เข้าระบบ

ชื่อเรียก:

รหัสผ่าน:

จำฉัน



ลืมรหัสผ่าน?

สมัครสมาชิก!

เมนู






ก ร ะ ดู ก ข อ ง เ ร า
มือวาง
เป็นสมาชิกเมื่อ:
15/5/2007 16:45
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 927
ใช่ว่าจะกินแต่แคลเซียม แล้วจะทำให้กระดูกแข็งแกร่ง
ไม่เป็นสาวกระดุกเปราะ หลังโก่ง เมื่อเป็นคุณยาย
เพราะทุกวันนี้คุณอาจเผลอกินอาหารที่ทำลายกระดูกแบบไม่รู้ตัวก็เป็นได้
อาหารที่ลดความหนาแน่นของกระดูก
1. ดื่มกาแฟมากกว่าวันละ 2 ถ้วย
มีงานวิจัยล่าสุดจากกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริการะบุว่า
กาแฟแค่ 2 ถ้วยก็มากพอที่จะทำให้กระดูกเปราะบางได้ เนื่องจาก
คาเฟอีนในกาแฟ จะทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะ ว่าแล้วสาว
ๆ ที่ติดกาแฟ ก็ดื่มน้อย ๆ ลงจะดีกว่านะ
2. น้ำอัดลม
มีงานวิจัยล่าสุดพบว่าเครื่องดื่มเย็นซ่าชื่นใจชนิดนี้
มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดภาวะกระดูกหักง่ายค่ะ
โดยผู้ที่ดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ
จะมีโอกาสเกิดกระดูกพรุนมากกว่าผู้ที่ไม่ดื่ม 3-4 เท่าทีเดียวละ
อยากให้กระดูกแข็งแรง ดื่มให้น้อยลง จะดีกว่านะ
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสุขภาพของกระดูก ผู้หญิงที่มีอายุเกิน 30
ปีแล้ว ความหนาแน่นของกระดูก นอกจากจะไม่เพิ่มขึ้นแล้ว
ยังเริ่มลดลงด้วย หากช่วงก่อนหน้านี้
คุณไม่ได้บำรุงกระดูกให้แข็งแรงเต็มที่
ก็อาจทำให้คุณกลายเป็นยายแก่ ที่กระดูกเปราะบางและแตกหักได้ง่าย
โดยเฉพาะกระดูกบริเวณสะโพก ซึ่งจะเจ็บปวดและทรมานมาก นอกจากนี้
ผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือน กระดูกจะบางลงราว ๆ 2 เปอร์เซ็นต์ทุก 1 ปี
ในขณะที่การกินแคลเซียม เมื่ออายุมากขึ้น
ไม่ได้ช่วยความเพิ่มความหนาแน่นให้กับกระดูกแต่อย่างใด
เพียงแต่ช่วยชะลอการสูเสียปริมาตรของกระดูกลง
มาเริ่มต้นสร้างความแข็งแรงให้กระดูกตั้งแต่วัยสาว ๆ
หน้ายังใสดีกว่า
***********************************************************
วิธีเสริมความแข็งแรงให้กระดูก
นอกจากการหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำลายความหนาแน่นของกระดูกแล้ว
ควรหาวิธีปกป้องและเสริมความแข็งแรงให้กระดูกกันตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่า
1. ออกกำลังกาย
เป็นวิธีที่ช่วยให้กระดูกแข็งแรงค่ะไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง แอโรบิค
เล่นเทนนิส ยกเวท กระโดดเชือก ช่วยเสริมความหนาแน่นให้กระดูกได้
ยกเว้นการว่ายน้ำที่กลับไม่ได้ผลดีนัก
2. รับประทานอาหารที่มีแคลเซียม
แคลเซียมเป็นสารอาหารที่สำคัญที่สุดสำหรับกระดูกและฟัน
โดยเฉพาะแคลเซียมในนมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต
เนยแข็งเป็นแคลเซียมที่ดูดซึมได้ดี
แต่ก็มักได้ไขมันเป็นของแถมหากเลือกเป็นนมพร่องมันเนย
ก็น่าจะปลอดภัยกว่า นอกจากนี้ อาหารพื้นบ้านเช่นปลากรอบ กุ้งแห้ง
กะปิ ผักใบเขียว เต้าหู้แผ่น และถั่วเหลือง
ก็เป็นเป็นอาหารที่มีแคลเซียมสูงเช่นกัน
โดยเฉพาะถั่วเหลืองนั้นนอกจากช่วยชะลอความเสื่อมของ กระดูกแล้ว
ยังลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมอีกด้วย
3. ควบคุมน้ำหนักตัว

