เข้าระบบ

ชื่อเรียก:

รหัสผ่าน:

จำฉัน



ลืมรหัสผ่าน?

สมัครสมาชิก!

เมนู






ความรักของเราเริ่มต้นเช่นนี้
มือวาง
เป็นสมาชิกเมื่อ:
15/5/2007 16:45
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 927
ความรักของเราเริ่มต้นเช่นนี้

ช่วงตรุษจีนของทุกๆ ปี พวกนักเรียนจะทำป้ายอวยพรให้กับงานวัดที่จะจัดขึ้นที่ปากภูเขา วันหนึ่งฉันกับครูพันอยู่กับนักเรียนในห้องเรียน กำลังทาสีกระดาษแดงหลายแผ่นที่วางทับโต๊ะเรียนหนังสือและพื้นห้องอยู่

ไข่จิงขี่จักรยานมาจอดหน้าห้องเรียนเพื่อมารับพ่อเหมือนทุกครั้ง พื้นดินบริเวณเขากระดูกมังกรแข็งเป็นหินเพราะอากาศหนาว ไข่จิงจึงใช้เวลาส่วนมากทำตาราง เขียนรายงาน แล้วทำรูปหล่อของจุดที่พบกระดูกต่างๆ วันนั้นเขามารับครูพันเร็วเป็นพิเศษ แต่ครูยังทำงานไม่เสร็จ ไข่จิงจึงมาช่วยพวกเราทำป้ายอวยพร เขายืนข้างฉันที่โต๊ะ ฉันดีใจที่ได้คนมาช่วยเพิ่มอีกคนหนึ่ง

ไม่นานฉันก็สังเกตเห็นว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ ไม่ว่าฉันจะวาดรูปหรือเขียนตัวอักษรไหน เขาก็จะทำตาม ถ้าฉันเขียนคำว่า ?โชคดีมีสุข? เขาก็เขียน ?โชคดีมีสุข? ถ้าฉันเขียน ?เงินทองไหลมาเทมา? เขาก็เขียน ?ไหลมาเทมา? ถ้าฉันเขียนว่า ?ทุกสิ่งที่ปรารถนา? เขาก็จะเขียน ?ทุกสิ่งที่ปรารถนา? เขาเขียนเหมือนฉันทุกอย่าง เส้นต่อเส้นเลยล่ะ การเขียนของเราเกือบจะเป็นจังหวะเดียวกัน เราดูเหมือนคนสองคนกำลังเต้นรำ นั่นคือจุดเริ่มต้นของความรักของเรา เส้นโค้งเดียวกัน จุดเดียวกัน ยกพู่กันพร้อมกัน ขณะที่ลมหายใจของเรารวมกันเป็นหนึ่ง

สองสามวันหลังจากนั้น ฉันและนักเรียนพากันนำป้ายไปยังงานวัด ไข่จิงไปกับฉันด้วย เขาเดินข้างๆ ฉันพลางชวนฉันคุยเบาๆ เขาถือหนังสือเล่มเล็กๆ เล่มหนึ่ง เป็นหนังสือรูปวาดบนกระดาษสา หน้าปกเขียนว่า องค์ความงามทั้งสี่ ?อยากเห็นข้างในไหมล่ะ? ฉันพยักหน้า ใครที่ได้ยินคงนึกว่าเรากำลังคุยกันถึงบทเรียน หารู้ไม่ว่าเขากำลังบอกรักฉัน

เขาเปิดหนังสือ ?ความสามารถในการสร้างศิลปะแบบใดก็ตามมีอยู่สี่ระดับด้วยกัน ความคิดนี้เป็นจริงอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงจิตรกรรมอักษรประดิษฐ์ วรรณคดี และนาฏศิลป์ ระดับแรกเรียกว่า ความสม่ำเสมอ? เราดูรูปวาดป่าไผ่ที่เหมือนกันสองรูป ดูๆ ไปแล้วก็ดูเหมือนรูปวาดทั่วๆ ไปไม่พิเศษอะไรนัก จิตรกรวาดได้สวยงามและเหมือนจริง รายละเอียดในการใช้เส้นคู่นั้นน่าสนใจ แสดงให้เห็นถึงพลังและการมีอายุยืน ?ความสม่ำเสมอนั้น? เขาพูดต่อ ?คือความสามารถในการวาดรูปที่เหมือนกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยเส้นแบบเดียวกัน น้ำหนักเท่ากัน จังหวะเดียวกัน ความแม่นยำระดับเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ความงามในระดับนี้เป็นเพียงความงามแบบสามัญเท่านั้น?

