เข้าระบบ

ชื่อเรียก:

รหัสผ่าน:

จำฉัน



ลืมรหัสผ่าน?

สมัครสมาชิก!

เมนู

   ทุกโพส (aemchan)


« 1 ... 13 14 15 (16) 17 18 19 20 »


Re: อุทาหรณ์***ยัดเยียดการเรียนเกินไป ทำให ้เด็กสติขาด
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404
ขอบคุณมากกกกค่ะ ที่แบ่งปันเรื่องดีๆที่เป็นประโยชน์
ฝากไปถึงพ่อแม่ด้วยนะคะ ป้าเอมว่า ปัญหาในสังคมปัจจุบันนี้ก็คือ
พ่อแม่นิยมมีลูกเพียง"คนเดียว" ทำให้ทุ่มเทก้นสุดๆ โดยที่เบื้องหลัง
ของการทุ่มเทนั้น ถ้าวิเคราะห์ดู บางทีอันดับหนึ่งไม่ใช่ลูก
แต่เป็นภาพลักษณ์ในสังคมที่ต้องการการชื่นชม กลัวจะโดนคนอื่นวิพากษ์ว่า
ไม่ได้เรียนพิเศษวันเสาร์อาทิตย์ เป็นต้น
ของป้าเอมเนี่ย ลูกๆไปเรียนวันเสาร์ค่ะ แต่เพราะน้องมาขอเอง เค้ามีสังคม
เพื่อนของเค้า จริงๆเค้าอยากไปเล่นมากกว่าค่ะ เพราะวันเสาร์วิชาไม่ได้
หนักหนาอะไร เพิ่งมาเริ่มเรียนปีที่แล้วนี่เอง(ตอนนี้ป.5)ค่ะ
สิ่งนึงที่ป้าเอมไม่เคยเอามาเป็นหัวข้อพิจารณาในการตัดสินใจคือ
"ใครๆเค้าก็เรียนกัน หรือ ใครๆเค้าก็ทำกัน" เพราะเป็นการเปรียบเทียบ
ขอให้หันมามองลูกของเราว่า เค้าต้องการอะไร อย่าลืมถามเจ้าตัวด้วยนะคะ
แต่ในที่สุดต้องถามตัวเองว่า เราจะปั้นลูกของเราเพื่อใคร เพื่อตัวเค้ามากกว่า
หรือเพื่อให้เราดูดี...

โพสเมื่อ : 29/6/2007 8:31
_________________
Open in new window
Transfer the post to other applications Transfer


Re: ราศีมีผลต่อน้ำหนักจริงหรือไม่
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404
ราศีพิจิกค่ะ ตรงเลยแล่ะ กินแล้วเหลือไม่เป็น เนอะ ป้าอร...แฮ่ะๆ

โพสเมื่อ : 29/6/2007 8:20
_________________
Open in new window
Transfer the post to other applications Transfer


ANONE - เอ่อ...คือว่านะ...
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404




สวัสดีค่ะ

โอเก็งขิ เดสก๊ะ?

จำกันได้ป่าวเนี่ย... หวังว่าทุกคนจะสบายดีนะคะ ช่วงนี้ฝนตกรถติดมากเลยนะคะ แต่ทำไงได้เป็นคนไทยต้องอดทนค่ะ

เพื่อไม่ให้เครียดกันไปมากกว่านี้ มาเข้าเรื่องกันเลย เพื่อนๆคงเคยได้ยินศัพท์คำว่า "อาโนเนะ" กันใช่มั้ยคะ งั้นมาดูกัน...

อา-โน-เนะ

A-NO-NE

จริงๆแล้ว คำว่า "อา-โน-เนะ" ในภาษาญี่ปุ่นนั้น เป็นเพียงแค่คำเกริ่นขึ้นต้นประโยคค่ะ แปลให้โดนๆว่า "คือว่านะ..." "เนี่ยนะ.." "นี่+สรรพนาม(คุณ/เธอ/ตัวเอง)..." แล้วพอเกริ่นเสร็จก็ย่อมต้องมีประโยคเนื้อความหลักตามมาด้วยนะ เพราะ"อาโนเนะ" ไม่ใช่คำศัพท์ที่มีความหมายในตัวเอง อันที่จริง ถ้าเราพูดแค่ "อาโน..." (แบบที่ใครๆชอบเอามาล้อเวลาเลียนแบบคนญี่ปุ่นไง) มันก็จะแปลว่า "เอ่อ..." "คือว่า..." ก็เป็นการเกริ่นเหมือนกัน ต่างกันตรงที่"อาโนเนะ"เป็นการเน้นย้ำประโยคต่อไปที่จะพูดมากกว่า

จำลองสถานการณ์...
ชาคริต: น้องจั๊กจั่นคนงาม ที่พี่ทำผิดไปน้องจะให้อภัยได้มั้ยครับ

จั๊กจั่น: อาโนเนะ (ขอแปลตรงนี้ว่า "นี่เธอ...") ขอบอกให้แจ่มเลยนะว่า ฝันไปซะเถอะ พ่อเจ้าชู้ประตูดิน

พอจะเข้าใจลักษณะการใช้บ้างมั้ยคะ ป้าเอมก็ไม่รู้ว่าทำมั้ยคนไทยถึงเอาคำว่า "อาโนเนะ"มาใช้เป็นศัพท์แสลงในความหมายว่า "น่ารักกุ๊กกิ๊ก"กันไปได้จริงๆก็เห็นด้วยนะคะว่า เป็นคำที่ฟังแล้วดูน่าร้ากน่ารัก แต่จะมีใครรู้ความหมายที่แท้จริงน้อ...
เคยมีเพื่อนญี่ปุ่นของป้าเอมเค้าถามมาว่า ทำไมคนไทยมาพูดกับเค้าแล้วชอบพูดคำเดียวว่า "อาโนเนะ" "อาโนเนะ" ตกลงจะพูดอะไรต่อเหรอ... นั่นสิ เค้าก็คงรอฟังต่อนะว่า จะพูดอะไร 555

