ

:)

ปล.เรื่อง Ram ผมไม่ทราบข้อมูลแน่นอนครับว่าเพิ่มได้หรือเปล่า
แต่ใต้่เครื่องไม่มีช่องวางให้อัพเกรดอะไรทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น Ram หรือ HDD

ใช้ดีครับรุ่นนี้ ผมก็ใช้อยู่

ถ้าจะมีจุดติเล็กน้อย คือ คีย์บอร์ดบางปุ่มเล็กไปนิดแต่ถ้าใช้จนชินก็ไม่มีปัญหา

กับเรื่องไฟแสดงผลต่างๆ ซึ่งมีเพียงดวงเดียว ไม่มีไฟแสดงผลของ HDD ,BT ,WF

ซึ่งถ้ารับหลักๆสองข้อนี่ได้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วครับ

หน้าจอ 12" ใหญ่เต็มตาถ้าเทียบกับ Netbook ทั่วๆไป

ที่สำคัญใช้แล้ว ไม่้ค่อยจะเจอคนที่ใช้รุ่นเดียวกันเลยครับ

:)

กลายเป็นตอนนี้ใช้ Limited Edition ไปซะแล้วซิเรา

T-T

อ้างถึง:

ถ้ามองในแง่ตัวเลข , โปรแกรมคำนวน หรืองานที่ต้องใช้พลัง cpu สูงๆ เช่นดูหนัง Hi-DEF 720p,1080p แน่นอนครับว่า มันแตกต่้่างกันอย่างรู้สึกได้

แต่ถ้าเป็นการใช้งานทั่วไปอย่างที่ผมใช้อยู่เช่น เปิดหน้าเว็บเพจ , โหลด bit , ทำงาน word excel , เล่น msn , hi-5 , ไรท์แผ่นหนัง , ดูหนัง dvd, หรือดูพวกไฟล์หนังที่ไม่ถึง 720p , ความรุ้สึกในการใช้งานแทบไม่แตกต่างเลยครับ อันนี้คือลองเทียบกับทุกเครื่องที่ใช้อยู่ที่บ้าน รวมไปถึง desktop ที่เป็น c2d 8200 ด้วย

ตัว CPU Atom เป็น CPU ที่เ้น้นเรื่องการประหยัดพลังงานไม่ใช่ perfermance ดังนั้นคงต้องดูว่า้เราจะซื้อพวก Netbook ไปใช้งานทางด้านไหน ถ้าเน้นพลัง CPU ในการทำงานจริงๆยังไง cpu บน Notebook น่าจะตอบสนองได้ดีกว่า Atom นะครับ แต่ก็ต้องแลกไปด้วยการใช้งานที่ไม่นานเท่า Netbook , Notebook ที่่ผมเห็นรุ่นที่ใช้งานได้นานหน่อยและตัวเครื่องเบาๆสูสี Netbook ก็จะเป็น Vaio TZ ที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็น TT แล้ว ก็จะได้ประมาณ 5-6 ชม. แต่ถ้าเป็นรุ่นทั่วไปถ้าจะให้ใช้งานได้นานแบบ Netbook ก็คงต้องเปลี่ยนแบตเป็น 8 เซลล์ขึ้นไป กับน้ำหนักเครื่องที่หนักมากมาย

ก็คงต้องดูการใช้งานของเราว่าต้องการแบบไหนมากกว่ากันครับ

อ้างถึง:

ตอนแรกก็จะคว้าตัวนี้กลับมาเหมือนกันครับ แต่ Cpu มันเป็น Celeron M ซึ่งผมคิดว่าไม่น่าต่างจาก Atom มากเท่าไร อีกอย่างที่บ้านก็มี Compaq 14" หน้าตาเดียวกันอยู่ ก็เลยคิดว่าอยากจะลองอะไรที่แตกต่างมากกว่า