การที่ปล่อยให้น้ำหนักตัวมากเกินไปจะทำให้คุณเสี่ยงกับการเป็นโรคกระดูกผุได้

4. เลิกสูบบุหรี่
สาวๆ ที่ติดบุหรี่ มักมีปั ญ หาโรคกระดูกผุก่อนเวลาได้
เนื่องจากบุหรี่ จะขัดขวางการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจน
ซึ่งช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมในลำไส้
5. วิตามินดี
วิตามินดีช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมในลำไส้
ช่วยเพิ่มปริมาตรของกระดูกได้ โดยเฉพาะนม
มีทั้งแคลเซียมและวิตามินดีสูง
แต่การซื้อวิตามินดีมารับประทานจะทำให้เกิดการสะสมในร่างกายมากเกินไป
และเกิดอันตรายได้
*******************************************************************
พลังมหัศจรรย์ในอาหาร เป็นยาขนานวิเศษที่ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง
ไร้โรคภัยมาเบียดเบียน ..
1. เต้าหู้ ... คุณภาพคับก้อน
จากเมล็ดถั่วเหลืองซึ่งจัดว่าเป็นยอดขุนพลของพืชตระกูลถั่ว
ถูกแปลงโฉมมาเป็นเต้าหู้หลากหลายรูปแบบ มีทั้งชนิดก้อน ชนิดหลอด
จะเลือกแบบแข็งหรือแบบนิ่มก็ยังได้ เลือกได้ตามใจชอบกัน
ราคาก็ไม่แพง หาซื้อได้ง่าย แต่ให้คุณค่าสูงอุดมด้วยโปรตีน
เหล็กและแคลเซียม แต่ปลอดคลอเรสเตอรอล
ดร . แอนเดอร์สันแห่งมหาวิทยาลัยเคนตักกี ระบุว่า การกินเต้าหู้
เป็นประจำทุกวันจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ
และยังช่วยป้องกันการผิดปกติของฮอร์โมนที่จะก่อให้เกิดมะเร็งบางชนิด
โดยเฉพาะมะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้ สำหรับสาวๆ
ที่ต้องการมีผิวพรรณที่สดใสผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า
ควรรับประทานเต้าหู้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง
จัดเมนูอาหารเต้าหู้ไว้บนโต๊ะอาหารทุกวันนอกจากสุขภาพจะดีแล้ว
ผิวพรรณก็จะสดใสขึ้นอีกด้วยเห็นไหมคะ คุณภาพคับก้อนจริงๆค่ะ
2. มะเขือเทศ ..... พระเอกตัวจริงของอาหารอิตาลี
ผลไม้สีสันสดใสชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในเม็กซิโก
ต่อมาได้นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายในยุโรป
แต่กลายมาเป็นพระเอกตัวจริงในอิตาลี
ชาวอิตาลีจัดได้ว่าเป็นนักบริโภคมะเขือเทศตัวยงอาหารยอดฮิตของอิตาลีล้วนมีมะเขือเทศเป็นส่วนผสม
สำคัญ
เคล็ดลับความอร่อยของอาหารอิตาลีจึงอยู่ที่ซอสมะเขือเทศนี่แหล่ะค่ะ
ผลสรุปของสถาบันมะเร็งแห่งชาติของสหรัฐระบุว่า
การบริโภคมะเขือเทศและผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศในปริมาณสูง
สามารถลดความเสี่ยงจากการเป็นมะเร็งหลายชนิดได้
โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งในช่องท้อง
เนื่องจากในมะเขือเทศมีสารไลโคพีน (Lycopene)
ซึ่งมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง
และโรคที่เกี่ยวกับทางเดินอาหารได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้วิตามินเอและซีในมะเขือเทศก็ยังช่วยให้สุขภาพผิวสดใส
ชนิดที่ไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอางราคาแพงกันเลยทีเดียว
3. กินกระเทียมให้เป็นยาโดยไม่ต้องพึ่งใบสั่งแพทย์
คงจะคุ้นเคยกันดีสำหรับพืชสมุนไพรชนิดนี้เพราะแทบทุกครัวเรือนต่างมีไว้คู่ครัว
ถ้าศึกษาจากผลงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกแล้ว
เราอาจจะต้องเก็บกระเทียมไว้เคียงคู่กับตู้ยาก็เป็นได้ ดร .
วาร์โรอี . ไทเลอร์ ที่ปรึกษาคณะเภสัชศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเพอดู
เวส ลาฟาเยต พบว่า กระเทียมมีสรรพคุณเสมือนยาแอส - ไพริน
คือทำให้โลหิตไหลเวียนดีขึ้น สารอัลลิซินในกระเทียม
จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
ช่วยให้ระบบการย่อยอาหารและการขับถ่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้การกินกระเทียมเป็นประจำทุกวันโรคหัวใจก็ไม่ถามหากันง่าย ๆ
เพราะกระเทียมเป็นตัวช่วยลดปริมาณคลอเรสเตอรอล
และไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้เป็นอย่างดี
ยังไม่หมดนะคะ สำหรับสรรพคุณของกระเทียม ..
หากเราย้อนประวัติศาสตร์ไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
กระเทียมเป็นผู้ช่วยตัวเอกในการรักษาบาดแผลของทหาร
เนื่องจากกระเทียมมีฤทธิ์ในการทำลายเชื้อโรคสารพัดชนิด
ทั้งเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา
ก่อนจะหยิบอาหารเข้าปากในมื้อต่อไป อย่าลืมกระเทียมสดๆ สัก 2
ช้อนชารับประทานคู่กับอาหารมื้ออร่อยของคุณนะคะ
คุณจะได้สารอาหารที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสรรพคุณทางยาทีเดียว
4. แก้นิสัยโกรธง่ายด้วยโยเกิร์ต
ดร . เม็ทชนิคอฟแห่งสถาบันปาสเตอร์ ในฝรั่งเศส
ได้สรุปผลงานของเขาไว้ว่า การกินโยเกิร์ตทุกวัน
จะทำให้สุขภาพดีและอายุยืน จุลินทรีย์แลคโตแบคซิลัสในโยเกิร์ต
จะช่วยสร้างยาปฎิชีวนะใน ลำไส้ซึ่งสามารถฆ่าเชื้อแบททีเรียต่างๆ
เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ลำไส้ ป้องกันกระเพาะจากการเป็นแผล
ลดไขมันในเส้นเลือด และยังช่วยไม่ให้ฟุ้งซ่านและโกรธง่ายอีกด้วย