เอาล่ะ ไหนๆก็ไหน แถมให้ก็ได้ คงมีคนอยากรู้ว่า "คิขุ อาโนเนะ"น่ะ จริงๆแปลว่าอะไร ตอนนี้ก็รู้จักคำว่า "อาโนเนะ"ไปแล้วนะคะ ส่วนคำว่า"คิขุ"นั้น ความหมายก็คือ "ดอกเบญจมาศ"ค่ะ เกี่ยวกันตรงไหนเนี่ย...หรือถ้าเป็นคำกริยาก็มีความหมายเยอะมาาาก เช่น ฟัง ได้ผล ฯลฯ แล้วพอมาเป็น"คิขุ อาโนเนะ"แล้ว จะให้แปลว่าอะไรดีล่ะ มันช่างมั่วแหลกแบบไม่เอาความหมายจริงๆ 555 ป้าเอมเดาว่า คำว่า"กุ๊กกิ๊ก"มันเสียงใกล้เคียงกับคำว่า"คิขุ"ก็เลยเอามาใช้ซะเลย สรุปว่าเน้นอารมณ์ของคำที่ฟังดูน่ารักและฟังดูเป็นญี่ปุ๊นญี่ปุ่นมากกว่าไง...


อ้าว เกือบลิมซ้อมออกเสียงแน่ะ นึง ส่อง ซ่ำ

อา-โน-เนะ

เก่งจังเลย...

ต่อไปนี้ ขอเชิญทุกๆคนไป "อาโนเนะ" กันให้สนุกนะคะ 555

 อันนี้แปลว่า "นี่ตัวเอง คิดถึงนะ"




อันนี้ประมาณว่า "เอ่อ..แบบว่า..." (มีเหงื่อตก สงสัยจะสารภาพอะไรซักอย่าง)


โพสเมื่อ : 28/6/2007 9:28
_________________
Open in new window
Transfer the post to other applications Transfer


DOBUTSU - สัตว์
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404



สวัสดีค่ะ

วันนี้ป้าเอมจะมาเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง คือจะสอนศัพท์เรื่อง"สัตว์"ค่ะ เหมือนเด็กๆไงคะ พอนับเลขได้ พ่อแม่ก็มักจะสอนให้ลูกๆเรียกชื่อสัตว์ต่างๆ จริงๆก็ไม่รู้ว่าอยากรู้จักสัตว์คำไหนบ้าง ก็เลยตามใจเซ็นเซย์(เหมือนเคย)ละกัน...นะ

"สัตว์" ในภาษาญี่ปุ่นเราเรียกว่า "โด-บุต-สึ" ค่ะ

DOBUTSU

5 อันดับ ชื่อสัตว์ที่พ่อแม่ต้องสอนให้เด็กๆรู้จัก

อันดับ 1 หมา หรือ เวลาสอนเด็กจะเรียกว่า "บ๊อก บ๊อก"
"อินุ" I-NU




โดยเฉพาะบ้านที่เลี้ยงหมาอยู่แล้วนี่ไม่ต้องพูดถึงค่ะ รับรองต้องสอนให้ลูกเรียกหมาก่อน หรือถ้าไม่ได้เลี้ยงในบ้าน ก็จะเห็นได้จากหมาจรจัดประจำซอยต่างๆนี่แล่ะค่ะ แต่ปกติป้าเอมว่าไม่น่าสอนคำว่า "หมา"นะคะ ส่วนมากจะสอนว่า "บ๊อก บ๊อก" ซะมากกว่า ฟังดูน่ารักน่าเอ็นดูดีค่ะ

อันดับ 2 แมว หรือ หรือ เวลาสอนเด็กจะเรียกว่า "เมี้ยว เมี้ยว"
"เนโกะ" NE-KO



อันนี้ก็สุดฮิตเช่นกัน เพราะบ้านเรามีแมวจรจัดเยอะไม่แพ้หมาจรจัด พอเห็นแมวเดินมา เราก็จะสอนละว่า "เมี้ยว เมี้ยว" เด็กบางคนกว่าจะรู้ว่า"เมี้ยว เมี้ยว" คือสัตว์ตัวเดียวกับ "แมว"เนี่ย ต้องเข้าอนุบาลก่อนด้วยซ้ำ 555

อันดับ 3 นก
"โทริ" TO-RI



สำหรับเด็กๆแล้ว "นก"ช่างเป็นสัตว์ที่มหัศจรรย์มากค่ะ เพราะมันบินอยู่บนท้องฟ้า คือเวลาแม่พาลูกไปข้างนอกเห็นนกบินมา ก็จะชี้"นก" แล้วก็สอนลูกๆให้รู้จักโดยพลัน (คนที่มีลูกถึงจะเข้าใจนะคะ เพราะป้าอรเค้าไม่ค่อยเข้าใจค่ะ 555)

อันดับ 4 ช้าง
"โซ่" ZO



คำนี้เนี่ย คงเป็นผลพวงมาจากเพลง "ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า" ที่เด็กๆชื่นชอบนั่นแล่ะค่ะ จำได้ว่าตอนเด็กๆที่ไปเที่ยวสวนสัตว์ดุสิต เห็นช้างแล้วตื่นเต้นมากเลย แต่สมัยนี้ เด็กๆไม่ต้องเหนื่อยไปสวนสัตว์แล้วนะ เพราะช้างมาโชว์ตัวให้เห็นในเมืองกันเลย นั่งอยู่ในรถกลางสีลม ก็มีสิทธิ์เห็น"ช้าง"ได้ค่ะ