โดยรวมแล้ว Compaq รุ่นนี้เป็นอะไรที่คุ้มมากจริงๆ ตีทั้งตลาด Notebook และ Netbook ที่ราคาเกือบ 20k

ไม่ได้โพสท์นาน แต่ก็ยังติดตามที่นี่อยู่ตลอดเวลา ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของ sub-notebook ขนาดเล็ก ที่ได้รับการขนานนามใหม่แล้วว่าเป็น Netbook หลังจากเครืองแรกที่ผมใช้คือ eee 701 และได้ขายไปในเวลาไม่นาน เพราะได้เจ้า Fujitsu u1010 มา ซึ่งก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ในระดับนึงแต่ไม่ใช่ทั้งหมด

ความเ้ปลี่ยนแปลงของ Netbook ปัจจุบันก็ต้องถือว่ารวดเร็วมีตัวเลือกเยอะขึ้น จากขนาดหน้าจอ 7" ได้ขยับเป็น 8.9" 10" และ 12" ล่าสุดก็จะเป็น 13" แล้ว ทำให้ข้อแตกต่างของหน้าจอระหว่าง Netbook กับ Notebook นั้นแทบไม่ต่่างกัน

และนี่เองที่เป็นเหตุผลสำคัญในการเลือกซื้อของผมในครั้งนี้ ที่บ้านก็มี Notebook แก่ๆอีกเครื่องจอ 14" น้ำหนัก 2 โลก่า ซึ่งมันไม่ work อย่างแรงในการนอนเล่นเพราะแค่เอามาวางบนตักก็หนักแล้ว ไหนจะความร้อนและเสียงพัดลม ที่ถือว่าสร้างความหงุดหงิดในการเล่นได้อีกไม่น้อย หลังจากนั่งศึกษาข้อมูลมาได้ระยะนึง รวมถึงการไปลองจับของจริงเพื่อเปรียบเทียบกัน ก็ต้องยอมรับว่ามีความลำบากใจพอสมควร เพราะมี 2 รุ่นที่ผมลำบากใจคือ Notebook Compaq 12" มี DVD-Rom น้ำหนักประมาณ 1.7kg ค่าตัวประมาณ 17,000 บาท กับ Dell mini 12 ซึ่งมีค้่าตัว 21,900 แต่แถมเป้ใส่เครื่องอย่างดีมาด้วย

ราคาที่ต่างกันร่วม 5,000 บาท ทำให้ผมค่อนข้างคิดหนัก ในแง่ความครบเครื่องนั้น แน่นอนว่า Notebook ตอบสนองได้ดีก่า รวมไปถึงความคุ้มค่าของราคา การที่ upgrade RAM และ HDD ได้เอง และราคาที่ถูกกว่าเจ้า Dell ทำให้ผมเกิดอการลังเลหลายครั้งว่าลำบากในการตัดสินใจจริงๆ แต่สุดท้ายก็เลือกเจ้า Dell มาด้วยเหตุผลที่ว่า น้ำหนักเบาเป็นจุดสำคัญที่สุดที่ผมให้ความสำคัญในครั้งนี้

หลังจากได้ลองเล่นมาร่วมๆ 1 อาทิตย์ก็พอจะสรุปข้อดีข้อด้อยของเครื่องรุ่นนี้ได้ก็ลองอ่านกันดูนะครับ สำหรับคนที่สนใจเครื่องรุ่นนี้

จุดเด่น

- หน้าจอขนาดใหญ่ คีย์บอร์ดขนาดใหญ่ ที่ความรู้สึกแทบไม่แตกต่างจาก Notebook ปกติ ผมนอนพิมพ์จับเครื่องวางบนตักเล่นเอ็มได้สบายมาก

- น้ำหนักเบาและไม่ร้อนมาก ทำให้เล่นได้นานและเพลินจนบางครั้งแบตหมด แต่ก็ต้องยอมรับว่าการใช้งานของผมมันสูบแบตมาก เพราะไหนจะ wireless lan หน้าจอที่ไม่ได้ลดความสว่างลงสักเท่าไร และก็ใช้เมาส์แบบ Bluetooth อีก