****************************************************************


6 อัศวินสำหรับร่างกาย
ร่างกายของคนเราสามารถสร้างคอเลสเตอรอลได้เองอยู่แล้ว
ดังนั้นถ้าเรารับประทานอาหารที่มีไขมันสูงระดับคอเลสเตอรอลในกระแสเลือดก็จะมีสูงขึ้นตามไปด้วย
เสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดอุดตันและหัวใจวายแน่นอน
อาหารบางอย่างมีคุณสมบัติช่วยควบคุมคอเลสเตอรอลได้เป็นอย่างดีเยี่ยม
6 อัศวินตัวสำคัญนั้น คือ มะเขือต่างๆ หอมหัวใหญ่ กระเทียม
ถั่วเหลือง แอปเปิ้ลและโยเกิร์ต
วันใดมื้อใดที่คุณมีเมนูอาหารซึ่งอุดมไปด้วยไขมันมากๆ
ก็ควรรับประทานอัศวินตัวหนึ่งตัวใดเพื่อควบคุมไขมัน เช่น
เมื่อรับประทานแกงกะทิที่มันๆ ก็ควรรับประทานมะเขือเปราะ
หรือมะเขือพวงมากๆ
เมื่อรับประทานไข่มากๆ ซึ่งเป็นตัวเพิ่มคอเลสเตอรอลที่น่ากลัวนัก
คุณก็ควรรับประทานหอมหัวใหญ่ร่วมกับไข่เจียวหรือไข่ดาวด้วย
หรือรับประทานแอปเปิ้ลวันละ 1 ผลทุกๆ วัน หรือโยเกิร์ตวันละ 1
ถ้วยทุกๆ วัน รับประทานกระเทียมสดๆเล็กน้อยกับอาหารจานยำ
จานคาวต่างๆ เพื่อขับคอเลสเตอรอลออกจากร่างกาย
อันเป็นเรื่องที่แสนง่ ายดายกว่าการเลิกรับประทานอาหารมันๆ
ทุกจานโดยสิ้นเชิง คุณยังสามารถรับประทานเนยแฮม เบคอน ขาหมู ไข่
หรือ อาหารไขมันสูงจานต่างๆ ได้ในบางมื้อบางวัน
หากเพียงคุณรู้จักรับประทานอาหารอัศวินเหล่านี้เข้าไปด้วย
ซึ่งนอกจากจะช่วยลดคอเลสเตอรอลแล้ว อาหาร 6
อย่างนี้ยังมีคุณค่าของสารอาหารและแร่ธาตุสำคัญ
ที่จะนำประโยชน์สู่ร่างกายของคุณอย่างมากมายในด้านอื่นๆ อีกด้วย
เช่น แอปเปิล หอมใหญ่และโยเกิร์ต ช่วยให้คุณขับถ่ายดี
ผิวพรรณสวยงาม เป็นต้น
***********************************************************
เรื่องกล้วยๆ
การกินกล้วยหอมหนึ่งผล
ไม่เพียงแต่ทำให้อิ่มท้องเท่ากับข้าวหนึ่งจานเท่านั้น
แต่กล้วยยังให้ผลทางยาและสมุนไพรที่ข้าวไม่มี
คือสามารถดูแลและรักษากระเพาะอาหารของเราได้ ดร . จีนคาร์เพอร์
นักโภชนาการ แจ้งว่า
กล้วยเป็นผลไม้ที่ช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยในกระเพาะ (dyspepsia)
ได้เป็นอย่างดี การรับประทานกล้วยเป็นประจำจะทำให้กระเพาะแข็งแรง
ปัญหาจากกรดในกระเพาะจะลดลง
ผู้ที่มีปัญหาแผลในกระเพาะจะมีอาการดีขึ้น นอกจากนี้
กล้วยยังมีฤทธิ์ทางปฏิชีวนะ สามารถฆ่าเชื้อได้อีกด้วย
จากการศึกษาผู้ป่วย 46 คน ที่มีอาการปวดในกระเพาะ
โดยไม่มีแผลในกระเพาะอาหาร โดยจัดให้ผู้ป่วยจำนวน 23 ราย
ได้รับกล้วยผงบรรจุแคปซูลทุกวัน ส่วนอีก 23 ราย
ให้รับแคปซูลของยาหลอกที่บรรจุแป้งธรรมดา
พบว่าผ่านไปได้ 8 สัปดาห์ ผู้ป่วยที่ได้รับผงกล้วย ร้อยละ 50
ไม่มีอาการปวดเกิดขึ้นเลย และร้อยละ 25 มีอาการดีขึ้น
ส่วนผู้ป่วยที่ได้รับยาหลอกจำนวน ร้อยละ 20
เท่านั้นที่บอกว่ามีอาการค่อยยังชั่วขึ้น
แสดงให้เห็นว่าการรับประทานกล้วย
แม้ว่าจะอยู่ในรูปของกล้วยผงก็สามารถช่วยบรรเทาอาการโรคกระเพาะได้

โพสเมื่อ : 13/9/2007 8:08
Transfer the post to other applications Transfer







[ค้นหา ขั้นสูง]