อันดับ 5 ปลา
"ซาคานะ" SA-KA-NA



เดี๋ยวนี้เด็กๆก็จะเห็นปลาได้บ่อยกว่าสมัยเรานะคะ เพราะมีร้านขายปลาสวยงามเยอะขึ้น แล้วก็ตามห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารก็มักจะมีตู้ปลาโชว์ไว้ ประมาณว่าเสริมฮวงจุ้ย ก็เป็นโชคดีของเด็กๆค่ะ ที่ได้ดูปลากันมากขึ้น สำหรับเด็กๆ พวกเค้าจะสนุกสนานกับการดู "ปลา"มากค่ะ เด็กบางคนสามารถนั่งดูได้เป็นชั่วโมงนะ ป้าเอมว่ามันก็เพลินจริงๆน่ะ

อะ...อันนี้ก็นำเสนอมาพอให้ได้เฮฮากัน แต่ป้าเอมจะกระซิบดังๆให้ฟังว่า ตอนน้องแทนกับน้องเอมี่เล็กๆเนี่ย จะมีสัตว์อีกคำที่สองคนรู้จักก่อนเลย คือ "มอ มอ" (วัว) เพราะแถวบ้านป้าเอมสมัยนั้น ชอบมีคนต้อนฝูงวัวมากินหญ้าตรงที่รกร้างใกล้ๆบ้านค่ะ จริงๆก็แค่สุขุมวิท 62 ไม่ได้มีทุ่งหญ้าทุ่งนาเล้ยยย อ้อ...ตอนนี้ไม่มีแล้วนะ



โพสเมื่อ : 27/6/2007 9:43
_________________
Open in new window
Transfer the post to other applications Transfer


SUJI - ตัวเลข
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404


สวัสดีค่ะ
ป้าเอมรู้สึกว่าอยากสอนนับเลขภาษาญี่ปุ่นขึ้นมาจับใจ เหมือนกับเด็กๆนะ พอเริ่มพูดพ่อ-แม่ได้ ต่อไปก็มักจะเริ่มนับ 1 ถึง 10ใช่ป่ะ เรียกว่าเป็นคำเบสิคก็ได้ งั้นเราก็มาเริ่มกันเลยนะคะ

ตัวเลขในภาษาญี่ปุ่น เราเรียกว่า ซู-จิ ค่ะ

1 อิจิ I-CHI
2 นิ NI

3 ซัน SAN

4 ชิ,ย่ง,โยะ SHI,YON,YO

5 โกะ GO

6 โระคุ RO-KU

7 ชิจิ,นะน่ะ SHI-CHI, NA-NA

8 ฮะจิ HA-CHI

9 คุ,คิว KU, KYU

10 จู้ JU

อะ...ตานี้ เวลาจะท่องนะ ก็ท่องเป็นชุดคำต่อไปนี้ จะช่วยให้จำได้ง่ายขึ้นค่ะ วิธีคืออ่านแล้วให้วรรคระหว่างแต่ละชุดคำนะคะ

อิจิ นิ / ซัน ชิ / โกะ โระคุ / ชิจิ ฮะจิ / คุ จู้

พยายามท่องให้ติดปากเลยค่ะ

ซ้อมกันดูนะคะ พร้อมรึยัง... นึง ส่อง ซ่ำ


อิจิ นิ / ซัน ชิ / โกะ โระคุ / ชิจิ ฮะจิ / คุ จู้เก่งมากค่ะ  สำหรับตัวเลข 3 ตัวที่สามารถอ่านได้สองแบบนั้น ก็จำคำหลังไว้ด้วยนะคะ เพราะส่วนใหญ่จะใช้กันมากกว่าคำหน้าด้วยซ้ำ
4 ชิ,ย่ง,โยะ

7 ชิจิ,นะน่ะชิจิ, นะน่ะ

9 คุ,คิว

อย่างเช่นเรื่องเวลาก็จะอ่านอย่างนี้นะคะ (**"จิ" แปลว่า "โมง")
4 โยะ - จิ

7 ชิจิ - จิ หรือ น่ะนะ - จิ

9 คุ - จิ

เรื่องจะเอาตัวเลขไปผสมคำแล้วใช้คำไหนเนี่ย ป้าเอมว่ามันยังยากไป ขอแค่ท่องจำไว้เฉพาะเลข 1 ถึง 10 ก็หรูแล้วล่ะค่ะ 555


โพสเมื่อ : 26/6/2007 5:52
_________________
Open in new window
Transfer the post to other applications Transfer


Re: @@ ชวนคนนอนดึกมาคุยเรื่อยเปื่อย ภาค#1 อีกรอบค่ะ@@
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404
ป้าอรขอมา น่าร้า----ก









โพสเมื่อ : 25/6/2007 18:05
_________________
Open in new window
Transfer the post to other applications Transfer


Re: @@ ชวนคนนอนดึกมาคุยเรื่อยเปื่อย ภาค#1 อีกรอบค่ะ@@
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404
โอ่ฮาโย่ ค่ะ

โพสเมื่อ : 25/6/2007 8:31
_________________
Open in new window
Transfer the post to other applications Transfer


SHIMPAI DANE - เป็นห่วงจังเลยนะ
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404






สวัสดีค่ะ

วันจันทร์อีกแล้ว เร็วเหมือนโกหก ช่วงนี้ข่าวคราวบ้านเมืองไม่ค่อยสงบสุข พวกเราก็คงอดหวั่นใจกันไม่ได้ใช่มั้ยคะ ในกรณีนี้ ป้าเอมก็จะขอเสนอคำศัพท์ที่เข้ากับสถานการณ์ที่เกริ่นเอาไว้ซะเลย