- การประกอบของเครื่องที่ถือว่าทำได้ดี แน่นในเกือบทุกจุด ไม่มีอาการคลอนแคลน การพับหน้าจอแข็งแรงไม่ก๊อกแก๊ก

- ได้ Vista ลิขสิทธิ์มาด้วย

- ปุ่ม touchpad ขนาดใหญ่ ปุ่มคลิ๊กต่างๆ ใช้งานได้ง่ายดายสะดวก กดไม่ผิดพลาดแม้ในการใช้งานที่มีแสงน้อย

- การจับสัญญาณ wireless lan และ bluetooth อยู่ในระดับที่เสถียร น่าพอใจ

- หน้าตาของเครื่องที่ให้อารมณ์ไปทาง Notebook มากกว่า Netbook (ความเห็นส่วนตัว)

*** ของแถมที่มากับเครือง เป็นเป้ใส่ notebook อย่างดี ไม่ใช่แบบว่าขอไปทีหรือแค่แถม มันคือสินค้าตัวเดียวกันกับที่ยี่ห้อนั้นทำออกมาขาย มูลค่าของเป้ผมคิดว่าไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทขึ้นไปครับ แต่แน่นอนว่าราคาของเป้ก็อาจจะรวมไปในราคาเครื่องเรียบร้อยแล้ว

จุดด้อย

- Slot ที่เป็น Multi-card เวลาใส่พวก SD-Card จะมีความยาวยื่นออกมาประมาณครึ่งใบ ซึ่งไม่เหมาะในการเสียบคาไว้ในเครื่อง ทำให้แผนที่จะซื้อ Card เพื่อเพิ่มความจุให้กับเครื่องก็ต้องพับไป แต่ข้อด้อยอันนี้จะหายไปถ้าเราเลือกใช้ HDD แบบ External แทน

- ราคาสูง ราคานี้น่าจะถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญเลยก็ว่าได้ เพราะในราคาระดับสองหมื่นบาท มีตัวเลือกที่น่าสนใจหลายรุ่น

- แบตหมดไวเพราะตัวเครื่องมีขนาดหน้าจอใหญ่ ตรงจุดนี้หากซื้อแบตแบบ 6 เซลล์มาเพิ่มน่าจะแก้ได้ แต่ก็ต้องทำให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น

- วัสดุที่ใช้ ดูแล้วไม่สมค่าตัวเท่าไร น่าจะทำได้ดีกว่านี้ น่าจะมีช่อง PCI Express แถมสักช่องก็ยังดีถ้าเทียบกับราคา

- อัพเกรดเองไม่ได้เลย ทั้ง RAM และ HDD , RAM น้อยไปสำหรับการใช้งาน Vista ผมซื้อมาปุ๊บใช้ไปพักนึง ลง XP แทนเลย

- การเล่นไฟล์แบบ Hi-DEF ขนาด 720p ยังไม่ผ่านมีการกระตุก ตรงจุดนี้อาจจะเกิดจากตัวผมเองที่เป็น user error ก็ได้ เพราะยังไม่ได้มีการปรับแต่งโปรแกรม Kmplayer ให้มีความเนียน ถ้าคุณไม่ได้ใช้งานแบบผม นี่ก็ไม่ใช่จุดด้อย

- ไฟบอกสถานะต่างๆไม่มีเลย มีแต่ไฟแค่ดวงเดียวที่แสดงสถานะเปิดปิดเครื่องหรือชารจ์ไฟ รวมไปถึง Sleep mode น่าจะมีไฟบอกสถานะการเขียน HDD ก็ยังดี บางครั้งต้องเดาว่าเครื่องยังทำงานอยู่หรือว่าแฮงค์ไปหรือเปล่า