?ความสามารถระดับที่สอง? ไข่จิงพูดต่อ ?เรียกว่า ความสง่างาม? เราดูรูปอีกรูปหนึ่ง เป็นรูปไผ่หลายต้น ?ความสามารถแบบนี้มีมากกว่าทักษะ ดูความงามของมันสิ ช่างโดดเด่นเหลือเกิน แต่เรียบง่ายกว่ารูปที่แล้ว เน้นลำต้นมากกว่าใบ สื่อให้เห็นทั้งพลังและความสันโดษ จิตรกรที่มีฝีมือด้อยกว่านี้จะจับคุณสมบัติได้แค่อย่างเดียว ไม่ได้ทั้งสองอย่าง?

เขาเปิดหน้าถัดไป เป็นภาพต้นไผ่ต้นเดียวไร้ใบ ?ระดับที่สามเรียกว่า ความไร้ซึ่งตัวตน? เขาบอก ?ในรูปนี้ ใบไม้เหลือเพียงแค่เงาโดนพัดโดยลมที่เรามองไม่เห็น ต้นไผ่ที่เห็นเป็นตัวแทนของใบไม้ที่หายไป แต่กระนั้นเงาของใบไม้กลับดูมีชีวิตชีวากว่าใบไม้ในรูปก่อนที่บังแสงไว้เสียอีก คนที่ได้เห็นรูปนี้จะเกิดความตะลึงและงุนงงว่าวาดขึ้นมาได้อย่างไร จิตรกรคนเดิมหากจะพยายามเท่าไหร่ก็จะไม่สามารถจับความรู้สึกของภาพนี้ได้ จับได้เพียงเงาของมันเท่านั้น?

?ความงามจะเป็นมากกว่าความไร้ซึ่งตัวตนได้ยังไงล่ะ? ฉันถามเบาๆ รู้ทั้งรู้ว่าเดี๋ยวก็จะได้รู้คำตอบ

?ความสามารถระดับที่สี่นั้น? ไข่จิงอธิบาย ?ยิ่งใหญ่กว่าความไร้ซึ่งตัวตน มนุษย์เราทุกคนมีความสามารถระดับนี้ในตัวของเราเอง เราจะได้รู้สึกมันก็ต่อเมื่อเราพยายามไม่รู้สึก มันจะมาหาเราตอนที่เราไม่มีแรงกระตุ้นใดๆ ไม่มีความปรารถนา ไม่รู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป มันเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ เป็นสิ่งที่อยู่ในตัวตนของเด็กที่ไร้เดียงสา คือสิ่งที่จิตรกรเอกได้คืนกลับมาเมื่อเขาสูญสียความทรงจำและกลับมาเป็นเด็กอีกครั้ง?

ไข่จิงเปิดหน้าถัดไป มันเป็นรูปวงรีรูปหนึ่ง ?ภาพนี้มีชื่อว่า ในต้นไผ่ วงรีเป็นเป็นสิ่งที่เราเห็นหากเราอยู่ในกิ่งไผ่แล้วมองขึ้นข้างบนหรือมองลงข้างล่าง คือความเรียบง่ายของการอยู่ข้างใน ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลอธิบายการอยู่ตรงนั้น คือความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติที่ว่า ทุกสิ่งทุอกอย่างมีความสัมพันธ์ต่อกันและกัน หมึกรูปวงรีสัมพันธ์กับกระดาษขาว มนุษย์คนหนึ่งสัมพันธ์กับต้นไผ่ ผู้ดูรูปสัมพันธ์กับภาพ ภาพนี้?

ไข่จิงนิ่งเงียบไปพักให ญ่ ?ระดับที่สี่นี้เรียกวกว่าวิถีแห่งธรรมชาติ? เขาเฉลยในที่สุด ไข่จิงเก็บหนังสือในกระเป๋าเสื้อแล้วมองฉันอย่างตริตรอง ?พักหลังนี้ผมสัมผัสได้ถึงวิถีแห่งธรรมชาตินี้ในทุกสรรพสิ่ง? เขาพูด ?แล้วคุณล่ะ รู้สึกบ้างไหม?

?ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน? ฉันตอบ น้ำตาเริ่มไหล

เพราะเราทั้งสองรู้ดีอยู่ในใจว่าวิถีแห่งธรรมชาติที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ คือการตกหลุมรักกันทั้งๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจ เราทั้งคู่เปรียบเหมือนต้นไผ่สองต้นเอียงเอนเข้าหากันโดยสายลมอ่อน เราเอนตัวเข้าใกล้กันและจุมพิต หลงทางอยู่ในดินแดนล่องหนที่ซึ่งมีเราอยู่ด้วยกันสองคน

จากเรื่อง ?The Bonesetter?s Daughter / Amy Tan

แปลโดย จิรภรณ์ จันทวนิชกุล

โพสเมื่อ : 4/7/2007 17:02
Transfer the post to other applications Transfer







[ค้นหา ขั้นสูง]