ชิม-ไป ดะ-เนะ




SHIM-PAI

คำว่า "ชิม-ไป ดะ-เนะ" ก็แปลว่า "เป็นห่วงจังเลยนะ" ค่ะ จริงๆคำนี้โดดๆแค่ "ชิม-ไป" ก็จะเป็นคำนาม ซึ่งจะแปลให้ตรงๆก็คือ "ความเป็นห่วง, ความกังวล" แล้วถ้าจะทำให้เป็นรูปกริยา มันก็ต้องเติม "ซุ-รุ"(する)ที่ด้านหลังคำด้วย กลายเป็น "ชิม-ไป ซุ-รุ"(อธิบายลึกไปก็จะงงกันซะก่อน เอาเป็นว่าคำที่ป้าเอมสอนเป็นคำพูดที่เค้ามักพูดกันในกรณีที่ว่านี้ละกัน)

อะ...ออกเสียงพร้อมๆกันนะคะ นึง ส่อง ซ่ำ

ชิม-ไป ดะ-เนะ

ดีมากค่ะ

คราวนี้ จะแอบแถมสำนวนตรงกันข้ามให้นะ ถ้าเราไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วงเป็นกังวล ก็จะพูดในรูปปฏิเสธแกมขอร้องว่า...

"ชิม-ไป ชิ-ไน-เดะ-เนะ"   แปลว่า "อย่าห่วงเลยนะ/ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ"

จริงๆ "ชิ-ไน-เดะ" (しないで)เป็นรูปปฏิเสธขอร้องของกริยา "ซุ-รุ"(する)นั่นเองค่ะ เท่ากับคำว่า "Don't"..."ในภาษาอังกฤษนะ แนะนำให้จำสำนวนรูปนี้ไว้ "ชิ-ไน-เดะ" เพราะถือว่าเป็นรูปกริยาที่ใช้ได้บ่อยๆ ถ้าจะพูดให้สุภาพก็เหมือนเคย ใส่คำเอนกประสงค์เข้าไปค่ะ จำกันได้มั้ย ใช่แล้ว..."กุ-ดะ-ไซ"(ください) ไงคะ กลายเป็น...

"ชิม-ไป ชิ-ไน-เดะ-กุ-ดะ-ไซ"  อันนี้เราก็พูดในเรื่องการงานหรือเรื่องทั่วๆไปอะไรก็ได้ค่ะ เช่น แม่ห่วงลูกสาวที่จะเดินทางไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น ลูกสาวคนดีก็ปลอบว่า...

"ชิม-ไป ชิ-ไน-เดะ-เนะ ได-โจ้-บุ โย๋" = "ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะคะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ"
**"โย๋"(よ)เป็นคำลงท้ายคล้ายๆ"เนะ" แต่ "โย๋" แปลว่า "ค่ะ/ครับ/จ้ะ" ป้าเอมรู้สึกว่า อารมณ์จะเป็นการแสดงความมั่นใจกับสิ่งที่ตัวเองพูดอยู่น่ะ ต่างกับ "เนะ"(ね) ที่เป็นการย้ำกับคู่สนทนา ป้าเอมชอบแปลให้เข้าใจง่ายว่า "...นะ/เนอะ" คือประมาณว่าชักชวนให้คู่สนทนาเห็นด้วยกับตัวเองน่ะ พอจะแยกออกมั้ย ยกตัวอย่างให้ดูนะ...

ชิม-ไป ดะ-เนะ  --> "เป็นห่วงจังเลยนะ" อันนี้ชวนผู้สนทนารู้สึกคล้อยตาม

ชิม-ไป ดะ-โย๋  --> "เป็นห่วงจังเลยเนี่ย" อันนี้พูดแบบเน้นความรู้สึกตัวเองเป็นหลัก

โอเคมะ เริ่มออกนอกเรื่อง แถมไปแถมมาซะเยอะเลย 555 เอาเป็นว่า ทั้งปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ละก็ปัญหาม็อบต่อต้านที่กำลังเกิดขึ้นเนี่ย ชวนให้ "ชิม-ไป ดะ-เนะ"จิงๆจ้--า


โพสเมื่อ : 25/6/2007 8:25
_________________
Open in new window
Transfer the post to other applications Transfer


Re: **อยากดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเพื่อนๆค่า**
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404
ดูแล้วหายเครียดดีค่ะ....





โพสเมื่อ : 25/6/2007 8:03
_________________
Open in new window
Transfer the post to other applications Transfer


NEMUI - ง่วง
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404




สวัสดีค่ะ

เมื่อวานดูคอนเสิร์ต "Academy Fantasia Season 4" ซะดึก วันนี้ตื่นมาตาโบ๋ ง่วงมั่กๆ เข้าเรื่องซะเลย...