- เมื่อเปิดเว็บหลายหน้าจอ แม้จะใช้ Firefox แต่เมื่อเจอหน้าจอที่มี flash มากๆก็จะเริ่มออกอาการอืดแบบสังเกตุได้ แต่ถ้าไม่เปิดมากมายก็ถือว่าผ่านในระดับนึง

แล้วเครื่องนี้เหมาะกับใคร ? ความเห็นส่วนตัวผมคิดว่า ถ้าการใช้งานของคุณเน้นที่ขนาดหน้าจอที่ดูสบายตา ดูเว็บเล่นเอ็ม โหลดบิท ทำงานเล็กน้อยๆ ได้ความรู้สึกในการใช้งานใกล้เคียง Notebook (ยกเว้นการดูหนังเล่นเกม)
อยู่ในพื้นที่ที่มีการเสียบแบตเกือบตลอดเวลา น้ำหนักเบาพกพาสะดวก ไม่สนใจในเรื่องของราคาที่จะไมุ่คุ้มค่าเลยถ้าเทียบกับ Notebook

Dell mini 12 น่าจะตอบโจทย์ได้ดีพอสมควรครับ

...

มันมีโอกาสเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้พอๆกันครับ

Nokia ปัจจุบันนอกจากมือถือเน้นเล่นเนทอย่างซีรีส์ 9000 ซึ่งตอนนี้ล่าสุดคือ e90 และ n97 ในอนาคตอันใกล้ , ก็ยังมีพวก MID แต่ว่ายอดขายไม่ได้หวือหวาเท่าไร ซึ่งความจริงก็คืออุปกรณ์พวกนี้เมื่อก่อนยังพอขายได้เพราะไม่มี netbook แต่มาตอนนี้ยอดขายก็หดหายไปเยอะ เพราะราคาก็แพงด้วย

ถ้าพูดความพร้อมในด้านเทคโนโลยี ก็คงต้องบอกว่าระดับ Nokia ทำได้สบายๆอยู่แล้ว ทำไม่ได้หรือไม่อยากทำเองก็จ้างจีนทำ OEM แปะยี่ห้อตัวเองก็จบ อย่างตอนนี้ถ้าเค้าจะขยับไปอีกขั้นนึง ความเห็นส่วนตัวผมมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลก

ตลาด netbook เป็นของใหม่และเป็นเค้กก้อนใหญ่ ใครก็อยากร่วมเข้ามาตัดเป็นธรรมดาครับ

ถ้า่เล่น edge แนะนำของ DTAC สัญญาณดีกว่าครับ จากที่เคยลองใช้เปรียบเทียบทั้ง 3 ค่าย

อยากได้อารมณ์ใกล้เคียง nokia netbook ลองไปใช้มือถือรุ่น e90 ดูครับ ผมใช้อยู่ เช็คเมล์ เล่นเว็บได้ขำๆ พิมพ์ภาษาไทยได้ด้วย ส่ง sms เร็วดีครับ

คนนิยมใช้น้อยกว่า โอกาสขายจึงยากกว่า ราคาเลยยังสูงอยู่

อีกอย่างนึงตอนนี้ ซื้อมือถือถูกๆที่มี edge+ bluetooth ต่อเล่นเน็ตได้เหมือนกัน สักสามพันก็ซื้อได้แล้ว แถมมือถือยังใช้โทรได้อีก ในขณะที่ air card นั้นยังมีข้อจำกัดที่ต้องต่อกับคอมได้อย่างเดียว บางรุ่นเป็นแบบ PCMCIA ก็ขายยากขึ้นไปอีกเพราะจะใช้ได้แต่ notebook รุ่นเก่าๆ ,notebook รุ่นใหม่เค้าใช้ express card กันหมด

อีกทั้ง Netbook รุ่นใหม่ๆ มีรุ่นพิเศษออกมาคือจะมีการใส่ช่อง sim card เข้าไปในตัวเครื่องด้วย ยิ่งจะทำให้พวกนี้ยิ่งขายยากขึ้นไปอีกครับ