เน-มุ่ย




NE-MUI

ค่ะ วันนี้ป้าเอม "เน-มุ่ย" จิงๆอ่ะ ก็แปลว่า "ง่วง" นั่นเอง คำนี้สั้นๆง่ายๆดีนะคะ คือคำวิเศษณ์(adjectives)ในภาษาญี่ปุ่นเนี่ย ก็มีคำสั้นๆส่วนมาก 3 พยางค์นี่เยอะมาาากเลยค่ะ แต่ไอ้ที่ยาวเฟ้ยก็มีนะ แบบพูดแล้วลิ้นแทบจะพันกันเลย 555

อะ ลองมาออกเสียงกันดู นึง ส่อง ซ่ำ

เน-มุ่ย

ดีมากค่ะ

เนี่ย "เน-มุ่ย"มากๆก็อันตรายนะคะ เห็นข่าวพ่อศรรามรูปหล่อมั้ย ง่วงแล้วก็ยังฝืนขับรถจนเกิดอุบัติเหตุจนได้ ถ้าจะให้ดี นอนก่อน หรือจอดรถข้างทางงีบดีกว่านะคะ "ง่วงไม่ขับ" ค่ะ




โพสเมื่อ : 24/6/2007 6:38
_________________
Open in new window
Transfer the post to other applications Transfer


GAMBATTE NE - พยายามเข้านะ
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404




สวัสดีค่ะ

วันนี้เข้ามาโพสต์ช้าเหมือนเคย เพราะวันเสาร์ต้องรับ-ส่งลูกเรียนพิเศษกันวุ่นวายเลยค่ะ

อะ...ทีนี้เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราก็มาเรียนคำศัพท์ใหม่กันเลยนะ

ป้าเอมก็อินเทรนด์เหมือนกันค่ะ เพราะคืนนี้สามทุ่มจะรอดู"คอนเสิร์ต Academy Fantasia Season 4"

ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตแรกทางทรูด้วย กรี๊ดๆๆๆ แต่มีนักล่าฝันเข้าบ้านไปตั้ง 20 คน ยังจำไม่ครบเลย

วันนี้เค้าก็จะคัดออกตู้มเดียวเหลือ 11 หรือ 12 ก็จำไม่ได้แล้ว ลุ้นมากเลยนะ อยากดูๆๆๆๆ

เพราะฉะนั้น เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ ป้าเอมก็จะเสนอคำศัพท์ที่เอาไว้เชียร์นักล่าฝันที่คุณชื่นชอบนะคะ

กัม-บั๊ต-เตะ เนะ




GAM-BAT-TE ne


คำว่า "กัม-บั๊ต-เตะ เนะ" แปลว่า "พยายามเข้านะ" หรือที่ป้าเอมชอบแปลโดนๆว่า "สู้เค้านะ" ประโยคนี้ก็เช่นเคยเป็นรูปธรรมดา าจะพูดสุภาพก็ง่ายแสนง่าย แค่เติม "กุดาไซ" เข้าไปก็เรียบร้อยค่ะ
**สังเกตมั้ยคะว่า อักษร -n มาอยู่หน้าอักษร B จึงต้องแปลงร่างเปลี่ยนเสียงเป็น -m โดยอัติโนมัติค่ะ คนที่จำไม่ได้ ให้กลับไปทบทวนที่คำศัพท์ "KOMBANWA" อีกทีนะคะ-->
http://www.trendypda.com/modules/newb ... .php?topic_id=32&forum=10

ออกเสียงกันดูนะคะ นึง ส่อง ซ่ำ

กัม-บั๊ต-เตะ เนะ

เก่งมากค่ะ

"กัม-บั๊ต-เตะ เนะ" หรือ "กัม-บั๊ต-เตะ กุ-ดา-ไซ" ถือเป็นคำยอดฮิตอีกคำทีเดียว ไม่ว่าจะเอาไว้เชียร์กีฬา เชียร์คอนเสิร์ต หรือ ให้กำลังใจ ได้หมดค่ะ เป็นศัพท์"เอนกประสงค์"จริงๆ เช่น เวลาเพื่อนร่วมงานโดนหัวหน้าเรียกเข้าไปในห้อง แล้วเราก็แอบรู้ว่าเค้ากำลังจะโดนเล่นงาน ก็ใช้ "กัม-บั๊ต-เตะ เนะ" เนี่ยแล่ะ แบบประมาณว่าเอาใจช่วยอยู่นะ... ส่วนตัวป้าเอม รู้สึกเหมือนเวลาพูดคำนี้นะ มันจะแฝงความรู้สึกที่อวยพรให้ประสบความสำเร็จไว้ด้วย เพราะถ้าเป็นคนที่เราไม่ชอบ เราก็คงไม่พูดเชียร์เค้าหรอก 555

อย่าลืมนะคะ คืนนี้ ไปเชียร์ "คอนเสิร์ต Academy Fantasia Season 4" กันโดยพร้อมเพรียง
แล้วช่วยกันตะโกนคำว่า "กัม-บั๊ต-เตะ เนะ" ดังๆเล้ยยยยยย

ก่อนไป เอาภาพน่ารักๆมาฝากกันอีกนะคะ...












โพสเมื่อ : 23/6/2007 14:12
_________________
Open in new window
Transfer the post to other applications Transfer


Re: วิธีจับชายหนุ่ม ที่มีแฟนอยู่แล้ว อย่างแนบเนียน
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404
ต้องเหนื่อยขนาดนี้เลยเหรอ...


แต่ผู้ชายที่ตกหลุมเนี่ย ตลกฝ่านะ 555

โพสเมื่อ : 22/6/2007 9:53
_________________
Open in new window
Transfer the post to other applications Transfer


ONEGAISHIMAS - ช่วยหน่อยนะคะ
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404




สวัสดีค่ะ

เป็นยังไงกันบ้าง เรียนกันมาหลายอาทิตย์แล้ว พัฒนากันไปบ้างยังคะ ใครยังไม่ได้ทำแบบฝึกหัดก็ลองไปทำดูนะ อ้อ...อย่าแอบดูเฉลยละกัน ไม่งั้นไม่หนุกน้---า อิอิ

เอาล่ะ วันนี้มาเจอคำใหม่กัน คำนี้ก็จะเป็นคำพูดมาตรฐานของคนญี่ปุ่นอีกคำนะ แบบประมาณว่า "พูดกันจัง" มาดูกันเลย

โอ-เน-ไง-ชิ-มัซ




O-NE-GAI-SHI-MAS

คำว่า "โอ-เน-ไง-ชิ-มัซ" แปลแบบทางก๊ารทางการได้ว่า "ขอความกรุณาด้วยนะคะ" หรือ "รบกวนด้วยนะคะ"
โอย...อย่างที่บอกนะ ป้าเอมจะไม่ชอบแปลเป็นประโยคทางการเพราะในชีวิตจริงมันไม่ได้สื่ออารมณ์ขนาดนั้น

เพราะฉะนั้น ก็จะขอแปลแบบชาวบ้านๆว่า "ช่วยหน่อยนะคะ" "รบกวนด้วยนะคะ" หรือ "ฝากด้วยนะคะ" แต่ความหมายแฝงมันก็คือขอความกรุณาน่ะแล่ะค่ะ

มาลองฝึกออกเสียงกันนะคะ นึง ส่อง ซ่ำ

โอ-เน-ไง-ชิ-มัซ

เก่งมากค่ะ

เวลาพูดคำนี้ อาจจะก้มตัวลงเล็กน้อยค่ะ เพื่อแสดงความอ่อนน้อมว่าเราต้องการความกรุณาจากเค้าจริงๆ เคยดูหนังญี่ปุ่นมะเวลาเค้านั่งแล้วพูดคำนี้ โดยเฉพาะกรณีต้องการความช่วยเหลือจริง แทบจะตัวติดพื้นเลยล่ะ มีภาพตัวอย่างมาให้ดูเล่นๆด้วย

 <--- น่ากลัวเล็กน้อยเนอะ 555

อะ...คราวนี้ ป้าเอมก็จะมาแนะนำวิธีพูดที่เป็นการสนทนาธรรมดากับเพื่อนๆนะคะ เพราะ"โอ-เน-ไง-ชิ-มัซ" เนี่ยมันย๊าวยาวเดี๋ยวนักเรียนจะบ่นกันอุบ ถ้าเราพูดสั้นๆกับคนรู้จัก เพื่อนๆ ก็สามารถพูดว่า...

โอ-เน-ไง เนะ

O-NE-GAI (ne)

เจอคำว่า "เนะ" อีกแล้ว ก็ใส่ไว้ท้ายประโยคก็ทำให้อ่อนโยนมากขึ้นนะ "ช่วยหน่อยนะ(ตัวเอง)" "กวนหน่อยนะ (เพื่อน)"
"ฝากด้วยนะ(ตัวเอง)" 555 อะไรประมาณนี้อ่ะ
อย่างป้าเอมจะขอให้นักเรียนฝึกฝนภาษาญี่ปุ่นทุกวัน ป้าเอมก็จะตบท้ายว่า "โอ-เน-ไง-ชิ-มัซ" เพราะคุณครูก็ต้องพูดเพราะๆใช่มะ ต่อไปนี้บางคนอาจจะลองใช้คำว่า "โอ-เน-ไง เนะ" ให้ติดปากตอนท้ายหลังจากที่ขอให้ใครทำอะไรให้ ลองดูนะ "เรียนภาษาให้เก่ง ต้องฝึกใช้จริง" <--- เน้นสโลแกนนี้ 300 รอบค่ะ อิอิ


โพสเมื่อ : 22/6/2007 9:49
_________________
Open in new window
Transfer the post to other applications Transfer


Re: NANI
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404
อ้างถึง:
Ornchan เขียนว่า: มาลองฝึกใช้คำศัพท์ที่ป้าเอมสอนกับสถานการณ์จริงดู อยู่ดีๆ ป้าเอมก็มาพูดกับป้าอรแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ป้าเอม: มีคนบอกว่าชั้น "สวย" ล่ะเธอ ป้าอร: น่าหนี? อุโซ่!!! ใช้ถูกมั๊ยคะ ป้าเอม




ป้าอรคะ



คำว่า "น่าหนี่?" ใช้ถูกต้องค่ะ



แต่คำว่า "อุโซ่" นี่ ใช้ผิดนะคะ เพราะคำนี้จะต้องใช้ในกรณีที่ไม่เป็นความจริง

แต่เรื่อง"ป้าเอมสวย"เนี่ย เป็นความจริง 100% ค่ะ ก๊ากๆๆๆ





โพสเมื่อ : 22/6/2007 8:00
_________________
Open in new window
Transfer the post to other applications Transfer


Re: ช็อกโกแลต -กล้วยเชื่อม เมนูหลับสบาย คลายเครียด
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404
อ้างถึง:
kiat เขียนว่า: อ้างถึง:
สุดท้ายคือสาเหตุจากการเจ็บป่วยทางร่างกาย เช่น การเจ็บไข่ต่างๆ โรคที่รุนแรง และเรื้อรัง หรือโรคที่คาดว่าถึงแก่ชีวิตในที่สุด




ถ้าเจ็บตรงนี้ มันต้องเครียดแน่ๆ ต้องกินช็อคโกแลตกี่แท่งถึงจะหายเครียดล่ะเนี่ย




5555



เวลาเครียด ชอบไปชอปปิ้งอ่ะ และต้องไปกับป้าอรนะ มันส์มั่กๆ

โพสเมื่อ : 21/6/2007 9:38
_________________
Open in new window
Transfer the post to other applications Transfer


NANI? - อะไรเหรอ?
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404




สวัสดีค่ะ

แหม...ขอสารภาพค่ะว่าเมื่อวานไปเฉลยแบบฝึกหัดแล้วก็เลย"อู้"ไม่สอนคำศัพท์ใหม่ไปซะดื้อๆ 555

อะ วันนี้ มาชดเชยให้ละกันน้--า ป้าเอมก็จะมาเสนอคำศัพท์ที่ใช้กันบ๊อยบ่อยค่ะ มาดูกันเลยนะ...

จำลองสถานการณ์...
สรยุทธ์แอบกระซิบกระซาบกับน้องกุ๊ก เอกราชไม่ได้ยินก็เลยเอียงตัวไปผสมโรงและพูดว่า

เอกราช: น่า-หนี ?
สรยุทธ์: ไม่บอกหรอก ฮึ!

ค่ะ ศัพท์วันนี้ก็คือ...

น่า-หนี ?
NA-NI


คำว่า "น่า-หนี ?" ก็แปลว่า "อะไรเหรอ?/อะไรนะ?" นั่นเอง ก็ใช้ในกรณีที่ ไม่ได้ยินแล้วถามซ้ำ(อะไรนะ) หรือ อยากรู้อยากเห็น(อะไรเหรอ) หรือ สงสัย ไม่เข้าใจ ตกใจ งง(อะไรเนี่ย) พอเข้าใจสถานการณ์นะคะ อีกกรณีนึงก็อาจจะมีอารมณ์โกรธนิดๆ เช่นได้ยินคนนินทาก็เลยออกอาการว่า "น่า-หนี!!"(อะไร!!) อันหลังนี่ต้องกระแทกเสียงนิดส์นึงนะ 555

มาออกเสียงพร้อมๆกันดูค่ะ นึง ส่อง ซ่ำ

น่า-หนี ?

เก่งมากค่ะ

คำนี้จริงๆแล้วออกเสียงท้ายขึ้นสูงเพราะเป็นรูปประโยคคำถามไงคะ ถ้าเป็นศัพท์ตัวเดียวโดดๆ ก็จะอ่านว่า "น่า-นิ" แปลว่า "อะไร" คำศัพท์ตัวนี้สามารถอ่านได้อีกแบบ เวลาเอาไปผสมกับคำอื่น มันก็จะเปลี่ยนเป็นเสียง "นัน" แปลว่า "กี่--?"
ยกตัวอย่างเช่น...

"นัน-จิ" = กี่โมง  "นัน-นิน" = กี่คน

แถมคำศัพท์ให้อีกแล้วนะ
อ้อ..."น่า-หนี ?" เนี่ยเป็นรูปสนทนาธรรมดา ถ้าถามแบบรูปสุภาพก็ต้องพูดเต็มๆว่า


"นัน-เดส-ก๊ะ" = "อะไรคะ/ครับ"

เสียงมันเปลี่ยนไป แต่อย่างงละกัน ขยันท่องเข้าไว้ก็จำได้เองค่ะ

หม่าต๊ะ อะชิตะ เนะ


โพสเมื่อ : 21/6/2007 9:32
_________________
Open in new window
Transfer the post to other applications Transfer


Re: ###เฉลยแบบฝึกหัดภาษาญี่ปุ่นวันละคะ-ชุดที่ 1###
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404






1. คนนิจิวะ
2. โอเกงกิเดสก๊ะ
3. โอนากา งะ ซุยตะ  4. อิรัชไชมัสเสะ
5. อิตาดะคิมัส

6. โออิชี่

7. โจตโตะ มัตเตะ เนะ

8. อิคุระเดสก๊ะ

9. หม่าต๊ะ ไอมาโช่ / หม่าต๊ะ อะชิตะ

10. ซาโยนาระ


นักเรียนคุณเกียรติเก่งมาก? ทำถูกไป 9 ข้อค่ะ

แต่ข้อ 6 น่ะ จะตอบว่า "โออิชี่" ก็น่าจะได้ แต่ความจริงต้องกลายเป็นรูปอดีตกาลค่ะ เพราะได้กินแล้ว อร่อยแล้ว

แต่เผอิญว่า ไม่ได้เรียนนะ ก็เลยใช้เป็นคำตอบไม่ได้ค่ะ? ในกรณีนี้ ก็คงต้องใช้ "โอนากา อิปไป" เนี่ยแล่ะเหมาะที่สุด...


โพสเมื่อ : 20/6/2007 6:21
_________________
Open in new window
Transfer the post to other applications Transfer


###เฉลยแบบฝึกหัดภาษาญี่ปุ่นวันละคะ-ชุดที่ 1###
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404



สวัสดีค่ะ

วันนี้ก็เป็นวันที่จะต้องมาเฉลยแบบฝึกหัดกันแล้วนะคะ ก็ตรวจกันดูซิว่า นักเรียนคนไหนทำถูกกี่ข้อ

จงเติมคำที่เหมาะสมลงในช่องว่างให้ได้ใจความ

?????????? เวลาประมาณบ่ายสองโมงวันหนึ่ง? ขณะที่น้องแนน(ท้องลม)เดินอยู่แถวประตูน้ำ ก็เห็นคุณวิทวัส จึงเดินไปทักทายว่า...1 คนนิจิวะ...เสี่ยวิทีรับไหว้และถามกลับว่า ...2 โอเกงขิเดสก๊ะ... น้องแนนยิ้มหวานแล้วตอบว่า "สบายดีค่ะ ขอบคุณค่ะ"? จากนั้น? จึงชวนน้องแนนเข้าไปกินอาหารว่างที่ร้านข้าวมันไก่ยอดนิยม น้องแนนแสนดีใจบอกว่า "อู๊ย ดีจังค่ะ กำลัง ...3 โอนาก ซุยตะ... อยู่พอดีเลย" ขณะที่ทั้งสองคนเดินเข้าไปนั่งในร้านเจ้าของร้านก็ตะโกนรับแขกว่า ...4 อิรัชชัยมาเซะ...???????????
????????? เมื่ออาหารมาถึงโต๊ะ ทั้งสองก็กล่าวคำว่า ...5 อิตะดาคิมัซ... พร้อมกันก่อนจะลงมือโซ้ย หลังจากนั้นทั้งคู่ก็โจ้ไก่กันไปประมาณสองตัว เสี่ยวีทีเรอเสียงดัง และบอกน้องแนนว่า ...6 โอนากา อิปไป... แต่ขณะที่น้องแนนกำลังจะเอ่ยปากขอร้องให้เสี่ยวีทีสั่งไก่เพิ่มให้อีกหนึ่งตัว พลันเสียงโทรศัพท์ทือถือก็ดังขึ้น เสี่ยวีทีก็เลยบอกน้องแนนว่า ...7 โจ๊ตโตะ มัตเตะ เนะ...??
????????? พอคุยธุระเสร็จ เสี่ยวีทีก็กลับมาแล้วเรียกเช็คบิล เจ้าของร้านมาที่โต๊ะ เสี่ยวีทีก็ถามค่าอาหารว่า ...8 อิคุระเดสก๊ะ... และชำระค่าอาหารเรียบร้อย ก่อนแยกจากกัน น้องแนนเอ่ยคำลาแบบมีความหวังว่าจะได้กินข้าวฟรีอีกว่า ...9 หม่าต๊ะ ไอมาโช่... แต่เสี่ยวีทีรู้แกว ไม่ยอมให้น้องแนนหลอกกินฟรีอีก จึงกล่าวคำลาแบบไม่มีเยื่อใยว่า ...10 ซาโยนาระ...?? (จบ)


โพสเมื่อ : 20/6/2007 6:18
_________________
Open in new window
Transfer the post to other applications Transfer


YASUI - (ราคา)ถูก
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404




สวัสดีค่ะ

วันนี้เราก็มาต่อกันที่คำต่อไป ที่เกี่ยวกับเรื่องของการถามราคากันเลยนะคะ

เมื่อวานเราเรียนคำว่า "ถะ-ไก้" (แพง) กันไปแล้ว คราวนี้ก็มีคำศัพท์ที่ตรงกันข้ามกันใช่มั้ยคะ คำนั้นก็คือ...

"ยา-ซุ่ย"




YA-SUI

ค่ะ "ยา-ซุ่ย" ก็แปลว่า "ถูก" นั่นเอง ง่ายมากนะคะ


ลองมาออกเสียงกันนะคะ นึง ส่อง ซ่ำ

ยา-ซุ่ย

เก่งมากค่ะ


เอาล่ะ ไหนๆก็เรียนซีรีส์เรื่องเกี่ยวกับราคากันไปแล้ว มาทบทวนกันทั้งเซ็ทดีมั้ยคะ

"อิ-คุ-ระ เดส-ก๊ะ"  "ราคาเท่าไหร่คะ/ครับ"

"ถะ-ไก้"  "แพง"

"ยา-ซุ่ย"  "ถูก"

ป้าเอมแนะนำว่า เทคนิคในการจำคำศัพท์เนี่ย ขอให้จำกันเป็นหมวดหมู่เดียวกันนะคะ ถ้าจำศัพท์กระจัดกระจายมันจะนึกไม่ออกค่ะอันนี้ก็เป็นหลักในการท่องศัพท์ของป้าเอมเอง เหมือนกับเรา sorting สมองให้เป็นเรื่องๆ พอได้ยินศัพท์คำไหน คำที่เกี่ยวข้องกัน มันก็จะผุดตามมาเป็นชุดเลยล่ะค่ะ ลองฝึกกันดูนะคะ


โพสเมื่อ : 19/6/2007 6:17
_________________
Open in new window
Transfer the post to other applications Transfer


Re: TAKAI
มืออาชีพ
เป็นสมาชิกเมื่อ:
21/5/2007 18:21
กลุ่ม:
สมาชิก
โพส: 404
อ้างถึง:

kiat เขียนว่า:
ขอถามเซนเซย์หน่อยนึ่ง ตัวตะ อ่านได้ทั้ง ตะและ ถะ เหมือนคนไทยที่อ่านตัว T เลยใช่ไหมครับ คำนี้จะจำเป็น ตะไก (ตัดผ้า) แทนไ้ด้ไหม ศัพท์เยอะชักมึน 555


ตอบคำถามนักเรียนค่ะ
อันที่จริง เสียง T ในภาษาญี่ปุ่นเนี่ย มันควรจะต้องอ่านเป็นเสียงแบบ ท ทหาร (หรือ ถ ถุง) แต่มีหลักนิดนึง เท่าที่ป้าเอมฟังคนญี่ปุ่นออกเสียงมา
เค้าจะเสียง ท เมื่อเป็นคำหน้าประโยค แต่ถ้าเสียง T ไปอยู่ในประโยค หรือ
ท้ายประโยค มักจะได้ยินเป็นเสียง ต นะ
ป้าเอมว่า แล้วแต่สำเนียงด้วยอ่ะ แต่หลักข้างบนเนี่ย น่าจะใช้ได้
เช่น คำว่า Ta-be-ta แปลว่า กินแล้ว มันจะออกเสียงว่า ทะ-เบะ-ตะ
พอจับหลักได้มากขึ้นมั้ยคะ...

ส่วนคำว่า Takai จะมีเทคนิคส่วนตัวจำเป็น "ตะไก" ก็ได้ค่ะ ดีมากเลย
อันนี้สนับสนุน เพราะป้าเอมจะหาคำศัพท์ไทยที่พ้องเสียงมาใช้ช่วยจำบ่อยๆ
เวรี กู๊ด ค่ะ 555

โพสเมื่อ : 18/6/2007 18:01
_________________
Open in new window
Transfer the post to other applications Transfer